กัญจนา พี่สาวหัวหน้าพรรคชาติไทยฯ โต้คนใช้โซเชียลกดดัน "เป็นเผด็จการตัวจริง"

กัญจนา พี่สาวหัวหน้าพรรคชาติไทยฯ โต้คนใช้โซเชียลกดดัน "เป็นเผด็จการตัวจริง"

กัญจนา พี่สาวหัวหน้าพรรคชาติไทยฯ โต้คนใช้โซเชียลกดดัน "เป็นเผด็จการตัวจริง"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา พี่สาวของหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันอังคาร (16 พ.ค.) วิจารณ์คนหรือกลุ่มคนที่ตนเชื่อว่าใช้มวลชนในโซเชียลมีเดียมากดดันให้พรรคชาติไทยพัฒนาโดยอ้างว่าอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยนั้น ที่จริงแล้วเป็นเผด็จการตัวจริง

"ประชาธิปไตยที่งดงามคือ ฟังเสียงส่วนใหญ่แต่ก็ต้องเคารพเสียงที่เห็นต่าง… คุณกำลังใช้การปั่นกระแสโซเชียลที่เป็นเครื่องมือที่คุณถนัดมากดดันเรา…ประชาธิปไตยแบบคุณคือเผด็จการตัวจริง…เรา มีสมองคิด มีจุดยืนของเรา คุณมาครอบงำเราไม่ได้…" นางสาวกัญจนา โพสต์

โพสต์นี้เกิดขึ้นหลังจากนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ถูกผู้สื่อข่าวถามที่ทำเนียบรัฐบาลก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อช่วงก่อนหน้าของวันเดียวกัน เกี่ยวกับกระแสเรียกร้องให้ว่าที่ ส.ส. ของพรรคยกมือสนับสนุนให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่มีคะแนนเป็นอันดับ 1 ในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ (14 พ.ค.) เป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่ต้องใช้เสียงของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มาช่วย

นายวราวุธ ตอบผู้สื่อข่าวว่า เรื่องนี้จะต้องนำไปหารือภายในพรรคเสียก่อน เพราะเป็นประเด็นละเอียดอ่อน

ที่ผ่านมาการเลือกนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง อาศัยเพียงเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น แต่รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนด ให้ ส.ว. ที่ทั้งหมดมาจากการแต่งตั้ง มาร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีกับ ส.ส. ด้วย ในช่วง 5 ปีแรกนับตั้งแต่มีสภาผู้แทนราษฎรชุดแรก ซึ่งก็คือปี 2562 ดังนั้นหากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ ส.ว. ก็จะมีสิทธิโหวตเลือกได้ด้วยจนถึงปี 2567

พรรคก้าวไกลที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเผยว่ารวมรวมเสียงได้ 310 แล้ว ขณะที่เสียงกึ่งหนึ่งของ ส.ส. และ ส.ว. รวมกัน คือ 376 เสียง ถ้าไม่ขอเสียงจาก ส.ส. ฝ่ายตรงข้าม ก็ต้องขอเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. อีก 66 เสียงจึงเพียงพอที่นายพิธาจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ ส.ว. จำนวนหนึ่งแสดงออกชัดเจนว่าจะไม่สนับสนุนนายพิธา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook