ตรวจ DNA ลูกไม่ใช่ลูก หนุ่มฟ้องเมียบ้านแตก แต่ตอนจบพลิกเพราะลูกถามซื่อๆ คำเดียว
หนุ่มสงสัยลูกไม่ใช่ลูก ตรวจ DNA ผลไม่พลิก แค้นฟ้องเมียบ้านแตก สุดท้ายใจอ่อนกลับมาอยู่ด้วยกัน เพราะลูกถามซื่อๆ แค่คำถามเดียว
ชายหนุ่มคนหนึ่งโพสต์แบบไม่ระบุตัวตนลงใน Quora แพลตฟอร์มถามตอบสัญชาติอเมริกัน เล่าเรื่องชีวิตจริงที่ยิ่งกว่านิยายของตัวเอง หลังจับได้ว่าภรรยามีชู้ และลูกชายคนเล็กไม่ใช่ลูกในสายเลือด
เจ้าของโพสต์เล่าว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขามักจะเดินทางไปต่างประเทศเนื่องจากการทำงาน และแต่ละครั้งที่เขาไปต่างประเทศเป็นเวลา 2-3 เดือน วงเวียนอยู่แบบนี้เป็นเวลา 2 ปีเต็ม วันหนึ่งในระหว่างที่อยู่ต่างประเทศเขาได้รับโทรศัพท์จากภรรยาบอกว่าตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 ในตอนนั้นเขาทั้งรู้สึกประหลาดและดีใจมากๆ
ไม่กี่ปีหลังจากนั้นเขาก็ไม่ต้องเดินทางติดต่อธุรกิจอีกในต่างประเทศต่อไปแล้ว ลูกชายทั้ง 2 คนก็ค่อยๆ เติบโตขึ้น คนมักพูดว่าลูกชายคนโตถอดแบบมาจากเขาเหมือนแม่พิมพ์เดียวกัน แต่ลูกชายคนเล็กไม่ใช่เลย แต่เขาก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ
จนกระทั่งวันหนึ่งเขาบังเอิญไปรับรู้เรื่องภรรยาและเพื่อนชายคนหนึ่ง บทสนทนาระหว่างทั้งคู่ทำให้เขาเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ และตัดสินใจถามภรรยาตรงๆ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจตรวจดีเอ็นเอลูกชายถึง 2 ครั้ง และผลยืนยันออกมาว่าลูกชายคนเล็กไม่ใช่ลูกของเขาจริงๆ
“ผมไม่เคยคิดฝันว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับผม!” ผู้โพสต์ยืนยันว่ามีหลักฐานจากผลตรวจ DNA ดังนั้นภรรยาจึงต้องยอมสารภาพ ว่าแอบเป็นชู้กับเพื่อนชายที่แต่งงานแล้ว เมื่อได้ฟังโลกของเขาพังทลายลงทันที เขาเอาแต่คิดว่าตัวเองทำผิดอะไร และจุดประสงค์ของการมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร
เขากลายเป็นเหมือนคนหลงทางอยู่ตลอดทั้งเดือน หลังจากตั้งสติได้เขาก็โทรหาเพื่อนด้วยอารมณ์ที่สงบลง และเริ่มวางแผนที่จะแก้แค้นภรรยา เขาบอกเธอว่าจะฟ้องหย่า จบชีวิตการแต่งงานที่โดนหักหลัง และฟ้องเรียกค่าชดเชยจากพวกเขาทั้งคู่
ในตอนแรกเขาคิดว่าการแก้แค้นจะทำให้รู้สึกดีขึ้น แต่แล้วมันกลับไม่เป็นแบบนั้น เมื่อเขาเริ่มคิดถึงเวลาที่อยู่กับลูกชายคนเล็ก พอแวะไปหาลูกชายคนเล็กก็จะโผเข้ากอดถามว่า "พ่อครับ เมื่อไหร่จะมารับผมกลับบ้าน" และคำถามอย่างไร้เดียงสานั้นก็ทำให้ร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น เหมือนทำได้ทำความผิดพลาดครั้งใหญ่
คืนนั้นเขาจึงตัดสินใจค้างกับลูกชาย และได้พบเจอกับความสะเทือนใจอีกครั้ง เมื่อเด็กน้อยเผลอละเมอว่า "อยากหาพ่อ พ่ออยู่ที่ไหน" ทันใดนั้นความทรงจำทั้งหมดก็กลับมา วินาทีที่กอดลูกครั้งแรก ตอนที่ป้อนอาหาร เปลี่ยนผ้าอ้อม ฮัมเพลงที่ไม่มีอยู่จริงเพื่อกล่อมให้หลับ วินาทีที่เห็นเขาเดินก้าวแรก วันเวลาที่เราวิ่ง หัวเราะ หอมกัน และร้องเพลงด้วยกัน
ทั้งหมดนั้นทำให้เขาตระหนักได้ว่าอะไรสำคัญสำหรับเขา และเขากำลังทำตัวแย่แค่ไหนในฐานะพ่อ ดังนั้น ไม่สำคัญว่าเขาและลูกจะมีสายเลือดเดียวกันหรือไม่ เพราะอย่างไรเขาก็รักลูกชายของเขา เขาเพียงต้องการให้ลูกมีความสุขเท่านั้น สุดท้ายเขาและภรรยาก็อยู่กันร่วมกันแบบ "รูมเมท" ถึงจะไม่ใช่สามีภรรยาแต่ก็เลี้ยงลูกด้วยกัน