จตุรงค์ สุขเอียด ลั่น ไม่ใช่ติ่งพิธา แต่ยินดีเป็นพยาน ไอทีวีเป็นสื่อถึงตอนไหนกันแน่
จตุรงค์ สุขเอียด ลั่น ผมไม่ใช่ติ่งพิธา แต่ยินดีเป็นพยาน ไอทีวีเป็นสื่อถึงตอนไหนกันแน่ อย่าเอาสื่อที่พวกผมรักมาเป็นแพะทางการเมือง
นายจตุรงค์ สุขเอียด ผู้สื่อข่าวและบรรณาธิการข่าวชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นภาพเมื่อครั้งทำงานข่าวภายใต้สังกัด ไอทีวี โดยฝากถึงประธาน กกต. ปมการถือหุ้นสื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ระบุว่า
เรียนประธาน กกต. ผมนายจตุรงค์ สุขเอียด เป็นอดีตประธานสหภาพแรงงานหัวหน้างาน บ.ไอทีวี จำกัด(มหาชน) เป็นพิธีกรรายการถอดรหัสและบรรณาธิการข่าวเฉพาะกิจ เป็นหน้าที่สุดท้ายในวันที่ไอทีวี ถูกสปน.สั่งยึดความถี่จนมีสภาพจอดำเมื่อปี 2550 ก่อนเปลี่ยนผู้ผลิตใหม่ เป็นไทยพีบีเอสจนถึงปัจจุบัน
ปี 2549 ผมเป็นตัวแทนพนักงานไอทีวีทุกคน ไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราวการปิดไอทีวี จาก มติครม.ปี 2549 ต่อมาศาลปกครองไต่สวนผม และคณะแล้วมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเป็นเวลา 1 ปี จากปี 2549-2550 จึงเปลี่ยนการออกอากาศในชื่อ ทีไอทีวี แล้วเมื่อครบจึงให้ยกเลิกความคุ้มครองเท่ากับบริษัทไอทีวี ไม่มีคลื่นความถี่มาออกอากาศได้ทันที วันรุ่งขึ้นพวกพนักงานนับพันคน หลายพันชีวิตในครอบครัวลำบากมากครับ จากการตกงาน บริษัทไอทีวี จึงกำหนดการชำระเงินเลิกจ้างตามกฎหมายแรงงาน พนักงานบางส่วนถูกถ่ายโอนไปสังกัดไทยพีบีเอส โดยนับอายุงานใหม่ เพราะไม่ใช่บริษัทเดียวกัน และไม่ใช่ไอทีวีสาขา 2 แต่อย่างใด เพราะไม่เกี่ยวข้องใดๆ ต่อกัน
พนักงานบางส่วนชราภาพไม่มีที่ทำงานต้องกลับบ้านเดิมจนวาระสุดท้าย บางส่วนได้งานทำในสื่ออื่นๆ ตามความรู้ความสามารถ ส่วนผมทำงานกับช่อง 3 ในข่าว 3 มิติ จนปัจจุบันผมพร้อมไปเป็นพยานให้คณะกรรมการไต่สวนให้กับท่านได้ว่า ไอทีวียังคงทำหน้าที่สื่อสารกับประชาชนอยู่หรือไม่
การสิ้นสุดสถานะภาพสื่อสารต่อสาธารณะในฐานะสื่อมวลชนยุติไปแล้วหรือไม่ พร้อมมีหลักฐานการเลิกจ้าง หนังสือเลิกจ้าง หนังสือรับเงินชดเชยการเลิกจ้าง หนังสือการไปรับเงินสงเคราะห์คนว่างงานจากกระทรวงแรงงาน และตลอด 16 ปีที่ผ่านมาในฐานะที่เป็นสื่อมวลชน ผมไม่เคยได้เห็นหรือรับชมข่าวใดๆ จากการแพร่ภาพจากไอทีวีเลยในทุกช่องทาง
ผมจึงต้องการให้ท่านสอบถามข้อเท็จจริงในบทบาทหลังปี 2550 ของไอทีวี ให้ปรากฎก่อนจะมีคำวินิจฉัย ใน กรณีคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าไอทีวีเป็นสื่ออยู่ถึงตอนไหนกันแน่
ผมไม่ใช่ติ่งคุณพิธา และพรรคการเมืองใดๆ ถ้าจะเป็นติ่งจากประวัติการทำงานผม คือมีติ่งเดียว คือติ่งความยุติธรรม เว้นแต่ท่านสามารถพิสูจน์ให้ผมและเพื่อนๆ ได้ว่า 16 ปีมานี้ คนไทยยังได้รับชมสื่อจากช่องไอทีวีอยู่โดยที่พวกผมไม่รู้มาก่อน ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ ก็ควรทำให้ทุกอย่างโปร่งใส และยุติธรรม อย่าเอาสื่อที่พวกผมรัก เคยเอาชีวิตไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาเป็นแพะทางการเมือง อย่าสร้างตราบาปให้กับสื่อที่ถูกปิดไปอีกเลยครับ
ถ้าท่านต้องการไต่สวนผมผมพร้อม จะไป แต่ขอให้แจ้งล่วงหน้านิดหน่อยเพราะส่วนใหญ่ผมอยู่แต่ในสวนของผมครับ