สาวท้องแก่หวิดดับ เจ้าหน้าที่ รพ. หยิบยาให้ผิด กินยาชาไป 2 ขวด เล่านาทีสุดทรมาน
สาวท้องแก่หมอให้กลืนน้ำตาล เจ้าหน้าที่ รพ. หยิบยาชาให้กินไป 2 ขวด เล่านาทีร่างกายกระตุก ควบคุมตัวเองไม่ได้
เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 แชร์ภาพหญิงสาวคนหนึ่งในชุดผู้ป่วย พร้อมระบุข้อความว่า "ชีวิตคนไข้ 1 ชีวิตนะ..ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเท็จจริงมันเกิดได้อย่างไร..สาธารณสุขจังหวัดต้องตรวจสอบด้วยแล้ว...มีมาตรการการแก้ไขป้องกันที่จะไม่ให้เกิดขึ้นอีกไหม??? #จันทบุรี"
ข้อความจากผู้ป่วยระบุว่า "มาเจาะเลือดที่ รพ. ละเค้าเอายาให้กินผิด ปกติต้องกินน้ำตาลแต่เค้าเอายาชามาให้กิน 2 ขวด ก็นึกว่าเปลี่ยนยาให้ เริ่มเอะใจเลยถามหมอว่าเปลี่ยนยาเหรอ หมอบอกไม่ได้เปลี่ยน เท่านั้นแหละเริ่มมีอาการปากชามือชาเวียนหัว ซักพักนึงคือขยับตัวไม่ได้แล้ว ได้ยินทุกอย่างแต่ตอบโต้อะไรไม่ได้เลย เริ่มมีอาการเวียนหัว มือเท้ากระตุกตลอด พอซักพักนึงคือแขนขากระตุกแรงมากเหวี่ยงไปเองไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ หายใจไม่ออกกรี๊ดเหมือนจะชักเหมือนคนกำลังจะตาย จังหวะนั้นคือกลัวตายมากกลัวลูกในท้องจะเป็นอันตราย คือแล้ว จนท. คนที่ให้ยาผิดมาขอโทษ กูยกโทษให้นะ แต่ไม่ยอมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด"
โดยผู้เสียหายระบุเพิ่มเติมว่า กำลังตั้งท้องประมาณ 37 สัปดาห์ วันจันทร์ที่ 22 พ.ค.2566 มีนัดเจาะเลือดตรวจเบาหวาน ตรวจต่างๆ นานา แล้วต้องกลืนน้ำตาล เจ้าหน้าที่เรียกให้ไปรับขวดยาเหมือนขวดน้ำตาลมากิน พอดูดเข้าไปมัน ชาที่ปากและคอเลยหยุดกิน ในใจคิดว่าตัวเองมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า เจ้าหน้าที่เลยนำยาขมๆ มาให้กิน คือไม่ได้คิดว่าอันตราย เพราะว่ามา รพ. ไม่ได้คิดว่าจะเจอความสะเพร่าแบบนี้
พอเรียกชื่อเข้าไปตรวจ ตนบอกว่ายังกินไม่หมดเพราะมันขม แต่ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ได้ยินหรือเปล่า ด้วยความที่อยากกลับไวๆ ก็เลยกลั้นใจกินจนหมด 2 ขวด แล้วเดินไปบอกว่ากินหมดแล้ว พยาบาลก็เรียกเข้าห้องตรวจฟังเสียงหัวใจลูกพอดี ตนจึงถามว่า "หมอเปลี่ยนยาเหรอคะ ทำไมมันขม" แต่หมอตอบว่าไม่ได้เปลี่ยน กินน้ำตาลต้องหวานสิ ตนเลยบอกว่ามันขม กินแล้วก็ชาปากชาคอ หมอเลยให้เราไปหยิบขวดมาดู สรุปคือมันไม่ใช่น้ำตาล แต่มันคือยาชา ที่เบิกมาเพื่อจะเอาไว้ฝังเข็มยาคุม
แล้วหมอให้นั่งรอประมาณ 10 นาที คือนั่งไม่ได้ตาจะปิด เวียนหัว พอเค้าพยุงไปนอนคือยามันออกฤทธิ์แรงมาก ปากพูดไม่ได้ ตาลืมไม่ได้ รู้สึกอยู่ตลอด แต่ขยับไม่ได้เลย เริ่มเวียนหัวแบบบ้านหมุนราวๆ 20 นาทีได้ มือเท้ากระตุกตลอดความดันขึ้น จนต้องวัดคลื่นหัวใจ พอซักพักเริ่มหายใจไม่ออก ร่างกายเริ่มกระตุกรุนแรงขึ้น ขาดอากาศไปครู่หนึ่ง ตอนนั้นคือในตาที่หลับมันมืดดำไปเลย พยายามอ้าปากให้มีอากาศเข้า สติเริ่มหาย แต่มีอากาศเฮือกสุดท้ายที่หายใจเข้า ตอนที่กรี๊ดออกมา ตอนที่กรี๊ดคือมันควบคุมไม่ได้เลย มันคือลมหายใจสุดท้ายจริงๆ ในตอนนั้น พอได้หายใจเข้าอีกครั้งคือแบบน้ำตาไหลเลย กลัวตัวเองตายกลัวลูกในท้องตาย ตอนนี้ยังตกใจไม่หายเลยมันคือเฮือกสุดท้ายจริงๆ