"พิธา" ยิ้มปลื้ม โพลนำอันดับ 1 นายกฯ เชื่อตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้ ร่วมมือฝ่ายค้านเดิม

"พิธา" ยิ้มแก้มปริ ปลื้มโพลนำอันดับ 1 นายกฯ ที่คนไว้วางใจ คาดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้ ร่วมมือฝ่ายค้านเดิม

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ รัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการปิดหีบเลือกตั้ง ปี 2566 ระบุว่า จากโพลเป็นอันดับ 1 นายกรัฐมนตรีที่ประชาชนไว้วางใจนั้น ขอบคุณในความไว้วางใจ ตอนนี้แนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยยังมีความเป็นไปได้หรือไม่ นายพิธาตอบว่า ผมพูดชัดตั้งแต่ก่อนลงคะแนนว่าการทำงานร่วมกันของพรรคฝ่ายค้าน ณ ปัจจุบันน่าจะตอบโจทย์ความท้าทายของประเทศมากที่สุด

นิด้าโพลบอกว่าพรรคก้าวไกลจะได้รับความนิยมคะแนนแบบบัญชีรายชื่อสูงกว่าพรรคเพื่อไทย แต่คะแนนแบบแบ่งเขตจะได้มากกว่า จะมีผลกับการต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายพิธาตอบว่า ยังไม่ได้ดูรายละเอียด แต่ถ้าเป็นการต่อรองก็จะเป็นการต่อรองเพื่อผลประโยชน์ขอวประชาชน คิดถึงประชาชนเป็นตัวตั้งและนโยบาย ตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นแค่สะพานในการที่ผลักดันนโยบาย เราไม่ได้ซีเรียส แต่สิ่งที่เราสัญญากับประชาชนไว้เราต้องทำให้ได้ นี่คือเงื่อนไข ทั้งนี้ตนตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ ต้องประชุมร่วมกันกับคณะกรรมการบริหารพรรค ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดต้อง ให้ผลการนับคะแนนแบบไม่เป็นทางการออกมา แล้วเราค่อยตัดสินใจ

เมื่อถามถึง MOU ในการจัดตั้งรัฐบาล ว่าต้องมีการคลับเคลื่อนนโยบายของพรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่ นายพิธาตอบว่าตั้งไว้อย่างนั้น เมื่อถามถึงความรู้สึก นายพิธาตอบว่ารู้สึกดีใจและมีความสุข รู้สึกสนุกกับงานที่ทำ รู้สึกว่าการที่ได้ลงพื้นที่ในการหาเสียงที่ผ่านมาทำให้ได้ใกล้ชิดกับประชาชน และได้ทำงานกับคนของพรรคก้าวไกล รวมถึงหัวคะแนนธรรมชาติที่ทำให้การเมืองไทยคึกคักมากขึ้น ไม่ใช่แต่เรื่องของพรรคก้าวไกล แต่เป็นเรื่องของประชาธิปไตยและสังคมไทยที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า ยกความดีความชอบให้กับการทำงานของลูกพรรคที่ตั้งใจทำงานกันเต็มที่ ทุกคะแนนที่ประชาชนให้มา ถ้ามีโอกาส

เมื่อถามถึงความกังวลเรื่องซื้อเสียง นายพิธาตอบว่า แน่นอนว่ากังวล และเรื่องนี้เป็นเรื่องของระบบทั้งหมด เมื่อได้รับแจ้งก็รวบรวมไว้และตรวจสอบข้อเท็จจริงสักเล็กน้อย ถ้ามีมูลขึ้นมาก็พร้อมให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการ เพื่อให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ ยุติธรรม และตรงกับเจตจำนงค์ของประชาชนมากที่สุด ค่อยๆ วางแผนไปทีละเรียก เราเข้าใจว่าเป็นส่วนหนึ่งจองการเมืองที่ เมื่อมีพลังสังคมใหม่ ๆ เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลง ตามความจริงก็ต้องรับฟังกัน พูดคุยกัน มีวุฒิภาวะและความอดทน แต่ในเรื่องของสิชามารเราก็ยังคงต้องเตรียมรับมือ

ถ้าฝั่งลุงพลิกล็อคขึ้นมาจะทำอย่างไรต่อ นายพิธากล่าวว่า ต้องดูจากตัวเลข แต่ตนคิดว่า ณ ปัจจุบันนี้ เป็นสมมุติฐานที่ไม่ใกล้กับความเป็นจริงเท่าไหร่ เพราะตัวเลขออกมาชัดเจนว่าประชาชน อาจต้องการความเปลี่ยนแปลง นั้นต้องจับตาการนัยคะแนนให้ออกมาบริสุทธิ์ที่สุด เมื่อถามว่าผลการนับคะแนนเป็นที่น่าพอใจหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ทั้งน่าพอใจและไม่น่าพอใจ สิ่งที่น่าพอใจคือเขตในพื้นที่ กทม. ที่โพลออกมา ตัวเลขที่นับก็ตรงกับโพล ในขณะที่ต่างจังหวัดเราก็ยังนำอยู่หลายพื้นที่ทั้งในภาคเหนือและภาคอีสาน ถ้ามารวมกันคิดว่าทะลุเป้าสามหลัก

พรรคร่วมรัฐบาลอยากเปลี่ยนอุดมการณ์มาร่วมกับก้าวไกลพอที่จะเป็นไปได้หรือไม่ นายพิธาตอบว่า เปลี่ยนอุดมการณ์คงคุยกันยาก แต่จุดยืนที่ยังชัดอยู่คือมีลุงไม่มีเรา แต่ถ้าเปลี่ยนอุดมการณ์จริงก็ต้องมานั่งพูดคุยกันว่าอุดมการณ์คืออะไร ส่วนไม่ชื่อพลเอกประยุทธ์หรือพลเอกประวิตร นั้นไม่เกี่ยวกัน แต่คือพรรคนั่นคือรวมไทยสร้างชาติและพลังประชารัฐ เมื่อถามว่าภูมิใจไทยด้วยหรือไม่ นายพิธาบอกว่าต้องมาคุยกันอีกทีดูน้ำหนักทางการเมือง แต่ถ้าดูจากตัวเลขของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เราเห็นก็ไม่มีความจำเป็น

เมื่อถามว่าหากผลสรุปได้เป็นพรรคอันดับ 1 พร้อมจัดตั้งรัฐบาลเลยหรือไม่ ตามฉันทามติพรรคที่ได้ ส.ส. มากสุด จัดตั้งรัฐบาลได้ทันที “ตอนนี้ไม่มีกังวลอะไรเลย ดีใจ มีความสุข รู้สึกว่าการเมืองไทยคึกคักขึ้น รู้สึกว่าได้ทำเต็มที่ ตามความตั้งใจที่ผ่านมาแล้ว”

•  ประวัติทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หนุ่มนักเรียนทุนฮาร์วาร์ดคนแรกของไทย