60 ปี Peace Corps สานสัมพันธ์ไทย - สหรัฐฯ ผ่านงานอาสาสมัครเพื่ออนาคตของเยาวชน

Highlight

• Peace Corps หรือหน่วยสันติภาพ คือหน่วยงานหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 โดยประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ เพื่อสร้างสันติสุขและมิตรภาพในต่างประเทศทั่วโลก 
• อาสาสมัครหน่วยสันติภาพเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 โดยช่วยปฏิบัติงานให้กับหน่วยราชการของไทย ซึ่งปัจจุบันนี้ อาสาสมัครจะเข้ามาดำเนินงานความร่วมมือใน 2 โครงการ คือ โครงการเพื่อนครูเพื่อการพัฒนาและโครงการสร้างเยาวชนเพื่อการพัฒนา เป็นระยะเวลา 2 ปี
• อาสาสมัครหน่วยสันติภาพมากกว่า 5,500 คน มีโอกาสได้เข้ามาร่วมทำงานพัฒนากับชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย เป็นเวลามากกว่า 60 ปี แต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ทำให้การปฏิบัติงานของอาสาสมัครต้องหยุดชะงักลง
• ปี 2566 อาสาสมัครหน่วยสันติภาพ รุ่น 134 ได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ให้ประเทศไทยอีกครั้ง โดยได้ผ่านการฝึกอบรมเตรียมความพร้อมเป็นเวลา 10 สัปดาห์ ก่อนกระจายตัวไป 29 จังหวัดทั่วประเทศ​
• พิธีสาบานตนของอาสาสมัครจัดขึ้นพร้อมกับงานฉลองครบรอบ 60 ปีของการร่วมมือระหว่างหน่วยสันติภาพ รัฐบาลและประชาชนชาวไทย

เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นและประหลาดใจเสมอ เวลาที่ได้เจอชาวต่างชาติที่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งการได้มีโอกาสเข้าร่วมงานพิธีสาบานตนของอาสาสมัครหน่วยสันติภาพ (Peace Corps) ณ จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็ได้สร้างความตกใจให้กับทีมงาน Sanook เป็นอย่างมาก เพราะอาสาสมัครชาวอเมริกันทุกคนสามารถใช้ภาษาไทยได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังขึ้นแสดงการร้องเพลงไทยให้พวกเรารับฟัง แต่นอกเหนือจากความสามารถด้านภาษาของอาสาสมัครหน่วยสันติภาพแล้ว เป้าหมายของการเดินทางมาที่ประเทศไทยของอาสาสมัครกลุ่มนี้ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ทั้งการเข้าไปปฏิบัติงานพัฒนาในชุมชนร่วมกับเพื่อนร่วมงานชาวไทย การใช้ชีวิตอยู่กับคนในพื้นที่ พร้อมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน 

กว่า 6 ทศวรรษที่หน่วยสันติภาพสหรัฐอเมริกา ได้เข้ามาช่วยเหลือด้านการศึกษาภาษาอังกฤษในประเทศไทย และนี่คือเรื่องราวของอาสาสมัครหน่วยสันติภาพรุ่นที่ 134 ซึ่งเป็นอาสาสมัครกลุ่มล่าสุดที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่และเรียนรู้วัฒนธรรมไทยกับคนท้องถิ่นทั่วประเทศ

Peace Corps คืออะไร

Peace Corps หรือหน่วยสันติภาพ คือหน่วยงานหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 โดยประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ เพื่อสร้างสันติสุขและมิตรภาพในต่างประเทศทั่วโลก อาสาสมัครจะเข้าไปทำงานร่วมกับคนในชุมชนของประเทศนั้น ๆ ภายใต้โครงการด้านการศึกษา สุขภาพ สิ่งแวดล้อม เกษตรกรรม การพัฒนาเศรษฐกิจระดับชุมชน และการพัฒนาเยาวชน

จนถึงวันนี้ หน่วยสันติภาพมีอาสาสมัครมากกว่า 240,000 คน ที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ใน 142 ประเทศทั่วโลก

“Peace Corps คือความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน เป็นแนวคิดที่ทรงพลัง และต้องขอบคุณประธานาธิบดีเคนเนดี้ ต้องขอบคุณสภาคองเกรสที่ทำให้แนวคิดนี้เกิดขึ้นจริง ที่สำคัญคือต้องขอบคุณประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ที่ให้การต้อนรับอาสาสมัครของเรา” โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย กล่าว 

โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย

“Peace Corps ได้รับเชิญจากรัฐบาลไทย เพื่อมาช่วยเหลือเรื่องการสอนภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเยาวชนทั่วโลก ในฐานะที่เป็นภาษาแห่งโอกาส โดยอาสาสมัครของเราจะทำงานกับนักเรียนและคุณครู เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ” แครอล สปาห์น ผู้อำนวยการหน่วยสันติภาพ เสริม

แครอล สปาห์น ผู้อำนวยการหน่วยสันติภาพ

อาสาสมัครหน่วยสันติภาพในประเทศไทย

อาสาสมัครหน่วยสันติภาพเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 โดยช่วยปฏิบัติงานให้กับหน่วยราชการของไทย ทั้งในด้านการศึกษาภาษาอังกฤษ การเกษตรและการพัฒนาชนบท และด้านสาธารณสุข ซึ่งปัจจุบันนี้ อาสาสมัครจะเข้ามาดำเนินงานความร่วมมือใน 2 โครงการ คือ โครงการเพื่อนครูเพื่อการพัฒนาและโครงการสร้างเยาวชนเพื่อการพัฒนา เป็นระยะเวลา 2 ปี

ซอนนี่ ลูอ์ ผู้อำนวยการหน่วยสันติภาพ ประเทศไทย

“โครงการทั้งสองนี้ทำงานควบคู่กันเพื่อให้ความรู้แก่เยาวชนไทยในการศึกษาภาษาอังกฤษ ที่สำคัญไม่แพ้กันคือช่วยพัฒนาความมั่นใจและทักษะที่เยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศไทย จะต้องเอาชนะความท้าทายต่าง ๆ ในอนาคต” ซอนนี่ ลูอ์ ผู้อำนวยการหน่วยสันติภาพ ประเทศไทย กล่าว

“เรามาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับคนไทย และตอนเรากลับไปที่ประเทศอเมริกา เราก็จะไปเล่าเรื่องวัฒนธรรมไทยให้คนอเมริกันได้รู้ แล้วเรายังมาที่นี่เพื่อทำงานกับชุมชน” เคลา คาวาเลค หนึ่งในอาสาสมัครหน่วยสันติภาพ บอกกับเรา 

เคลา คาวาเลค อาสาสมัครหน่วยสันติภาพ

60 ปีสายสัมพันธ์ไทย - สหรัฐฯ​

อาสาสมัครหน่วยสันติภาพมากกว่า 5,500 คน มีโอกาสได้เข้ามาร่วมทำงานพัฒนากับชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย เป็นเวลามากกว่า 60 ปี อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ทำให้การปฏิบัติงานของอาสาสมัครต้องหยุดชะงักลง โดยอาสาสมัครจำนวน 128 คน ต้องอพยพกลับประเทศสหรัฐฯ วันที่ 20 มีนาคม 2563 

“กว่า 6 ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยยังคงให้การต้อนรับอาสาสมัครของหน่วยสันติภาพ มีเพียงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เท่านั้นที่ถูกขัดจังหวะ รัฐบาลไทยและรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งและมั่นคงในภารกิจส่งเสริมสันติภาพและมิตรภาพของโลก” โกเดคกล่าว

“เราต้องเลื่อนการเฉลิมฉลองงานครบรอบ 60 ปีออกไป เพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ในขณะที่การเฉลิมฉลองต้องเลื่อนออกไป และส่งผลต่อชีวิตของเราในหลายด้าน สิ่งที่สถานการณ์นี้ไม่เคยเป็นอุปสรรคของเรา คือการพยายามนำอาสาสมัครของหน่วยสันติภาพกลับมาปฏิบัติงานที่ประเทศไทย และท่ามกลางความท้าทายมากมาย เรายังคงยึดมั่นในพันธะสัญญาที่มีต่อกัน เราจึงพร้อมที่จะนำอาสาสมัครกลับมาเพื่อเชื่อมต่อ 60 ปีของสายสัมพันธ์แห่งมิตรภาพและการพัฒนาร่วมกันระหว่างชาวไทยและชาวอเมริกัน” ลูอ์เสริม

เตรียมพร้อมอาสาสมัครก่อนเข้าสู่ชุมชน

จุดเด่นของการเป็นอาสาสมัครหน่วยสันติภาพ คือการได้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนร่วมกับคนในท้องถิ่น พร้อมเรียนรู้ภาษา ศิลปะ และวัฒนธรรมไทย เป็นเวลา 2 ปี อย่างไรก็ตาม ก่อนที่อาสาสมัครอเมริกันจะเข้าไปอยู่ในชุมชน หน่วยสันติภาพจะมีจัดอบรมเตรียมความพร้อมให้กับอาสาสมัครก่อนเสมอ 

ไซมอน มาเยฟกี้ อาสาสมัครหน่วยสันติภาพ

“เรามีครูฝึกคนไทยที่ตะสอนอาสาสมัครเรื่องวัฒนธรรมไทย ภาษา อาหาร พวกเขาจะได้เรียนรู้วิธีพูดภาษาไทย เรียนวิธีกินอาหาร แล้วก็เรียนเรื่องวัฒนธรรม ซึ่งวัฒนธรรมที่มีความแตกต่างกันมาก ก็เป็นอีกความท้าทายหนึ่ง เราจึงต้องให้พวกเขาอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ เพื่อที่พวกเขาจะได้มีโอกาสเรียนรู้จากครอบครัวอุปถัมภ์ว่าคนไทยเป็นอย่างไร ทำความเข้าใจเรื่องลำดับชั้นในครอบครัว การทำความเคารพผู้สูงอายุ ซึ่งนั่นก็เป็นบทเรียนสำคัญที่พวกเขาจะได้เรียนรู้ในช่วงที่อยู่ที่นี่” ลูอ์อธิบาย 

ไซมอน มาเยฟกี้ อาสาสมัครหน่วยสันติภาพอีกคนหนึ่ง เล่าให้เราฟังว่าเขารักครอบครัวอุปถัมภ์ชาวไทยของเขามาก เพราะพวกเขารักและดูแลไซมอนเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับเคลาที่บอกว่าครอบครัวอุปถัมภ์ใจดีกับเธอมาก

พิธีสาบานตนของอาสาสมัครหน่วยสันติภาพ ปี พ.ศ. 2566 นี้ จัดขึ้นพร้อมกับงานฉลองครบรอบ 60 ปีของหน่วยสันติภาพ ประเทศไทย ซึ่งยังคงอบอุ่นและเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความตั้งใจของอาสาสมัครชาวอเมริกัน ที่อยากจะทำงานร่วมกับคนไทยเพื่อพัฒนาความมั่นใจและทักษะภาษาอังกฤษให้กับเยาวชนไทย ซึ่งจะเป็นอนาคตของประเทศในอนาคต