ฉายาคนกีฬาปี 2552

ฉายาคนกีฬาปี 2552

ฉายาคนกีฬาปี 2552
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย คลอด 15 ฉายาคนกีฬาแห่งปี ยก ชุมพล ศิลปอาชา รมต.กีฬา "ถามเติ้งดูก่อน" เหตุทำงานเหมือนเป็นไปตามใบสั่งของพี่ชายอย่างเดียว ขณะที่ "เจ้าเอ็กซ์" จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม มือปืนเจ้าปัญหา ได้ฉายา "โป้ง...(ป๊อก) ระอา จากวีรกรรมในรอบปีที่ทำเอาผู้ใหญ่ปวดเศียรเวียนเกล้าไปตามๆ กัน ส่วนคู่กัด ปองพล อดิเรกสาร ได้เป็น "นักฆ่าเลือดเย็น" หลังตามจองเวรขวางเส้นทางในทีมชาติของตัวนักกีฬากัน มาตลอดทั้งปี ด้าน "บังยี" วรวีร์ มะกูดี หนีไม่รอด ถูกยกเป็น "9 ที่พลาด" เหตุทำบอลไทยชวดแชมป์ซีเกมส์สมัยที่ 9 และยังตัดสินใจเรื่องการบริหารสมาคมลูกหนังผิดพลาดอีกหลายครั้ง

สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ตั้งฉายา "คนกีฬาแห่งปี" โดยนำพฤติกรรมและบุคลิกของบุคคลในวงการกีฬาทั้งผู้บริหาร นักกีฬา และผู้ที่เกี่ยวข้อง มาเรียกในฉายาใหม่ๆ เป็นการหยิกแกมหยอกส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2553 ซึ่งหลังจากที่ประชุมหารือและคัดกรองกันอย่างละเอียดถี่ถ้วน ที่สุดก็ได้บุคคลที่จะได้รับฉายาประจำปีนี้รวมทั้งสิ้น 15 คน ประกอบด้วย

นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา "ถามเติ้งดูก่อน" ในรอบปีที่ผ่านมาการทำงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ มีนายชุมพลเป็นเจ้ากระทรวงนั้น ผลงานที่ปรากฏต่อสาธารณชนไม่เป็นที่โดดเด่นเท่าที่ควร แถมส่วนใหญ่ยังต้องฟังความเห็นหรือการตัดสินใจจาก "บิ๊กเติ้ง" นายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ว่ากันว่าเป็น "รมต.ตัวจริง" เสียก่อน ดังนั้นนายชุมพลซึ่งเป็นเสมือน "รมต.เงา" ของพี่ชาย จึงสมควรได้รับฉายานี้

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกไทย "พีอาร์โอลิมปิก" ฉายานี้ได้มาจากการที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ มักออกมาให้สัมภาษณ์ข่าวต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องโดยตรงและไม่เกี่ยวข้องเท่าไหร่กับงานที่ทำ จนเกิดการโจมตีหลายต่อหลายครั้งถึงข้อมูลบางเรื่องที่ไม่ค่อยถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดซีเกมส์ ครั้งที่ 25 จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าแม้จะนั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน แต่หลายครั้งมักลงมาทำงานในหน้าที่ประชาสัมพันธ์เสียมากกว่า

นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่ง ประเทศไทย (กกท.) "ซีอีโอ โฟร์แมน" ผลงานของผู้ว่าการ กกท.ในรอบปี 2552 ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปในเรื่องของการก่อสร้างเป็นหลัก ทั้งในเรื่องศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติที่มวกเหล็ก การก่อสร้างศูนย์บริหาร 25 ชั้น ที่ กกท.หัวหมาก เรียกว่าทั้งปีจะมีเรื่องการก่อสร้างโดดเด่นกว่าเรื่องอื่นๆ

นายสมบัติ คุรุพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนากีฬาและ นันทนาการ (สพก.) "ผอ.จอตู้" ฉายานี้ได้มาจากการที่นายสมบัติมักแบ่งคิวการทำงานที่รัดตัวอยู่แล้ว เดินสายไปเป็นประธานและร่วมงานต่างๆ ทั้งงานเปิดป้าย งานแถลงข่าว การกิจกรรม ฯลฯ ที่มีสื่อมวลชนไปร่วมเป็นจำนวนมาก เรียกว่าวันหนึ่งๆ มีงานชนกัน 3-4 งานก็ยังเคย ทำให้กลายเป็นข่าวหรือมีรูปออกทางหน้าหนังสือพิมพ์ได้ไม่เว้นแต่ละวัน

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย "เล็กไม่ ใหญ่ทำ" ในรอบปีนี้ นายสุวัจน์ไม่เพียงแต่มีบทบาทในวงการกีฬาเฉพาะ การนั่งเก้าอี้นายกลอนเทนนิสสมาคมเท่านั้น แต่ยังขยายวงเข้าสู่การเป็นรองประธานโอลิมปิกไทย และที่ปรึกษาสมาคมฟุตบอล ที่สำคัญงานใดก็ตามที่จะมีชื่อของนายสุวัจน์เข้าไปเป็นประธานจัด หรือมีส่วนร่วมนั้นจะต้องเป็นงานใหญ่บิ๊กเบิ้มระดับเงินล้าน งานเล็กงานน้อยงานปลาซิวปลาสร้อยหมดสิทธิ์ด้วยประการทั้งปวง

นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย "ไหล่นี้อย่าให้ใครมาแตะ" เมื่อครั้งซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงไป เกิดเรื่องที่ไม่มีใครคาดฝันขึ้นเมื่อ "บิ๊กต้อม" พี่ที่มีแต่ให้ของคนกีฬา ถูกเจ้าหน้าที่ของประเทศเพื่อนบ้านผลักจากข้างหลังจนหัวแทบคะมำ ขณะพยายามเข้าไปช่วยสะสางปัญหาที่เกิดขึ้นของสมาคมยิงปืน ท่ามกลางความไม่พอใจของคนกีฬาที่เห็นกันคาตา จึงเป็นที่มาของฉายาดังกล่าว

พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย "ไอ (ไอ้) บ้าอย่ามาแหยม" เป็นที่ทราบกันดีว่ามรสุมที่รุมเร้า พล.อ.ทวีป ที่ผ่านมา โดนสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (ไอบ้า) จ้องฟันให้พ้นจากการทำหน้าที่กรรมการเพราะออกมาโจมตีการทำงานของไอบ้าเมื่อ ครั้งโอลิมปิกเกมส์ 2008 แต่ด้วยความบริสุทธิ์ในคำพูดทำให้ต่อสู้จนชนะ และยังได้รับให้เป็นกรรมการของไอบ้าเช่นเคย

นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย "9 ที่พลาด" เลข 9 ในที่นี้ตีความได้ 2 ประเด็น คือ การที่ทีมฟุตบอลพลาดได้แชมป์ซีเกมส์ สมัยที่ 9 ซึ่งการพลาดแชมป์ในซีเกมส์ครั้งนี้ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และกระแสต่างๆ ในเรื่องการเตรียมทีม และผู้ฝึกสอนที่นักกีฬาไม่ยอมรับ และยังหมายถึงการทำงานบริหารสมาคมลูกหนังของนายวรวีร์ ที่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นหลายอย่างอีกด้วย

จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย "โป้ง...(ป๊อก) ระอา" อย่างที่ทราบๆ กันว่าข่าวฉาวระหว่างนักกีฬากับสมาคมกีฬา ไม่มีเรื่องใดจะดังข้ามปีเหมือนเรื่องของ "เจ้าเอ็กซ์" กับสมาคมยิงปืน ที่นักกีฬาเลือด ร้อนรายนี้ได้วิ่งโร่ขอความเป็นธรรมจากทุกฝ่ายในเรื่องการถูกกีดกันไม่ให้ ติดทีมชาติชุดซีเกมส์ รวมไปถึงการออกมาเปิดเผยความไม่ชอบมาพากลของการบริหารงานภายในสมาคม จนเป็นที่เอือมระอาของ "บิ๊กป๊อก" นายปองพล อดิเรกสาร นายกสมาคม ที่ประกาศตัดหางปล่อยวัด ไม่ยอมรับนักกีฬารายนี้กลับเข้าเป็นทีมชาติอีกต่อไป

บิ๊กป๊อก" นายปองพล อดิเรกสาร นายกสมาคมยิงปืนแห่งประเทศไทย "นักฆ่าเลือดเย็น" ไม่ว่าคู่กรณีอย่าง "เจ้าเอ็กซ์" จักรกฤษณ์ จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานหนักหนาขนาดไหน แต่ "บิ๊กป๊อก" จะออกมาตอบโต้กลับแบบนิ่มๆ และลุ่มลึกด้วยเหตุผล ทว่ามีเป้าหมายที่ชัดเจนคือการยืนยันในความถูกต้องของตัวเอง และไม่ขอร่วมสังฆกรรมกับจักรกฤษณ์อีกต่อไป

ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กับ นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ นายกสมาคมมวยไทยแห่งประเทศไทย "คู่เวร คู่กรรม" คู่นี้คือคู่ปรับที่ดังที่สุดในรอบปี เป็นคู่คอนเวิร์สชนิดมีเธอไม่มีฉัน การต่อสู้ของ 2 สมาคมนี้ส่งผลในภาพรวมของการพัฒนาวงการมวยไทย แทนที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้า แต่ต้องหยุดอยู่กับที่เพราะผู้บริหารไม่ยอมนั่งเปิดใจรวมกันให้เป็นหนึ่ง และเกือบทำให้กีฬามวยไทยเกือบไม่ได้เข้าร่วมในกีฬาเอเชี่ยนมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ที่ไทยเป็นเจ้าภาพมาแล้ว

เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม นักมวยแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท สมาคมมวยโลก "แชมป์โลกปลดแอก" หลังจากได้แชมป์โลกเมื่อต้นปีก่อน "แวฮามะ" เด่นเก้าแสน ได้ประกาศไม่ขอขึ้นตรงกับนายนริส สิงหวังชา ผู้จัดการ เนื่องจากปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ และการดูแลที่ไม่เป็นธรรม ต่อสู้จนได้รับชัยชนะ และย้ายมาอยู่ในความดูแลของ "แชแม้' นายนิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ แม้จะมีคดีความค้างอยู่ในขณะนี้ก็ตาม

นพวรรณ เลิศชีวกานต์ นักเทนนิสเจ้าของแชมป์เยาวชนวิมเบิลดันหญิงเดี่ยวและหญิงคู่ "อุ้มบุญ" ด้วยฝีมือและความสามารถในระดับเยาวชน น้องนกได้พิสูจน์ให้ชาวโลกได้เห็นกับผลงานที่ออกมา แต่ฝีมืออย่างเดียวอาจไม่ส่งให้น้องนกดังเปรี้ยงปร้างข้ามวันได้แบบนี้ หากไม่มีพ่อและแม่บุญธรรม (นายชัยภักดิ์-นางนฤมล ศิริวัฒน์) ช่วนกันผลักดันอีกทาง เรียกได้ว่ามีบุญหรือฝีมืออย่างเดียวยังไม่พอ ต้องถูกอุ้มถูกดันอีกต่างหากถึงจะดังได้

รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบ "ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน" หากจะนับพื้นที่ข่าวกันรายปี ต้องบอกว่า "เจ้าฟีม" นักซิ่งระดับโลกหนึ่งเดียวของไทยไม่เป็นรองใคร มีข่าวเกาะกระแสกันแทบทุกสัปดาห์ หากผลงานในสนามที่ออกมากลับตรงกันข้าม เจ้าฟีมยังไม่สามารถก้าวขึ้นไปยืนบนโพเดี้ยมในฐานะผู้ชนะอันดับ 1-3 ได้แม้แต่ครั้งเดียว เทียบได้ว่า ดังแต่ท่อ คือมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ล้อไม่หมุน คือผลงานยังไม่เข้าเป้า ก็คงไม่ผิดนัก

สตีฟ ดาร์บี้ ผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "มร.หนา...ตราช้าง" ถือเป็นชาวต่างชาติคนเดียวที่ติดโผคนกีฬาแห่ง ปี จากผลงานทำทีมฟุตบอลตกรอบแรกซีเกมส์ ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้พิจารณาตนเอง ทว่า สตีฟ ดาร์บี้ ผู้นี้กลับทำตัวไม่รู้สึกรู้สา ยังคงทำงานของตัวเองต่อไป ท่ามกลางการ "ขัดความรู้สึก" ของแฟนบอล

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook