ไม่รอด! "บิ๊กโจ๊ก" รวบนักข่าวสาว อ้างชื่อเรียกเงิน 33 ล้านแก๊งอุ้มบุญ ยันคนรู้จักก็ไม่ละเว้น

ไม่รอด! "บิ๊กโจ๊ก" รวบนักข่าวสาว อ้างชื่อเรียกเงิน 33 ล้านแก๊งอุ้มบุญ ยันคนรู้จักก็ไม่ละเว้น

ไม่รอด! "บิ๊กโจ๊ก" รวบนักข่าวสาว อ้างชื่อเรียกเงิน 33 ล้านแก๊งอุ้มบุญ ยันคนรู้จักก็ไม่ละเว้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองผบ.ตร. ยันจับแล้ว "นักข่าวสาว" แอบอ้างชื่อตนเอง เรียกรับเงิน 33 ล้านจาก "นวพร" ผู้ต้องหาแก๊งอุ้มบุญ ยันแม้เป็นคนรู้จักก็ไม่มีละเว้น

ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เปิดเผยว่าหลังจากมีการจับกุมดำเนินคดี น.ส.นวพร ภาเกียรติสกุล อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาที่เป็นตัวการใหญ่คดีอุ้มบุญ และเรื่องการได้สัญชาติโดยผิดกฎหมาย และความผิดคดีอาญาฐานฟอกเงิน เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา จากการสอบปากคำ น.ส.นวพร ได้ให้การเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีคนแอบอ้างชื่อของตนเอง เข้าไปเรียกเงินกับ น.ส.นวพร จำนวน 33 ล้านบาท แต่จ่ายไป 14 ล้านบาท มีการกล่าวอ้างว่าจะช่วยเหลือคนจีนต่างๆที่เป็นอาชญากรจีน

ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่าคนที่ไปเรียกรับเงินก็เป็นผู้สื่อข่าวที่ตนเองช่วยให้ประสานกับทางการจีนอยู่ โดยเป็นคนสัญชาติไทยเชื้อสายจีน จากนั้นตนเองได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลอนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐานเรียกรับหรือยอมจะรับผลประโยชน์ใดๆ เพื่อให้เจ้าพนักงานของรัฐกระทำการใดที่ไม่ปฎิบัติตามหน้าที่ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1แสนบาท หลังจากที่ศาลอาญารัชดาได้อนุมัติหมายจับเจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวตั้งแต่เมื่อวาน( 26พ.ค.)ที่ผ่านมาแล้ว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าใครก็ตามที่แอบอ้างชื่อของตนเอง ไปเรียกรับผลประโยชน์หรือใช้ชื่อตนเองไปทำความเสียหาย จะต้องถูกจับกุมดำเนินคดีทั้งหมด แม้ว่าจะเป็นคนใกล้ชิดหรือรู้จักกัน หากกระทำความผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเหมือนกันเป็นบรรทัดฐานเดียวกันหมดไม่มีละเว้น และจากนี้ก็ต้องไปต่อสู้คดีเอง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook