ทล.สั่งยกเลิก "ชุดเฉพาะกิจ" ลั่นส่วยคือวงจรอุบาทว์ ขอบคุณ "วิโรจน์" ออกมาเปิดโปง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ สั่งยกเลิกชุดเฉพาะกิจ ลั่น! ส่วยคือวงจรอุบาทว์ ที่แฝงอยู่ทุกที่ หากพบ จนท.เอี่ยว ดําเนินคดีไม่มีเว้น ขอบคุณ "วิโรจน์" เปิดเผยข้อมูลส่วย
วันที่ 31 พ.ค. 66 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รักษาราชการแทน ผบก.ทล. เปิดเผยภายหลังเรียกประชุมตํารวจทางหลวงระดับรองผู้บังคับการและผู้กํากับการ ว่า เบื้องต้นมีการพูดคุยหาในเรื่องของแผนการเร่งด่วน คือการบังคับใช้กฎหมายเรื่องส่วยรถบรรทุกที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ และเรื่องที่เกี่ยวข้องทุกอย่าง ซึ่งต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมทุกพื้นที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่ออีกว่า ส่วยพวกนี้ต้องหมดไปเพราะถือเป็นวงจรอุบาทว์ที่เกาะกินกับทุกๆหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นตํารวจ หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานอื่นๆ
ซึ่งตํารวจต้องเข้าไปแก้ไข ขณะนี้ตนกําลังพิจารณาที่จะนํา บก.ปปป. เข้ามาช่วยนําพยานหลักฐานต่างๆเข้าสู่ระบบ และขอยืนยันว่าจะไม่มีการปล่อยปละละเลย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตํารวจ หากพบกระทําผิดก็ต้องได้รับโทษ ซึ่งจะต้องดําเนินการปัดกวาดใต้พรม ให้ขาวสะอาดตามนโยบายของ ผบ.ตร. ในส่วนที่ต้องดําเนินการต่อจากนี้คือ ชุดเฉพาะกิจของ บก.ทล.
โดยพล.ต.ต.จรูญเกียรติ รับว่าชุดเฉพาะกิจสร้างปัญหาให้แก่หน่วยงาน ไม่ใช่แค่ตํารวจทางหลวงเท่านั้น แต่ชุดเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นของทุกๆหน่วยงาน ล้วนแต่สร้างปัญหา เพราะเป็นการก้าวก่ายหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจําหน่วยงานนั้นๆ ซึ่งตนมองว่าไม่จําเป็นที่จะต้องตั้งขึ้น เพราะทุกคนมีหน้าที่ของตนเอง เบื้องต้นได้สั่งการด้วยวาจาแล้ว โดยในวันพรุ่งนี้จะทําหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร สั่งยกเลิกชุดเฉพาะกิจ ซึ่งผู้ที่จัดตั้งชุดเฉพาะกิจตํารวจทางหลวงขึ้นนั้น ทราบว่าเป็นผู้บังคับการคนก่อนหน้านี้ ส่วนใครเป็นผู้เซนต์อนุญาตนั้นต้องขอตรวจสอบก่อน ส่วนชุดเฉพาะกิจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์ด้วยหรือไม่นั้น หากพบก็ให้ทําใจรอไว้ได้เลย
ทั้งนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันคําเดิมว่าไม่หนักใจ ที่ต้องมาตรวจสอบหน่วยงานที่เคยทํางานก่อนหน้านี้เพราะทําตามหน้าที่ ส่วนเจ้าหน้าที่คนใดที่ทําไม่ดีไว้ก็ต้องรับผลการกระทําไป ตอนนี้มาเป็นรักษาการ พูดอะไรไปผู้ใต้บังคับบัญชาก็ต้องทําตาม
ดังนั้นขอให้เชื่อมั่นว่าตํารวจทางหลวงจะมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน และการบังคับใช้กฎหมาย เป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้ระงับเรื่องส่วยให้หมดไป “เจอที่ไหนจับหมด ไม่มีปล่อย” อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวด้วยว่า อยากขอบคุณทางด้านคุณวิโรจน์ ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูล เพราะส่วนตัวมองว่าเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ เบื้องต้นได้ประสานเพื่อจะขอให้คุณวิโรจน์ มอบข้อมูลเพิ่มเติม
ซึ่งตนยินดีเดินทางไปพบด้วยตัวเองหากคุณวิโรจน์ไม่สะดวก เพราะอยากได้ข้อมูลโดยเฉพาะเรื่องการทุจริต และสําหรับเรื่องการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพิ่มนั้น ตนเองมองว่าไม่อยากจะจัดตั้งเพิ่มเพราะเกรงจะไปถ่วงดุลอํานาจของคณะทํางานที่มีอยู่ จึงจะเป็นการรวบรวมและส่งข้อมูลไปยังคณะกรรมการของ บช.ก. แทน อีกทั้งเกรงว่าหากตั้งเพิ่มประชาชนจะมองว่าเป็นการช่วยเหลือพวกเดียวกันเอง จึงอยากทําทุกอย่างให้โปร่งใสที่สุด