มีชัย ห่วงบ้านเมือง ชี้ขาดสำนึกความเป็นชาติ

อดีตประธาน สนช. ห่วงสถานการณ์การเมือง ระบุปัจจุบันแต่ละฝ่ายไม่คิดถึงส่วนรวม ความเป็นชาติ ชี้หาคนกลางไกล่เกลี่ยยาก ยุบสภาไม่ใช่ทางออก

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันว่า ทุกคนเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองเพราะเหมือนกับแต่ละฝ่ายหยิบปัญหาของตัวเองขึ้นมา แล้วมุ่งมั่นแก้ปัญหาที่แต่ละคนคิดว่ามี แต่นึกถึงประโยชน์ส่วนรวมและความสงบสุขของประเทศน้อยลง สิ่งนี้น่าเป็นห่วง ความเห็นที่ไม่ลงรอย ไม่สอดคล้องกัน เป็นสิ่งที่มีได้เป็นปกติของสังคมประชาธิปไตย แต่ดูเหมือนปัจจุบันไม่มีใครห่วงว่าอะไรเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ หรือกระทบต่อสถานภาพของบ้านเมือง อยากทำอะไรก็ทำ หรืออะไรที่คิดว่าสมประสงค์ที่จะแก้ไขปัญหาของตัวเองได้ก็ทำ ไม่ได้นึกถึงว่าประเทศชาติจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าคิดว่าทางออกของบ้านเมืองควรเป็นอย่างไร อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า บอกตรง ๆ ว่านึกทางออกไม่ออก เพราะเมื่อวิธีคิดของคนวิวัฒนาการมาจนถึงจุดนี้ เหมือนกับจะบอกว่าไม่มีอะไรยับยั้งได้ ความสมานฉันท์ที่พยายามจะทำให้เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก เมื่อแต่ละฝ่ายคิดโดยไม่มีกรอบกันแล้วความสมานฉันท์จึงเกิดได้ยาก เมื่อถามต่อว่าคนกลางจะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ นายมีชัย ย้อนถามว่า แล้วใครคือคนกลาง เมื่อถูกหมายหัวกันหมด ตอนนี้กลายเป็นว่าใครพูดไม่ถูกใจก็กลายเป็นฝ่ายตรงข้ามทั้งหมด

"เรื่องนี้ถ้าพูดถูกใจก็เป็นพวกคุณ พูดไม่ถูกใจก็เป็นศัตรู มันไม่ใช่แค่เห็นต่างแล้วช่วยกันกลับมาคิดว่า เมื่อมีความแตกต่างกันแล้วจะไปกันยังไงได้ มันจึงยากจะหาคนกลางที่ไหนได้" นายมีชัย กล่าว

ต่อข้อถามว่าคนกลางที่เป็นคณะบุคคลพอจะทำหน้าที่เป็นคนกลางได้หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า หากมองในแง่ดีเราหวังว่าจะเกิดอย่างนั้น แต่มันจะเกิดได้หรือเปล่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อถามต่อว่าคิดว่าอะไรเป็นสาเหตุทำให้ความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้น นายมีชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยแรงอย่างนี้ ถึงมีความเห็นแตกต่างกันในอดีต ในที่สุดพอทุกคนพูดถึงความเป็นส่วนรวมความเป็นชาติ ความเป็นประเทศทุกคนก็ยอมถอย แต่ตอนนี้ไม่มี

เมื่อถามว่ามีข้อเสนอจากแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ปัญหาจะจบหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า ไม่รู้ ถ้าเป็นสูตรที่ดีคงมีคนทำไปแล้ว แสดงว่ายังมีคนเห็นไม่สอดคล้องต้องกัน ดังนั้นคงต้องหาสูตรกันไปเรื่อย ๆ เวลานี้คนไทยคงได้แต่นึกถึงพระสยามเทวาธิราช ณ ขณะนี้ยังนึกทางออกไม่ออก ถ้าหวังพึ่งพลังเงียบแต่ไม่มีทิศทางชัดเจน พลังเงียบออกมาก็ไม่มีประโยชน์ ส่วนสื่อก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม สื่อเองก็แบ่งเหมือนกัน

"ขอให้ยึดพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ว่าบ้านเมืองจะสงบได้ต่อเมื่อแต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเองโดยบริสุทธิ์และยุติธรรม เวลานี้การทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายไม่ค่อยตรงตามหน้าที่ สำหรับปีใหม่คงได้แต่ขอให้บ้านเมืองสุขสงบขอให้ทุกคนมีสติ ปัญญา ในการคิดอ่านแก้ไขปัญหาของตัวเอง ถ้าปัญหาของตัวเองหมดไป ปัญหาของบ้านเมืองก็หมด" นายมีชัย กล่าว