อาลัย "ครูสุจินดา" ภรรยา ไพจิต ศรีวรขาน ช่วยสามีหาเสียงจนทรุด สิ้นใจหลังวันเลือกตั้ง
อาลัย "ครูสุจินดา" ภรรยา อดีต ส.ส.ไพจิต ศรีวรขาน เคียงข้างสามีมา 13 สมัย ช่วยหาเสียงจนสุขภาพทรุด สิ้นใจหลังวันเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม นับเป็นข่าวช็อกสำหรับแวดวงการเมือง รวมถึง พี่น้องประชาชน ชาว จ.นครพนม หลังทราบข่าว การเสียชีวิตแบบกะทันหัน ของ นางสุจินดา ศรีวรขาน อายุ 70 ปี หรือ ครูแก๊ส อดีตข้าราชการครู นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ภรรยาคู่ชีวิต ของ ดร.ไพจิต ศรีวรขาน อายุ 76 ปี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย แชมป์ 13 สมัย และเป็นครูการเมืองคนสำคัญของ จ.นครพนม ที่สร้างนักการเมืองมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงเป็นแกนนำ ส.ส. เพื่อไทย ภาคอีสาน
โดย นางสุจินดา ศรีวรขาน อายุ 70 ปี หรือ ครูแก๊ส เสียชีวิตจากโรคประจำตัวหลอดเลือดหัวใจ เช้าวันนี้ ที่บ้านพัก ศรีวรขาน บ้านหนองย่างชิ้น ต.หนองย่างชิ้น อ.เรณูนคร จ.นครพนม ภายหลังการต่อสู้ ลงพื้นที่หาเสียง ช่วย สามีมาตลอด จนกระทั่งผลการเลือกตั้ง ดร.ไพจิต ศรีวรขาน อายุ 76 ปี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย แชมป์ 13 สมัย แพ้การเลือกตั้ง ภายหลังจึงมีอาการล้มป่วยเสียชีวิตกะทันหัน เพราะร่างกาย พักผ่อนไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ ทางคนสนิทและครอบครัว ยืนยัน ไม่ได้มีปัญหาเรื่องสภาพจิตใจ จากผลการเลือกตั้งแพ้ ยืนยัน ครูแก๊ส มีกำลังใจดี มีสปิริตทางการเมืองพอ แต่มีโรคประจำตัว คือหลอดเลือดหัวใจ เพราะเป็นคนอ้วนมีน้ำหนักมาก บวกกับพรรคผ่อนไม่เพียงพอ ลงพื้นที่หาเสียงทุกวัน ทำให้อาการทรุดล้มป่วยเสียชีวิตกะทันหัน
ส่วนศพได้ตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านพัก ศรีวรขาน บ้านหนองย่างชิ้น ต.หนองย่างชิ้น อ.เรณูนคร จ.นครพนม สำหรับ นางสุจินดา ศรีวรขาน อายุ 70 ปี หรือ ครูแก๊ส อดีตข้าราชการครู นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เดิมรับราชการครู กับสามี คือ ดร.ไพจิต ศรีวรขาน อายุ 76 ปี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย แชมป์ 13 สมัย ภายหลังมีใจรักในการช่วยเหลือดูแล พี่น้องประชาชน ชอบอาสาทำงานพัฒนา จึงพากันตัดสินใจ ลาออกจากราชการครู สนับสนุน ให้ ดร.ไพจิต ศรีวรขาน อายุ 76 ปี ลงสมัครการเมืองมาตั้งแต่ปี 2531 ทำหน้าที่หลังบ้านที่ดีมาตลอด ในการเคียงบ่าเคียงไหล่สามี ลงพื้นที่ ดูแลพบปะชาวบ้าน จนเป็นที่รักใคร่ ของพี่น้องประชาชน ในเขตเลือกตั้งที่ 3 อ.ธาตุพนม อ.เรณูนคร และอำเภอใกล้เคียง รวมถึง ชาว จ.นครพนม อีกทั้งเป็นคนมีเมตตาจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โอบอ้อมอารี จนได้รับความเมตตาจากชาวบ้าน สนับสนุน ครอบครัว ศรีวรขาน มาตลอดกว่า 30 ปี และยังเคยทำงานในตำแหน่ง อดีต รองนายก อบจ.นครพนม
จนกระทั่งการเลือกตั้ง ครั้งนี้ ถึงแม้จะมีโรคประจำตัว แต่ยังต่อสู้ลงพื้นที่ปราศรัยสนับสนุนสามีจนนาทีโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เนื่องจากเป็นแกนนำคนเสื้อแดง รักประชาธิปไตยมาตลอด นับเป็นการสูญเสียครูการเมืองต้นแบบ นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ที่สำคัญของ จ.นครพนม