“สุชาติ” สอน "ก้าวไกล" ประธานสภา ไม่มีสิทธิเลือก กม.ได้ตามใจ

“สุชาติ” สอน "ก้าวไกล" ประธานสภา ไม่มีสิทธิเลือก กม.ได้ตามใจ

“สุชาติ” สอน "ก้าวไกล" ประธานสภา ไม่มีสิทธิเลือก กม.ได้ตามใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“สุชาติ” สอนก้าวไกลประธานสภา ไม่มีสิทธิเลือก กม.ได้ตามใจ บอกกล่าวหาสภา เท่ากับว่าตัวเอง ชี้ไม่ยึดติดตำแหน่ง แต่อยากให้ตั้งรัฐบาลเดินหน้าทำงานได้เร็ว

นายสุชาติ ตันเจริญ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตรองประธานสภาฯ กล่าวถึงกรณีแถลงการณ์ของพรรคก้าวไกล และคำให้สัมภาษณ์ของแกนนำพรรคก้าวไกลเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภาว่า อาจทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดได้ว่า ประธานสภาฯ และนายกฯสามารถใช้ดุลพินิจเกี่ยวกับการตรากฎหมายยิ่งกว่าเจตจำนงของ ส.ส.ที่เป็นตัวแทนของประชาชน และการอ้างว่าเป็นประเพณีที่พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 ในสภาฯ จะได้รับตำแหน่งประธานสภาฯ ก็ไม่ตรงตามข้อเท็จจริงเสียทีเดียว

เพราะในประวัติศาสตร์มีหลายครั้งที่ประธานสภาฯ ก็ไม่ได้มาจากพรรคการเมืองที่มี ส.ส.มากที่สุด ที่ผ่านมาทุกสมัย ประธานสภาฯจะมาจากการเลือกของเพื่อน ส.ส.ในสภาฯ ไม่ใช่พรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นผู้เลือก และการปฏิบัติหน้าที่ของประธานสภาฯ จะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางตามกรอบที่รัฐธรรมนูญ ตลอดจนข้อบังคับการประชุมสภาฯกำหนด

สำหรับการบรรจุวาการประชุมสภาฯ รวมไปถึงวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ต่างๆ ประธานสภาฯ ไม่มีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมสภาฯ การจะบรรจุร่าง พ.ร.บ.ของพรรคที่ตนเองสังกัดก็ต้องบรรจุตามลำดับ ประธานสภาฯ ไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกบรรจุตามอำเภอใจได้ และไม่มีสิทธิ์ที่จะเลื่อนร่าง พ.ร.บ.ที่บรรจุไปแล้วขึ้นมาพิจารณา ซึ่งเป็นเรื่องของที่ประชุมสภาฯต้องตกลงกัน

ตนเข้าใจว่า ขณะนี้มีความพยายามในการแย่งชิงตำแหน่งประธานสภาฯกันระหว่างพรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 ซึ่งเป็นเรื่องการเจรจาต่อรองกันทางการเมืองที่เจรจากันเป็นการภายใน และพรรคก้าวไกล เองก็มีอดีต ส.ส.ร่วมทำหน้าที่ในสภาฯชุดที่แล้วหลายท่าน การกล่าวหาสภาฯในทางเสียหาย ก็เหมือนกับตำหนิการทำหน้าที่ของตัวเองด้วย จึงอยากให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับสภาฯ หรืออำนาจหน้าที่ของประธานสภาฯ ส่วนตัวผมก็มีคนเชียร์ว่า จะถูกเสนอชื่อเป็นประธานสภาฯ ในสภาฯชุดนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับพรรคที่จะเสนอชื่อใคร และก็ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมสภาฯด้วยว่า จะลงมติเลือกหรือไม่ แต่สาระสำคัญไม่ใช่อยู่ใครได้เป็นประธานสภา

ส่วนตัวผมก็มีคนเชียร์ว่า จะถูกเสนอชื่อเป็นประธานสภาฯ ในสภาฯชุดนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับพรรคที่จะเสนอชื่อใคร และก็ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมสภาฯด้วยว่า จะลงมติเลือกหรือไม่ แต่สาระสำคัญไม่ใช่อยู่ใครได้เป็นประธานสภาฯ เพราะความสำคัญอยู่ที่การที่สภาฯได้เริ่มทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งมาได้เมื่อใดมากกว่า

ทั้งนี้นายสุชาติ ยังได้กล่าวถึงวาระของ พรรคก้าวไกล ที่ต้องการทำให้สภาฯมีความโปร่งใส เปิดเผย ตรวจสอบได้ว่าในสภาฯชุดที่ผ่านมา การประชุมสภาฯ จะมีการถ่ายทอดสดการประชุมทุกครั้งทางสถานีวิทยุรัฐสภา และถ่ายทอดทางโทรทัศน์รัฐสภา TPTV ช่อง 10 รวมทั้งผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆตลอด 4 ปี ส่วนการประชุมของคณะกรรมาธิการนั้น จะมีทั้งข้อมูลที่เปิดเผยได้ และเปิดเผยไม่ได้ การประชุมใดจะเป็นการลับ หรือเป็นการเปิดเผยจึงขึ้นอยู่กับมติของสมาชิกคณะกรรมาธิการนั้นๆ

ส่วนตามกระแสข่าวหากพรรคเพื่อไทยได้โควตาประธานสภาฯจริง นายสุชาติระบุอาจได้รับการเสนอชื่อ นายสุชาติ กล่าวว่า การลงมติเลือกผู้ทำหน้าที่ประธานสภาฯ ไม่ใช่เรื่องของพรรคการเมืองใด แต่เป็นการลงมติร่วมกันของ ส.ส.ทั้งสภาฯ ทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้าน ส่วนตัวไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งและไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นอุปสรรคที่อาจทำให้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า เพราะปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้ จึงอยากฝากไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เร่งพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เพื่อให้สภาเดินหน้าการทำงานได้โดยเร็ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook