NIA เปิดตัวหนังสือ “ร้อยคนไทยหัวใจนวัตกรรม 3” ผู้สร้างแรงบันดาลใจสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ยั่งยืน

NIA เปิดตัวหนังสือ “ร้อยคนไทยหัวใจนวัตกรรม 3” ผู้สร้างแรงบันดาลใจสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ยั่งยืน

NIA เปิดตัวหนังสือ “ร้อยคนไทยหัวใจนวัตกรรม 3” ผู้สร้างแรงบันดาลใจสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ยั่งยืน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประกาศ 100 รายชื่อผู้สร้างแรงบันดาลใจสู่การเปลี่ยนแปลงโลกอย่างยั่งยืน จากหนังสือ “ร้อยคนไทยหัวใจนวัตกรรม 3” ภายใต้แนวคิด SUSTAINABLE INNOVATION การสร้างสรรค์นวัตกรรมสู่การพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ด้วยหลักคิด 3P ได้แก่ PLANET (สังคมและสิ่งแวดล้อม) PEOPLE (คุณภาพชีวิต) และ PROFIT (เศรษฐกิจ) ผ่านกระบวนทัศน์ ความคิด ผลงาน และความสำเร็จของบุคคลต้นแบบจากหลากหลายสาขาอาชีพในประเทศไทย ที่สร้างสรรค์นวัตกรรมสู่การพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ NIA เผยว่าประชาชนและสังคมคือศูนย์กลางของ NIA มาโดยตลอด ดังนั้น NIA จึงมุ่งส่งเสริมนวัตกรรมที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มโอกาสให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ของประเทศไทย พร้อมผลักดันให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของนวัตกรรม สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล รวมถึงสามารถสร้างและใช้นวัตกรรมได้ 

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์

“หนังสือร้อยคนไทยหัวใจนวัตกรรม 3 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด SUSTAINABLE INNOVATION การพัฒนาที่ยั่งยืนครอบคลุมในทุกมิติอย่างสมดุล โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม 6 ประเภท ได้แก่ กลุ่ม PLANET นวัตกรรมที่สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย สาขาสิ่งแวดล้อม (Environment) และสาขาเครือข่ายเมือง (City Networks) กลุ่ม PEOPLE นวัตกรรมที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้คนอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย สาขาสุขภาพกาย สุขภาพจิต และความเป็นอยู่ที่ดี (Health & Well-Being) สาขาสิทธิเสรีภาพ ความเป็นส่วนตัว และความเท่าเทียม (Privacy, Rights & Equality) และกลุ่ม PROFIT นวัตกรรมที่สร้างความเจริญทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและครอบคลุม ประกอบด้วย สาขาความมั่นคง (Security) และสามารถการเข้าถึงโอกาสที่ครอบคลุม (Inclusiveness) เพื่อเป็นอีกหนึ่งความพยายามที่จะแสดงให้เห็นว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นสิ่งใกล้ตัวที่ใครก็ทำได้ ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร อยู่ในภาคธุรกิจหรือภาคประชาสังคม ภาครัฐหรือภาคการศึกษา ขอเพียงทำอย่างจริงจังและแตกต่างด้วยกระบวนทัศน์” 

หนังสือ “ร้อยคนไทยหัวใจนวัตกรรม 3” ได้ร้อยเรียงเรื่องราวของคนไทยจำนวน 100 คน ที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอีกร้อยล้านคน ให้ลุกขึ้นมาร่วมกันคิดร่วมกันทำให้ความยั่งยืนเกิดขึ้นด้วยนวัตกรรม โดยภายในงานมีการเปิดตัวหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) นิทรรศการร้อยคนไทยหัวใจนวัตกรรม 3 และกิจกรรมเสวนาในหัวข้อ “เปิดมุมมองความคิดผู้สร้างแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงโลกอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรม” จาก 3 ตัวแทนผู้สร้างแรงบันดาลใจที่มาร่วมสะท้อนแนวคิดการเปลี่ยนแปลงโลกอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรม 

พันชนะ วัฒนเสถียร ผู้ริเริ่มโครงการข้าวเพื่อหมอ จากกลุ่ม PLANET เล่าว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ช่วงแรก ได้ระดมทุนสาธารณะ (Crowdfunding) เพื่อจัดหาข้าวกล่องจากร้านอาหารต่าง ๆ ส่งให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนัก ในชื่อโครงการ “ข้าวเพื่อหมอ (Food for Fighters)” ซึ่งได้รับการรับรองจากทาง UNDP ต่อมาโครงการเติบโตอย่างรวดเร็วจรมีร้านอาหารที่อยู่ในระบบมากกว่า 20 จังหวัด เกิดเป็นการวางระบบจับคู่โรงพยาบาลกับร้านอาหารในพื้นที่ขึ้นอีกส่วนหนึ่ง นับเป็นการทำงานเครือข่ายแบบครบวงจรอย่างแท้จริง และช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อน โดยโครงการข้าวเพื่อหมอไม่ได้มองปัจจัยด้านการเงินเป็นหลัก แต่เป็นการประยุกต์เครือข่ายที่มี มาสร้างคุณค่าและเพิ่มศักยภาพในการขยายผลจนกลายเป็นนวัตกรรมจากการร่วมมือกันที่สร้างความยั่งยืนสู่สังคม 

“คำว่านวัตกรรมดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวมากสำหรับคนตัวเล็ก ๆ ทั่วไป คนตัวเล็กคือรากฐานของสังคม ถือเป็นคนกลุ่มใหญ่แต่มีพลังน้อยที่จะส่งเสียงเรียกร้องเรื่องต่าง ๆ เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากสร้างความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ก็ตาม เราก็ต้องเริ่มต้นจากตัวเรา เริ่มจากความคิดที่อยากเปลี่ยนแปลงสังคมในเรื่องมที่เราสนใจ ใครสนใจเรื่องไหนก็ทำไปเรื่อย ๆ ความเปลี่ยนแปลงเริ่มจากวันนี้ ทำยังไงให้เรื่องนวัตกรรมเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย ดุจดั่งลมหายใจที่อยู่ในชีวิตประจำวัน” พันชนะชี้ 

ด้าน ผศ.พญ.จิราภรณ์ อรุณากุล เจ้าของเพจ “เลี้ยงลูกนอกบ้าน” จากกลุ่ม PEOPLE ระบุว่า เทคโนโลยีทำให้คนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ผู้มีความรู้ในด้านต่าง ๆ มักจะเข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งนับว่าเป็นการเพิ่มโอกาสทางสังคม จึงได้ริเริ่มเปิดเพจ “เลี้ยงลูกนอกบ้าน” เพื่อถ่ายทอดความรู้จากวิชาชีพ รวมถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา เล่าเรื่องราวการเลี้ยงดูเด็กในแต่ละช่วงวัย ประเด็นปัญหาทางสังคมที่เกี่ยวกับเด็กให้พ่อแม่เข้าใจ เปลี่ยนแปลงทัศนคติการเลี้ยงลูกแบบเดิมสู่การเลี้ยงลูกในค่านิยมที่เรียกว่า “เลี้ยงลูกเชิงบวก” เป็นการสร้างเด็กให้มีการเติบโตอย่างสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งจะเป็นรากฐานที่นำไปสู่สังคมแห่งพลังบวกได้อย่างยั่งยืน เพราะการเลี้ยงเด็กคนหนึ่ง ต้องใช้คนทั้งสังคม 

“เราทุกคนต้องเชื่อว่าตัวเองสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ต้องทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ ไม่ต้องทำอะไรที่ผ่านกระบวนการวิจัยให้ออกมาเป็นนวัตกรรมที่เลิศหรู แต่เป็นการรับรู้ว่าตัวเรามีศักยภาพอะไร เรามีแรงบันดาลใจ หรือมีแพชชันในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอะไร การที่เรารู้ว่าเราลงมือทำอะไร แล้วมันมีประโยชน์เกิดขึ้นกับชีวิตใคร สิ่งเหล่านี้คือนวัตกรรม และเราสามารถลุกขึ้นมาเป็นจุดเล็ก ๆ ตรงนั้น” ผศ.พญ.จิราพรณ์ สะท้อน

ขณะที่ณัฐพล ม่วงทำ เจ้าของเพจ “การตลาดวันละตอน” ตัวแทนกลุ่ม PROFIT กล่าวว่า จากความคิดริเริ่มที่ต้องการให้การตลาดที่ดูเป็นเรื่องเข้าใจยาก กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าใจง่าย จึงเกิดเป็น “เพจการตลาดวันละตอน” ที่มีคอนเซปต์เล่าเรื่องการตลาด ในภาษาที่แม่ค้าในตลาดอ่านแล้วเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง ทำให้การตลาดเป็นเรื่องที่บุคคลทั่วไปรู้ได้ ไม่ใช่เรื่องเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป โดยมีการหยิบยกศัพท์เทคนิคด้านการตลาดมาย่อยให่ง่ายขึ้น จนมีผู้ติดตามเพจนับแสนคน และเติบโตมาเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดที่ยังไม่หยุดพัฒนา เหมือนคำกล่าวว่า “ความรู้ไม่สิ้นสุด” และการตลาดวันละตอนก็ยังคงพัฒนาอย่างไม่สิ้นสุดเช่นกัน

“ผมว่าแต่ละคนมีสิ่งที่เรียกว่าความผิดพลาดเกิดขึ้น สิ่งที่ต้องเรียนรู้ตลอด ดังนั้น ใครจะเริ่มทำสิ่งใหม่ จะสร้างสิ่งใหม่เป็นนวัตกรรม คุณต้องเตรียมใจรับสิ่งนี้ด้วย ทุกครั้งที่เราล้ม ย้ำเสมอมันคือล้มเพื่อรู้ รู้ว่าถ้าเราจะเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง เราจะทำให้ดีขึ้น เราจะไม่ผิดพลาดเรื่องเดิม หรือแม้กระทั่งการทำเรื่องเดียวกัน มันมีวิธีการเรียนรู้ไม่เหมือนกัน ผมว่าข้อนี้สำคัญ แล้วผมก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่อยากเป็นนวัตกร อยากสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ผมว่าไม่มีใครทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก พยายามมองเป้าหมายระยะยาว ว่าเราอยากทำเพื่ออะไร ถ้ามันสำเร็จ มันจะดีกับตัวเราและคนอื่นอย่างไร” ณัฐพลกล่าว 

“NIA หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนร่วมกันสร้างความยั่งยืนด้วยนวัตกรรม และเชื่อว่าคนไทยจะสามารถทำให้ประเทศก้าวสู่การเป็นชาตินวัตกรรม และอยู่ในอันดับที่ 30 ของดัชนีนวัตกรรมโลกได้ โดยนวัตกรรมเด่นของประเทศไทยที่ทำให้ต่างชาติจดจำ คือนวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ประณีต ซึ่งเน้นวิถีไทย อัตลักษณ์ไทย และโครงสร้างสังคมวัฒนธรรมไทย ที่เราจะได้เห็นตัวอย่างมากมายจากหนังสือเล่มนี้” ดร.พันธุ์อาจ กล่าวทิ้งท้าย 

สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าไปร่วมค้นหาแนวความคิดของบุคคลต้นแบบ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม ผ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และชมนิทรรศการออนไลน์เสมือนจริง ได้ทางเว็บไซต์ www.nia100faces.com 

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ ของ NIA เปิดตัวหนังสือ “ร้อยคนไทยหัวใจนวัตกรรม 3” ผู้สร้างแรงบันดาลใจสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ยั่งยืน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook