ปชช.ทยอยกลับเข้ากรุงเทพหลังปีใหม่

ปชช.ทยอยกลับเข้ากรุงเทพหลังปีใหม่

ปชช.ทยอยกลับเข้ากรุงเทพหลังปีใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประชาชนทยอยเข้ากรุงเทพฯ บขส.คาดพรุ่งนี้มากถึง300,000 คน มั่นใจไร้ผู้โดยสารตกค้าง ด้านชาวอีสานทยอยกลับไปทำงาน กทม.-ตจว.เพื่อหนีรถติด ส่งผลให้การจราจรถนนมิตรภาพจากขอนแก่น-สระบุรีเริ่มติดขัด ขณะที่ร้านของฝากเมืองย่าโมขายดี

(2ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 เริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพ ภายหลังเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งช่วงบ่ายถึงเย็นวันนี้เป็นรถสายเหนือและอีสานที่ใช้ระยะเวลาการเดินทาง 6-7 ชั่วโมง เช่น พิจิตร พิษณุโลก สุรินทร์ บุรีรัมย์ เป็นต้น ซึ่งจากจำนวนประชาชนที่เริ่มกลับจำนวนมาก ส่งผลให้รถแท็กซี่ไม่เพียงพอให้บริการ

นายพยอม จันทร์แก้ว หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท พีซีวี ทรานสปอร์ต ซิสเต็ม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับสัมปทานจาก บริษัทขนส่ง จำกัด ในการให้บริการรถขาเข้า กล่าวว่า บริษัทได้ประสานศูนย์แท็กซี่ สถานีวิทยุด้านจราจร ช่วยประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ขับขี่แท็กซี่ให้วิ่งเข้ามารับผู้โดยสารในสถานีเพื่อไม่ให้ผู้โดยสารรอนาน รวมทั้งยังมีรถตู้ รถ ขสมก. รถมอเตอร์ไซด์ให้บริการ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประชาชนจะเดินทางกลับเข้ามามาก คือตั้งแต่เวลา 02.00 น.ของวันพรุ่งนี้ไปจนตลอดทั้งวัน

นายพยอม กล่าวด้วยว่า จากการสังเกตประชาชนที่เดินทางกลับเข้ากรุงเทพปีนี้ ส่วนใหญ่จะแบกสัมภาระประเภทข้าวสารอาหารแห้งมาด้วย คาดว่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องอาหารการกินตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน สำหรับปัญหาแท็กซี่หลอกลวงผู้โดยสาร หรือไม่คิดราคาตามมิเตอร์นั้น แก้ปัญหาด้วยการประชาสัมพันธ์ผ่านเครื่องกระจายเสียง ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ให้ขึ้นรถในช่องที่จัดไว้ และเจ้าหน้าที่จะคอยตรวจตราเพื่อตักเตือน

ด้านนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด กล่าวถึงการเตรียมการให้บริการประชาชนที่เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ว่า ได้ส่งสถิติการเดินทางในช่วงขาไปของประชาชนไปให้สถานีขนส่งต่างๆ ไปแล้ว เพื่อเตรียมจัดจำนวนรถให้เหมาะสม แต่หากมีจำนวนประชาชนมากจะขอความร่วมมือไปยังผู้อำนวยการขนส่งจังหวัดต่างๆ เพื่อจัดหารถเสริมรองรับประชาชน คาดว่าจะเพียงพอกับผู้โดยสารที่มีประมาณ 300,000 คน ซึ่งจะเริ่มกลับเข้ามาทำงานในวันที่ 4 มกราคม 2553

ผู้สื่อข่าวจ.นครราชสีมา รายงานบรรยากาศในช่วงบ่ายวันนี้ (2ม.ค.) ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 และแห่งที่ 2 ของ จ.นครราชสีมา บรรยากาศเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากประชาชนที่เดินทางกลับมาฉลองเทศกาลปีใหม่กับครอบครัวตามภูมิลำเนาได้ทยอยเดินทางมารอขึ้นรถโดยสารประจำทางเพื่อกลับไปทำงานยังกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ในวันจันทร์ที่ 4 ม.ค.นี้

โดยหลายราย ระบุว่า เหตุที่ต้องเลือกเดินทางกลับวันนี้ (2 ม.ค.) เพราะจะทำให้สะดวกกว่าวันพรุ่งนี้ (3 ม.ค.) โดยเฉพาะเกรงปัญหารถโดยสารจะไม่เพียงพอและหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัด ส่งผลให้สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.นครราชสีมาทั้ง 2 แห่งแออัดไปด้วยประชาชนที่มารอซื้อตั๋วโดยสาร ทางสถานีฯ จึงได้นำเต้นท์ จำนวน 30 หลัง เพื่อมาติดตั้งรองรับประชาชนที่มานั่งรอขึ้นรถโดยสารเป็นจำนวนมาก

นางสาวพรพิไล เจริญผล ชาว จ.มหาสารคาม ซึ่งจะเดินทางกลับไปทำงานที่ จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า ที่ต้องเลือกเดินทางกลับก่อนเพราะต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาการมานั่งรอรถโดยสารเป็นเวลานานและหนีปัญหารถติด อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตนจะมาก่อนแล้วแต่ก็ต้องมานั่งรอเหมือนเดิม เพราะรถโดยสารไป จ.จันทบุรี เต็มทุกที่นั่ง และมีจำนวนไม่เพียงพอ จึงขอฝากให้รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมดูแลปัญหาดังกล่าวนี้ด้วยเพราะถึงเทศกาลทีไรประชาชนเดือดร้อนทุกครั้งในเรื่องการเดินทาง ไม่เฉพาะรถโดยสารสายอีสานไปภาคตะวันออกเท่านั้น ไปภาคอื่นๆ ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน

ด้านนายจงรักษ์ จุลนาถ ชาว อ.จักราช จ.นครราชสีมา ซึ่งจะเดินทางกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ กล่าวว่า ตนออกจากบ้านที่ อ.จักราช ตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเดินทางกลับ กทม.ที่ต้องเลือกเดินทางกลับไปทำงานวันนี้ (2 ม.ค.) เนื่องจากเกรงว่าพรุ่งนี้ (3 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของวันหยุดเทศกาลปีใหม่ประชาชนจะมากและแออัด และตนจะหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัดใน ระหว่างทางและขณะเข้ากทม.ด้วย

นายมนัส รุ่งปิ่น นายสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า วันนี้ (2 ม.ค.) ได้มีประชาชนทยอยเดินทางกลับหลังฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้วโดยเฉพาะช่วงบ่ายถึงค่ำคาดว่าจะมีประชาชนเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ทางสถานีฯ ได้จัดบริการเสริมเที่ยวรถขากลับเข้า กทม.ตั้งแต่วันนี้ 2 ม.ค.-5 ม.ค.53 จากเดิมวันละ200 เที่ยว เป็น 500 เที่ยว มีรถโดยสารบริการถึง 344 คัน เพื่อระบายผู้โดยสารไม่ให้ตกค้าง นอกจากนี้ ทางสถานีฯ ยังได้ติดตั้งเต้นท์และเก้าอี้รวมถึงน้ำดื่มและหน่วยปฐมพยาบาลเพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารจำนวนมากที่มารอรถอีกด้วย

ส่วนบรรยากาศการจราจรบนถนนมิตรภาพช่วงบ่ายวันนี้ (2 ม.ค.53) จาก อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ผ่าน จ.นครราชสีมา ถึง จ.สระบุรี การจราจรหนาแน่นมีปริมาณรถยนต์ที่มุ่งหน้าเข้า กทม.เป็นจำนวนมาก โดยต่างคนต่างคิดว่าจะหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดจึงส่งผลให้การจราจรบนนถนนมิตรภาพช่วงจาก อ.สีดา ถึงตัวเมืองนครราชสีมา ติดขัดเป็นระยะๆ และช่วงจาก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จนถึง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี การจราจรก็ติดขัดอย่างหนักเป็นช่วงๆ เช่นกันโดยเฉพาะเขตชุมชนที่มีแยกและมีสัญญาณไฟจราจรและชุมชนที่มีการจำหน่ายสินค้าริมถนนและมีรถยนต์มักแวะจอดซื้อของฝาก เช่นตลาดผลไม้ อ.ปากช่อง ,ฟาร์มโชคชัย อ.ทางขึ้นเขา-ลงเขา อ.มวกเหล็ก เป็นต้น ส่งผลให้รถยนต์สามารถทำความเร็วได้เพียง 40-60 กม.ต่อชั่วโมงเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมืองนครราชสีมา ได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่าน จ.นครราชสีมาแวะไปสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเริ่มทำงานในปีพุทธศักราช 2553 หลายคนอธิษฐานให้ตนเองและครอบครัวประสบแต่ความสุขความเจริญและพบแต่ความโชคดีตลอดไปและอีกหลายคนยังได้ขอให้ย่าโมดลบันดาลให้ประเทศไทยเกิดความสงบสุขเศรษฐกิจรุ่งเรือง

ส่วนที่ร้านขายของฝากบริเวณถนนมหาดไทย หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ก็มีนักท่องเที่ยวและชาวภาคอีสานเข้าไปเลือกซื้อของฝากจากโคราชอย่างคึกคัก ทำให้ยอดจำหน่ายของฝากพุ่งขึ้นสูงสมารถสร้างรายได้ให้กับเจ้าของร้านเป็นอย่างดีในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้

น.ส.ปรียา ธรรมาภิรานนท์ เจ้าของร้านพรทิพย์ของฝากจากโคราช เปิดเผยว่า ของฝากที่ขายดีที่สุดในช่วงเทศกาลปีใหม่คือกุนเชียง หมูยอ หมูแผ่น หมูหยอง ข้าวตัง และแหนม ซึ่งสินค้าของฝากที่ร้านตนเองมีมาตรฐานสะอาดและไม่ใส่สารใดๆ ที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค สำหรับยอดขายในช่วงนี้สูง 50% และขายดีกว่าปีใหม่ปีที่แล้วมาอีกด้วย

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook