ฮือฮา ถูกหวยทุกงวดมาแก้บน "องค์หญิงมณฑาทิพย์" เสี่ยงเซียมซีได้เลขเดียวกันทั้ง 2 ไม้

ถูกหวยทุกงวด แก้บนด้วยเครื่องสำอาง "องค์หญิงมณฑาทิพย์" หลังโบสถ์ปรกโพธิ์ ไม่พลาดตามส่องเลขเด็ด ตะลึง เสี่ยงเซียมซีได้ 85 ทั้ง 2 ไม้

เจ้าของร้านหมูกระทะนำชุดพานเครื่องสำอางถวายองค์หญิงมณฑาทิพย(จันทร์เจ้า) หลังโบสถ์ปรกโพธิ์วัดบางกุ้ง หลังถูกหวยทุกงวด ล่าสุดงวดที่ผ่านมาได้เลข 99 ถูกรางวัลจริงๆ จึงนำเครื่องสำอางที่องค์หญิงชอบมาถวาย งวดนี้จึงไม่พลาดตามไปส่องเลขเด็ด

จากกรณีที่นักท่องเที่ยวเดินทางโดยรถยนต์มาจอดรถริมถนนอัมพวา-บางคนที และเดินเท้าเข้าไปต่อคิวเพื่อรอเข้ากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อพุทธนิลมณี ภายในโบสถ์ปรกโพธิ์ อัลซีนไทยแลนด์ กันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ก็มีประชาชนนำข้าวต้มมัดมาแก้บนบริเวณภายนอกหน้าโบสถ์มหาอุด เป็นจำนวนมาก โดย ร้อยเอกเอนก แจ่มกระจ่าง ไวยาวัจกรวัดบางกุ้ง (ข้าราชการบำนาญ) ได้นำเจ้าหน้าที่คอยให้บริการอำนวยความสะดวกนั้น

นอกจากนี้ยังมีอีก 1 จุด ที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเชื่อมาขอแล้วจะมีโชค มีลาภติดไม้ติดมือกลับบ้าน อยู่บริเวณด้านหลังโบสถ์ปรกโพธิ์ คือ ศาลแม่นางไม้มณฑาทิพย์ หรือองค์หญิงมณฑาทิพย์ (จันทร์เจ้า) เพราะขึ้นชื่อเรื่องของานได้งาน ขอเลขเด็ดก็สมดั่งใจกันมาหลายคนแล้วเช่นกัน เช่นเดียวกับ นางวาสนา ใบสมุทร อายุ 49 ปี เจ้าร้านหมูกระทะ ชาวจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งกำลังถือพานเครื่องสำอางเพื่อนำมาถวายให้แก่องค์หญิงมณฑาทิพย์ (จันทร์เจ้า) หลังจากที่ก่อนหน้านี้มาขอเลขเด็ดแล้วถูกทุกงวด ล่าสุดงวดที่ผ่านมาได้เลข 99 กลับไปก็ปรากฏว่าถูกรางวัลจริงๆ โดยหลังจากที่ถวายเครื่องสำอางแล้ว นางวาสนา ก็เขย่าเซียมซีเพื่อหาเลขเด็ด โดยครั้งแรกได้เลข 6 ส่วนครั้งที่ 2 ไม้เซียมซีกระเด็นออกมา 2 อันน่าอัศจรรย์เป็นเลข 85 ทั้งคู่

นางวาสนา กล่าวว่า ตนมาแล้วหลายครั้งพอกราบไหว้ขอพรหลวงพ่อพุทธนิลมณีเสร็จ ก็ไม่พลาดขอเลขเด็ดและขอให้ธุรกิจรุ่งเรืองกับองค์หญิงมณฑาทิพย์บริเวณหลังโบสถ์ปรกโพธิ์ ซึ่งพอกลับไปธุรกิจร้านหมูกระทะที่ทำอยู่ก็มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนจำนวนมาก ล่าสุดงวดที่ผ่านมาได้เลข 99 ก็ถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัวตรงๆ วันนี้จึงนำเครื่องสำอางมาถวายเพื่อให้องค์หญิงสวยสง่า

สำหรับประวัติเรื่องราวขององค์หญิงมณฑาทิพย์ (จันทร์เจ้า) ประสูติเมื่อปี พ.ศ. 2291 เช่นเดียวกับที่เคยนิมิตเห็นน่าจะเป็นองค์เดียวกันมีเนื้อหาดังนี้ “องค์หญิงมณฑาทิพย์ (จันทร์เจ้า) ประสูติเมื่อปลายกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2291 เป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอุทุมพร (ขุนหลวงหาวัด) กับสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ องค์หญิงเป็นพระธิดาของกรมหลวงบวรวังในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ บ้านเมืองมีเหตุเดือดร้อนมีการฉ้อราษฎร์บังหลวงผู้ใดประจบสอพลอผู้นั้นจะได้เป็นใหญ่ทั้งที่ไร้ความสามารถ ผู้ครองแผ่นดินได้แต่ลุ่มหลงและเสพสุขในกามา หากใครมีบุตรีต้องนำตัวมาถวายใครขัดขืนจะถูกประหารชีวิต เหลืออยู่ก็แต่กรมหลวงบวรวังในที่ท่านไม่ทรงยอมข้องเกี่ยวกับการเมืองแต่อย่างใด ไม่คบค้าสมาคมกับใคร

เมื่อพระธิดาเจริญพระชันษาเป็นสาวให้แต่งองค์เป็นชายพร้อมทั้งข้าทาสบริวารที่เป็นหญิง 300 คน เป็นชายอีก 16 คน จัดให้ฝึกอาวุธเรียนศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเช่น ฟันดาบกระบี่กระบอง หมัดมวย ตำราพิชัยสงคราม องค์หญิงทรงเชี่ยวชาญอาวุธตลอดจนเวทมนตร์คาถา ทรงมีความสามารถด้านวิชาอาคมยากที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือน

เมื่อกรุงศรีอยุธยาถูกข้าศึกพม่ายกกองทัพประชิดเมือง ผู้เป็นพระบิดาทรงสั่งให้บ่าวไพร่ต่อเรือใหญ่ 30 ลำ เรือเร็ว 10 ลำ เรือแจว 20 ลำ พร้อมด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร อุปกรณ์การก่อสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ลงด้วยอาคมพร้อมเรือคุ้มกันองค์หญิง ซึ่งแต่งกายเป็นชายเยี่ยงชายชาวบ้านธรรมดาหลบหนีออกจากกรุงตอนกลางคืน แต่พระบิดามิได้มาด้วย กองเรือได้ล่องน้ำมาเป็นระยะเวลา 3 วัน พบกองเรือพม่าบรรทุกกระสุน ดินดำ จึงสั่งให้พลพรรคเข้าโจมตีตอนเวลาดึก จึงเกิดไฟลุกโชติช่วงฆ่าทหารพม่าซึ่งกำลังหลับเพราะเมามายแทบหมดสิ้น จนรุ่งเช้าพม่าส่งกำลังติดตามองค์หญิงทรงสั่งให้กองกำลังหลบตามป่าชายฝั่ง แล้วร่ายเวทมนตร์กำบังพรางตาจนพม่าพ้นไป กองเรือหนีเล็ดลอดไปได้อย่างปลอดภัย แล้วหาทำเลสร้างเมืองเล็กๆ อยู่ เมื่อคราวศึกบางกุ้งองค์หญิงได้ทรงคุมกำลังเข้าช่วยรบพม่าเป็นสามารถจนได้รับชัยชนะ

เมื่อสิ้นอายุขัยดวงพระวิญญาณยังผูกพันกับวัดบางกุ้งยังคงวนเวียนอยู่ที่ศาลคอยแผ่บารมีให้ความช่วยเหลือผู้ทุกข์ร้อนที่มาขอพึ่งพา นับว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ยอมรับนับถือของคนทั่วไปใครมีเรื่องทุกข์ร้อนอย่างใครมาบนบานในสิ่งที่ต้องการมักไม่ผิดหวัง และทางด้านโชคลาภ มีคนได้เลขไปเสี่ยงโชคแล้วรวยมีปรากฏอยู่เสมอ