รวบหนุ่มแสบ ลอบใช้อินเทอร์เน็ตในห้องสมุด หลอกขายสินค้าทิพย์

รวบหนุ่มแสบ ลอบใช้อินเทอร์เน็ตในห้องสมุด หลอกขายสินค้าทิพย์

รวบหนุ่มแสบ ลอบใช้อินเทอร์เน็ตในห้องสมุด หลอกขายสินค้าทิพย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจ ดส.จับพ่อค้าเสื้อผ้า หลอกขายของผ่านเน็ต อ้างรับเงินมาแต่ไม่มีของส่ง

พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส.บช.น. สั่งการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่หลอกขายของทางออนไลน์ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยทำการ จับกุมนายสุพศิน อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ของศาลแขวงนนทบุรี ที่ 53/2566 ลงวันที่ 3 ก.พ. 2566 กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” และ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปราจีนบุรี ที่ 227/2565 ลงวันที่ 11 พ.ย. 2565 กระทำความผิดฐาน ”

โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดและฉ้อโกงทรัพย์สินผู้อื่น” โดย จับกุมได้บริเวณมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านบางเขน

สืบเนื่องมีผู้เสียหายใช้เฟซบุ๊กชื่อ Supasin Supasin เข้าไปโพสต์รูปขายของตามเพจต่างๆ ตั้งแต่ปี 2564 ทั้งในกลุ่มอนุรักษ์อาวุธไทยโบราณ, กลุ่มประมูลพระ, กลุ่มคนขายกล้องฟิล์ม, กลุ่มซื้อขายและเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องดนตรี เป็นต้น จากการสืบสวนพบผู้เสียหายโพสต์เตือนภัยโดนนายสุพศินฯ หลอกขายสินค้าแต่ไม่มีส่งสินค้าให้เป็นจำนวนกว่า 13 ราย ชุดสืบสวนกก.ดส. จึงได้ติดตามผู้ต้องหาดังกล่าวจนกระทั่งทราบว่า นายสุพศิน กัลยาณประดิษฐ อายุ 27 ปี จึงได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งพบว่าอยู่ในห้องสมุดในมหาวิทยาลัยย่านบางเขนจึงได้ทำการจับกุมตัวดังกล่าว

 จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า ก่อเหตุจริงโดยให้ให้ลูกค้าโอนเงินแต่ไม่มีสินค้าส่ง ปัจจุบันนายสุพศินอ้างว่ามีอาชีพขายเสื้อผ้าอยู่แถวสะพานใหม่ แต่จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.ดส.พบว่านายสุพศินฯมักจะมาใช้พื้นที่ตามห้องสมุดมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เพื่อทำการพูดคุยติดต่อกับลูกค้าทางออนไลน์ในการหลอกขายสินค้า

เบื้องต้นนำตัวส่งนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมืองดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ กก.ดส. ฝากแจ้งเตือนภัยประชาชนที่ซื้อของทางออนไลน์ อย่าหลงเชื่อจากรูปภาพที่โพสต์ขายตามเพจ ให้ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าบุคคลดังกล่าวเคยหลอกขายสินค้าทางออนไลน์มาก่อนหรือไม่

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook