จาตุรนต์เชื่อแก้รธน.ไม่ได้ สุริยะใส ยุปชป.อย่าแก้ เชื่อแกร่ง

จาตุรนต์เชื่อแก้รธน.ไม่ได้ สุริยะใส ยุปชป.อย่าแก้ เชื่อแกร่ง

จาตุรนต์เชื่อแก้รธน.ไม่ได้ สุริยะใส ยุปชป.อย่าแก้ เชื่อแกร่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จาตุรนต์ ฟันธงแก้รธน.ต้องรอรัฐบาลใหม่ สุวัจน์ ชี้ปมต่างแก้ไปซ้ำเติมปัญหา ประสาร ฟันซ้ำแก้ยาก สุริยะใส ระบุ เนวิน แค่ขู่ไม่กล้าถอนตัว

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงแนวโน้มการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คงไม่เกิดขึ้นแน่นอน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการแก้เลย ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอาจอยากแก้เพียงบางประเด็น ส่วนฝ่ายค้านถอนตัวเนื่องจากเกรงว่าเป็นเครื่องมือให้รัฐบาลถ่วงเวลา คิดว่าฝ่ายต่างๆ น่าจะให้ความสนใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับกันมากขึ้น แต่คงไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ ต้องว่ากันใหม่ตอนเลือกตั้งใหญ่คราวหน้า


สุวัจน์ แนะรัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปมขัดแย้ง

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์การเมืองไทยว่า ต้องถือว่าความสมานฉันท์ของคนในชาติ รัฐบาลต้องเข้าไปดูแล ต้องเป็นฝ่ายเริ่มต้น จริงใจแก้ปัญหา ทุกคนต้องช่วยกันคิดว่า 3 ปีที่ผ่านมา เราถอยหลังกว่าประเทศอื่น พายเรืออยู่ในอ่าง

ส่วนกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังไม่มุ่งหน้าเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ นั้น เขาระบุว่า รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ หากเริ่มต้นด้วยความขัดแย้ง ก็ไม่ควรแก้ไข เพราะเราต้องแก้รัฐธรรมนูญเพื่อไปแก้ความขัดแย้ง ดังนั้นจึงเห็นด้วยในหลักการที่ว่าหากจะแก้รัฐธรรมนูญทุกฝ่ายต้องเห็นด้วย และควรจะมีการทำประชามติรับฟังความเห็นของประชาชนว่ามีความคิดเห็นอย่างไร แต่ต้องเริ่มต้นกระบวนการที่ทุกฝ่ายในบ้านเมืองเห็นด้วย โดยเฉพาะฝ่ายการเมือง ไม่ใช่ว่าขัดแย้งกันแล้วไปทำประชามติให้ประชาชนเห็นชอบแล้วมาถูกคว่ำในสภา หากเป็นเช่นนี้จะยิ่งสร้างความขัดแย้ง


ประสาร คาดปี'53 ยังแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้

นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงความคืบหน้าปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เนื่องจากมีความเห็นที่แตกต่างกันหลายฝ่าย โดยเฉพาะการแก้ไขเฉพาะมาตรา 190 และมาตรา 165 ซึ่งหลายคนมองว่าน่าจะเป็นที่ยอมรับได้กว้างที่สุด แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับแม้แต่ฝ่ายค้าน เพราะฝ่ายค้านต้องการให้นำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 มาใช้แทน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าการแก้ไขเฉพาะ 2 มาตราดังกล่าว เชื่อว่า หลังจากนี้ไปการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะขลุกขลักทุลักทุเล และจะถูกหยิบขึ้นมาเป็นประเด็นทางการเมือง ยากที่จะเดินหน้าได้ ดังนั้นในหนึ่งปีนับจากนี้ จะไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้


พรรคกมม. เชื่อ ภท.ไม่คิดสั้นถอนตัวจากร่วมรัฐบาล

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ เปิดเผยถึงจุดยืนของพรรคในการแก้รัฐธรรมนูญว่า ไม่ควรสนองความอยากของนักการเมือง แต่ควรถามประชาชนก่อน ทั้งนี้แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะประชุมเพื่อกำหนดท่าทีในวันที่ 5 ม.ค.

เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงแรงกดดันต่อพรรคประชาธิปัตย์ว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ผ่านวิกฤตินี้ไปได้จะเป็นพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง โดยถ้าไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย จะนำพรรคภูมิใจไทยเปลี่ยนขั้วไปจับกับพรรคเพื่อไทย ถ้าเป็นเช่นนั้นเท่ากับฆ่าตัวตาย เพราะเคยตะโกนด่าพรรคเพื่อไทยไว้ก่อนจะออกจากพรรคแล้ว กลับไปใหม่

"เป็นแค่เพียงคำขู่ของพรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นพรรคที่ไม่พร้อมที่สุดในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ผิดพลาดคือการชูนายเนวินขึ้นมาสู้กับพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ผมจึงเห็นว่าเป็นแค่คำขู่เท่านั้น หากพรรคประชาธิปัตย์ยืนข้างประชาชน ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ก็ไม่มีปัญหา"

นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า ท้ายที่สุดพรรคประชาธิปัตย์จะผ่านแรงกดดันไปได้โดยไม่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ และจะเป็นพรรคที่เข้มแข็ง แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ยอมแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเสถียรภาพของรัฐบาล นักการเมืองก็ไม่ควรอยู่ต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook