ครูสาวอยู่เวรหวิดถูกข่มขืน คาใจการทำงานของตำรวจ ลั่น ความปลอดภัยอยู่ที่ไหน?

ครูสาวอยู่เวรหวิดถูกข่มขืน คาใจการทำงานของตำรวจ ลั่น ความปลอดภัยอยู่ที่ไหน?

ครูสาวอยู่เวรหวิดถูกข่มขืน คาใจการทำงานของตำรวจ ลั่น ความปลอดภัยอยู่ที่ไหน?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หนุ่มเมายาบุกข่มขืนครูสาว วิ่งหนีออกจากโรงเรียนรอดหวุดหวิด คาใจกับการทำงานของตำรวจ วีรกรรมเพียบยังถูกปล่อยจากคุก
จากกรณีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 แชร์ข้อความจากครูท่านหนึ่ง เล่าเรื่องราวของครูผู้ช่วยสาวที่เกือบจะถูกข่มขืนที่โรงเรียน ข้อความระบุว่า
เรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อวันอังคาร ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2566 เป็นเรื่องจริง ช่วงเวลา 17:30 น. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ยิ่งย้ำชัดเจนเลยว่าความปลอดภัยในโรงเรียน(ขนาดเล็ก)เป็นศูนย์ ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยอีกต่อไป
ความปลอดภัยในชีวิตครูอยู่ตรงไหน?
น้องครูผู้ช่วยทักหา ว่ามีคนแปลกหน้ามาในโรงเรียน แล้วถ่ายรูปคนแปลกหน้าให้เราดู เราจึงบอกน้องไป ให้รีบหนีออกจากโรงเรียน ไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่โรงเรียน เวลาผ่านไปไม่กี่นาที น้องครูผู้ช่วยโทรหาคล้ายกับขอความช่วยเหลือ พี่อยู่ไหน? มันถามน้องว่าอยู่บ้านพักครูคนเดียวหรอ ? ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้อยู่ใกล้โรงเรียนเลย ตอบน้องกลับไปว่าพี่อยู่ในเมือง กำลังจะกลับ ตอนนี้มันอยู่ รีบหนีขึ้นรถ หนีออกมาก่อน ลางสังหรณ์ใจไม่ดีแล้ว
ผ่านไปสักพัก แฟนน้องครูผู้ช่วยโทรหาว่าติดต่อแฟนไม่ได้เลยรบกวนพี่ติดต่อให้หน่อย ทั้งเราและแฟนน้องครูผู้ช่วย พยายามติดต่อน้องครูผู้ช่วย ซึ่งโทรติดแต่ไม่มีใครรับสาย ครูที่โรงเรียนก็โทรมาถาม ไม่นานเลยมีเบอร์แปลกโทรหา ถามว่าครูอยู่ไหน รีบมาโรงเรียน และก็มีชาวบ้านโทรเฟซบุ๊กมาหาให้รีบมา ในใจภาวนาอย่าเป็นอะไรเลย
พอถึงโรงเรียน บริเวณหน้าโรงเรียนเต็มไปด้วยชาวบ้าน ใจก็เสียไปแล้วระดับนึง พอเห็นหน้าน้องครูผู้ช่วยก็ปล่อยโฮ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก #คนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายขณะที่จะล็อกประตูบ้านพักครูทำร้ายร่างกายน้องครูผู้ช่วยเพื่อหวังจะข่มขืน แต่วิ่งหนีออกจากโรงเรียนมาได้ และได้มาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่บริเวณหน้าโรงเรียน กว่าจะจับคนร้ายได้กินเวลาไปรวมชั่วโมง เพราะอะไรนั้นหรอ
- แจ้งตำรวจไปแล้ว มีตำรวจอยู่ในพื้นที่ แต่ไม่สามารถจับได้ต้องรอกำลังเสริม
- กำนันมาถึงที่เกิดเหตุขึ้นแล้ว แต่ต้องโทรประสานชมรม
- ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่มาถึงแล้ว แต่ต้องกลับไปใส่ชุด ถ้าไม่มีชุดไม่สามารถจับคนร้ายได้ (อิหยังวะ) ซึ่งชาวบ้านไม่สามารถไปจับคนร้ายได้ ต้องรอตำรวจก่อน ตำรวจพื้นที่สั่งไว้ เดี๋ยวมันเกินกว่าเหตุ
ยิ่งไปกว่านั้นคนร้ายเคยก่อเหตุเผาบ้านตัวเอง และทำร้ายคนในหมู่บ้านและถูกปล่อยตัวออกมา คนร้ายยังมีพฤติกรรมลักขโมย จนมาก่อเหตุอีกครั้ง #ตำรวจบอกว่าคนเสพยาบ้ามีและบ้ามีเยอะต้องดูแลตัวเองตำรวจจับไม่ไหวหรอก
คำถามเกิดขึ้นในใจมากมาย… มันมีเยอะมาก
1. เรามีความปลอดภัยของผู้เรียน แล้วความปลอดภัยในชีวิตครูอยู่ไหน ?
2. เลิกมองว่าครูต้องเสียสละ ยิ่งเป็นครูตามชนบทแล้ว ครูคืออาชีพอาชีพนึง
3. โรงเรียนขนาดเล็ก ให้ครูเป็นทุกอย่างไม่ได้ (เราทำทุกอย่างจริงๆ) ก่อนจะยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคืนครูให้ห้องเรียน คืนครูให้ครบชั้นก่อน
4. เรื่องครูอยู่เวร ยังไม่เข้าใจระบบนี้เลย การให้ครูอยู่เวรยาม เกิดเหตุอะไรขึ้นใครจะมารับผิดชอบชีวิตครู มาห่วงแต่ทรัพย์สินทางราชการแต่ไม่ห่วงความปลอดภัยในชีวิตครู เราจะเยียวยายังไง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (11 พ.ค.66) หลังจากที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง จังหวัดขอนแก่น สามารถจับกุมตัวนายอนุวัฒน์ อายุ 33 ปี  หลังก่อเหตุเข้าไปพยายามข่มขืนครูผู้ช่วยสาว ที่กำลังเข้าเวรภายในโรงเรียนบ้านหนองแวง ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ก่อนจะพยายามข่มขืนแต่ครูผู้ช่วยได้หลบหนีเอาชีวิตรอดออกมาได้ ก่อนแจ้งผู้ใหญ่บ้านชาวบ้านและตำรวจได้เข้ามาจับกุมตัวได้สำเร็จ ในวันนี้ที่โรงเรียนบ้านหนองแวง ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบความคืบหน้า พบว่าที่โรงเรียนมีเพียงครูจำนวน 2 คน ที่มาเข้าเวรตามปกติ โดยจะทำการเปิดเทอมในวันที่ 16 พ.ค.นี้ ส่วนบ้านพักครูมีกุญแจล็อกประตูทั้งด้านบนและด้านล่าง ไม่พบครูผู้ถูกทำร้าย เนื่องจากได้ย้ายออกจากบ้านพักไปอยู่ที่ภูมิลำเนาตนเอง ต่างหมู่บ้าน ซึ่งไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ เนื่องจากอยู่ในช่วงที่กำลังทำใจ เพราะเพิ่งพบเหตุร้ายกับตนเอง

โดยนายนฤเดช มะสีโย กำนันตำบลบัวเงิน บอกว่า ปกติทางหมู่บ้านจะจัดเวรยามในการออกตรวจความเรียบร้อยของหมู่บ้าน ซึ่งในวันเกิดเหตุคือวันที่ 9 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายจะเข้าไปข่มขืนและทำร้ายครู เมื่อมาถึงโรงเรียนตนเองก็เห็นกลุ่มชายประมาณ 5 คน อยู่ข้างโรงเรียนจึงถามว่า มีใครเฝ้าคนร้ายหรือไม่เพราะกลัวคนร้ายจะหนี จนกระทั่งคนก่อเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือนายอนุวัฒน์ ได้กระโดดขึ้นมาบนกำแพงโรงเรียน เจอกับพวกตนเองและคนร้ายได้มีการขอบุหรี่สูบ

จากนั้น ตนเองจึงใช้ช่วงนี้เข้าชาร์จตัวนายอนุวัฒน์ลงจากกำแพง พร้อมกับใส่กุญแจมือก่อนที่จะควบคุมตัวนายอนุวัฒน์มาที่หน้าโรงเรียน จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง ตำรวจได้มาควบคุมตัวนายอนุวัฒน์ไปที่ สภ.น้ำพอง ซึ่งขณะควบคุมตัวนายอนุวัฒน์ได้มีการพูดถึงเรื่องยาเสพติด ที่ได้ซื้อมาจากที่ไหนด้วย

ด้านครูเตย (สงวนชื่อนามสกุล) ผู้โพสต์ลงข้อความทางเฟซบุ๊ก และเป็นคนถ่ายคลิปขณะเกิดเหตุ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนเองได้บันทึกภาพไว้ แต่ทำไม ถึงเกิดความล่าช้าในการที่ประสานเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมตัวคนก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายที่มาก่อเหตุ เป็นคนที่มีประวัติติดยาเสพติดมาก่อน และเคยก่อเหตุเผาบ้านตัวเองมาแล้ว และยังมีคดีที่คนร้าย ได้มาก่อเหตุถ้ำมองลูกสาวคนในหมู่บ้าน จนกระทั่งมาก่อเหตุกับครูผู้ช่วยที่โรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งตนเองมองว่าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ อยากให้มีการเข้ามาจับกุมตัวอย่างรวดเร็ว เพราะถือว่าเป็นภัยมาก

นายรณยุทธ์ อายุ 41 ปี ชาวบ้านที่เข้าไปช่วยเหลือ เล่าว่า ขณะนั้นตนขับรถมาจากทำธุระ พอมาจอดที่หน้าบ้าน ก็พบครูผู้เสียหายวิ่งออกมาจากภายในโรงเรียนด้วยอาการตกใจและร้องไห้ พร้อม กลับบอกว่า จะโดนข่มขืน และคนร้ายได้บีบคอ ทำร้ายจนปากแตก ตนจึงวิ่งเข้าไปภายในโรงเรียนก็พบคนร้ายกำลังนั่งบ่นอยู่คนเดียว ไม่ไปไหน แล้วบอกอย่าให้เข้าไปใกล้ แล้วเดินวนไปวนมา เหตุเกิดตั้งแต่เวลาประมาณ 17.30 น. จนถึงเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันเกิดเหตุ คนร้ายก็เดินไปที่กำแพงข้างโรงเรียน ตนและทางกำนันผู้ใหญ่บ้าน จึงช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางมาควบคุมตัวไป สภ.น้ำพอง

ด้านนางกรรณิกา ซาหยอง รองผู้สำนักงานพื้นที่ประถมศึกษา เขต 4 ขอนแก่น ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และพูดกับกับบุคลากร และผู้นำชุมชนก่อนเดินตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกล่าวว่า การช่วยเหลือเบื้องต้น ทางโรงเรียนผู้อำนวยการไม่ได้นิ่งนอนใจ ให้การช่วยเหลือ และพาไปแจ้งความ พาไปดำเนินการตามขั้นตอนของคดี ซึ่งการที่ครูผู้เสียหายต้องย้ายออกไปกะทันหัน เป็นความต้องการของผู้เสียหายที่มีความประสงค์ จะขอย้ายไปช่วยราชการที่โรงเรียนใกล้บ้าน เนื่องจากว่าผู้เสียหายมีความหวาดผวา เกรงกลัว

สำหรับ นายอนุวัฒน์ เคยจำคุกหลังก่อเหตุเผาบ้านตัวเองเมื่อ 3 ปีก่อน และเพิ่งพ้นโทษออกมาช่วงต้นปี 66 และเมื่อกลับมาบ้านก็เห็นครูผู้ช่วยมาสอนเด็กๆ ที่โรงเรียนก็เกิดแอบชอบ และมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า นายอนุวัฒน์ ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้าไป 3 เม็ด ก่อนมาก่อเหตุ โดยพนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหา บุกรุกเคหสถาน , กระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอนเฟตามีน (ยาบ้า) ก่อนคุมตัวไว้ในห้องควบคุมผู้ต้องหา เตรียมส่งฟ้องศาลฝากขังในวันนี้ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook