ผกก.ชี้แจงแล้ว ภาพลงโทษตำรวจ 14 นาย สั่งถอดเสื้อยืนตากแดด 1 ชม. เพราะสาเหตุนี้
ผกก.ชี้แจงแล้ว ภาพธำรงวินัยตำรวจ 14 นาย สั่งถอดเสื้อยืนตากแดด 1 ชม. ยันทำตามระเบียบ ไม่มีใครเป็นลม
จากกรณีเพจดัง ได้ลงเรื่องราวร้องทุกข์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายหนึ่งว่าถูกลงโทษด้วยการถอดเสื้อผ้าและรองเท้ายืนตากแดด เหตุเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 20 พ.ค.66 ที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวน 14 นาย จนตัวแดงมีรอยไหม้ บางคนมีตุ่มพุพองด้านหลัง ต้องนอนคว่ำหน้านั้น
ล่าสุดวันนี้ (22 พ.ค. 66) จ.ส.ต.อดิศร สุขนวล ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.สุไหงโก-ลก 1 ใน 14 คน ที่ถูกลงโทษ ให้ข้อมูลว่า วันนั้นการลงโทษก็มีแค่ให้ยืนตามระเบียบพัก ยืนท่าตรง ซึ่งแต่ละท่าจะให้เปลี่ยนท่าก็ราวๆ 1 ชั่วโมง คนสั่งก็ไม่มีการแตะต้องตัวแต่อย่างใด ข่าวที่ออกไปว่ามีการเป็นลมล้มทั้งยืน ต้องหามส่งโรงพยาบาลไม่เป็นความจริง ทุกคนยืนกันทุกคน คนไหนที่ไม่ไหวก็ได้ขออนุญาตนั่ง พอได้นั่งสักพักก็ลุกขึ้นมายืน
ด้าน พ.ต.ท.คำพันธ์ แสนทวีสุข รอง ผกก.สอบสวน หน.งานสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก กล่าวว่า ข้อเท็จจริงการลงทัณฑ์ของผู้บังคับบัญชาในครั้งนี้ เนื่องจากว่ามีการบกพร่องต่อระเบียบหน้าที่เป็นหลายๆส่วน เป็นเนื้อหาของทางราชการเกี่ยวกับระเบียบหน้าที่ที่นี่ ว่ามีการตักเตือนลงทัณฑ์เป็นบางส่วนก็มี และได้ตักเตือนมาหลายครั้ง การลงทัณฑ์ต่างๆก็พยายามทำให้เป็นภาพรวม เพื่อให้เป็นมาตรฐานของการปฏิบัติงานร่วมกัน ซึ่งเราก็ลงทัณฑ์ไปตามระเบียบ ไม่มีอะไรที่รุนแรง ไม่มีอะไรนอกเหนือจากระเบียบของตำรวจ ส่วนข่าวที่บอกว่า ลงโทษจนถึงกับเป็นลมนั่นไม่มี ตนเองควบคุมการปฏิบัติอยู่ตลอดและใกล้ชิดการลงทัณฑ์
ด้าน พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเดินทางไปราชการต่างพื้นที่ เมื่อทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ส่งหนังสือชี้แจงผ่านมายังผู้สื่อข่าว ซึ่งมีใจความสำคัญ 9 ข้อดังนี้
1.ภาพที่ปรากฏดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 13.00 น.ณ ลานหน้า สภ.สุไหงโกลก
2.เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏในภาพเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแผนกงานคดี ประจำ สภ.สุไหงโกลก จำนวน 14 นาย และมี ร.ต.ท.ชาญวิทย์ สิงห์ป้อง พงส.(สบ 1) สภ.สุไหงโกลก เป็นผู้ฝึกแถว
3.ตลอดระยะเวลาการฝึกธำรงวินัย ได้มี พ.ต.ท.คำพันธ์ แสงทวีสุข รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สุไหงโกลก และ พ.ต.ท.นที จันทร์แสงศรี สว.(สอบสวน) สภ.สุไหงโกลก หัวหน้างานคดี ได้ควบคุมการปฏิบัติและชี้แจงถึงเหตุบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่และแนวทางในการปฏิบัติงานราชการต่อไป
4.ข้อบกพร่องในการปฏิบัติ สาเหตุมาจากทางพนักงานสอบสวนหลายๆ นาย ได้ประสบก็คือ
-4.1 เจ้าหน้าที่ธุรการที่ปฏิบัติหน้าที่เขียนประจำวัน ไม่ได้อยู่ปฏิบัติหน้าที่และไม่สามารถติดต่อได้ และบางครั้ง พงส.ต้องเขียนประจำวันด้วยตนเอง
-4.2 เจ้าหน้าที่ห้องคดี ไม่อยู่ประจำห้องคดี ทำให้ไม่สามารถประสานงานเรื่องสำนวนได้ทันท่วงที
-4.3 การลงข้อมูลระบบ crime ยังมีการลงข้อมูลผิดพลาดและไม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์เป็นต้น
-4.4 หลายครั้งที่ทางผู้บังคับบัญชาต้องระดมสายงานอื่น มาช่วยบันทึกข้อมูลของงานสอบสวนและกำชับให้รับผิดชอบหน้างานตนเอง ไม่ให้มีงานค้าง
5.ก่อนที่จะมีการลงโทษครั้งนี้ ทาง พงส.รวมถึงหัวหน้างานสอบสวน ได้มีการแนะนำการปฏิบัติและได้ว่ากล่าวตักเตือนไว้แล้ว แต่การปฏิบัติยังไม่ดีขึ้น
6.การฝึกธำรงวินัยในครั้งนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 14 นายแต่งกายชุดฝึกเขียว มารวมพลหน้า สภ.และสั่งท่าตามระเบียบพัก และมี รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ ,สว.(สอบสวน)ฯและร้อยเวร สอบสวน ได้ชี้แจงในการปฏิบัติปฏิบัติหน้าที่และความช่วยเหลือในการทำงานและรู้หน้าที่ของตนเอง
7.การฝึกธำรงวินัยในครั้งนี้ ไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวแต่อย่างใด มีเพียงสั่งท่าบุคคล ท่ามือเปล่าเท่านั้น
8.หลังเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีภาพปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ถึงกรณีการลงโทษดังกล่าว ทาง ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ได้ประชุมระดับ รอง ผกก.ทุกนาย และรีบรายงานผู้บังคับบัญชา (ผบก.ฯ) ทราบ ซึ่งจะดำเนินการต่อไป