ได้ไง? หนุ่มสืบเรื่องเมียพี่เล่นชู้ แอบตามไปที่นัดพบ ช็อกจนร้องไห้ คนมีชู้คือเมียตัวเอง

ได้ไง? หนุ่มสืบเรื่องเมียพี่เล่นชู้ แอบตามไปที่นัดพบ ช็อกจนร้องไห้ คนมีชู้คือเมียตัวเอง

ได้ไง? หนุ่มสืบเรื่องเมียพี่เล่นชู้ แอบตามไปที่นัดพบ ช็อกจนร้องไห้ คนมีชู้คือเมียตัวเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มห่วงพี่ชายโดนสวมเขา รับบทสายลับจับบ้านเล็ก ตามสืบพี่สะใภ้นัดเจอแฟนเก่า สุดท้ายเรื่องพลิกแรงมาก คนมีชู้คือเมียตัวเอง พี่สะใภ้แค่ใจดีมาเคลียร์ให้

เว็บไซต์ docbao.vn ของเวียดนาม แชร์เรื่องราวชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายของชายหนุ่มคนหนึ่ง แอบตามไปจับผิดพี่สะใภ้ที่นอกใจพี่ชาย โดยไม่นึกไม่ฝันว่าตัวเองจะต้องเป็นคนมานั่งน้ำตาตกเมื่อความจริงเฉลย

ชายหนุ่มเจ้าของเรื่องเล่าว่า พี่ชายของเขาเป็นวิศวกรโยธาจึงไม่ได้อยู่บ้านตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่พี่สะใภ้มีเวลาว่างก็มักจะไปที่ร้านดอกไม้สดของภรรยาเขาเพื่อพูดคุยเป็นเพื่อนแก้เหงากัน ตัวเขาเองเมื่อเห็นทั้งสองคนสนิทกันก็ชื่นใจ

แต่เมื่อคิดว่าชีวิตจะดำเนินต่อไปอย่างเงียบๆ เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 บริษัทที่พี่สะใภ้ทำงานอยู่จึงถูกยุบ เมื่อเห็นเช่นนั้น เขากับภรรยาจึงคุยกันและยกร้านดอกไม้ในเครือร้านหนึ่งให้กับเธอ ในช่วงแรกภรรยาของเขามักไปช่วยเหลือและชี้แนะในด้านธุรกิจ การจัดการร้าน และทรัพยากรบุคคล ทางด้านพี่สะใภ้แม้จะไม่มีประสบการณ์แต่ก็ขยันหมั่นเพียรและตั้งใจเรียนรู้

ช่วงหนึ่งภรรยาของเขาบอกว่างานที่ร้านเยอะมากๆ เลยไม่สามารถแยกตัวมาช่วยพี่สะใภ้ได้ จึงขอให้เขาแวะไปช่วยดูบ้างในบางครั้ง ซึ่งเขาก็เห็นว่าพี่สะใภ้ขยันมาก ทุกครั้งที่ไปที่ร้านจะเห็นเธอก้มจัดดอกไม้ตามสั่งให้ลูกค้า อย่างไรก็ตาม จู่ๆ ช่วงหลังมาเขาก็ไม่ค่อยเจอเธอที่ร้าน พนักงานก็บอกว่าช่วงนี้เธอไม่ค่อยอยู่ร้าน บางวันเข้ามาแค่แป๊บเดียวแล้วก็ออกไป เขาได้ฟังก็รู้สึกแปลกๆ แต่ไม่ติดใจจนต้องซักไซ้ต่อ

กระทั่งวันหนึ่งขณะไปที่ร้านดอกไม้ของพี่สะใภ้ เขาบังเอิญเห็นเธอลงมาจากรถของชายนิรนาม รถค่อนข้างหรูเลยมั่นใจว่าไม่ใช่รถบริการแน่ๆ ตอนแรกเขาพยายามคิดว่าคนในรถคือลูกค้า หุ้นส่วนธุรกิจ หรือเพื่อนของเธอ อย่างไรก็ตาม หลังจากตามดูก็สังเกตเห็นทั้งคู่ไปกินข้าวกับด้วยกันบ่อยๆ ทำให้ความคิดของเขาเริ่มเปลี่ยนไป

เขาสงสัยว่าพี่สะใภ้กำลังมีชู้ลับหลังพี่ชายของเขา และเขาจะไม่ปล่อยให้พี่ชายของเขาโดนสวมเขาอย่างแน่นอน จึงตัดสินใจแอบตามดูพวกเขาทั้งคู่ไปเรื่อยๆ เพื่อพิสูจน์ความจริงด้วยตัวเอง เขาต้องแน่ใจว่าสิ่งที่คิดเป็นความจริงก่อนจะเอาความจริงอันเจ็บปวดไปเล่าให้พี่ชายฟัง

ในที่สุดเขาก็รอวันที่ทั้งสองคนนัดกันไปที่ร้านกาแฟริมฝั่งแม่น้ำไซ่ง่อน ในตอนที่มองไปจากระยะไกลๆ เขาก็เห็นว่าพี่สะใภ้กำลังร้องไห้ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเสียใจ เธอกำลังพยายามอธิบายบางอย่าง ในขณะที่ชายตรงหน้าก็พยายามปลอบเธอ เขาตัดสินใจบันทึกภาพทั้งหมดนั้นไว้ในโทรศัพท์เป็นหลักฐาน ก่อนเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับทั้งคู่

เมื่อเขาไปหยุดอยู่ที่โต๊ะของทั้งสองคนคน พี่สะใภ้ดูประหลาดใจและเป็นกังวลมาก ส่วนผู้ชายอีกคนก็ดูแปลกใจเหมือนกัน และดูเหมือนผู้ชายคนนี้จะรู้จักเขาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เขาจึงเชิญทั้งสองอย่างสุภาพให้นั่งลงและรอฟังคำอธิบายจากพวกเขา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาคาดไว้ว่าจะได้ฟังกลับไม่เกิดขึ้น แต่กลายเป็นเรื่องราวที่เขาไม่คาดคิด จนทำให้ถึงกับหัวเราะทั้งน้ำตา

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พี่สะใภ้ก็ยอมรับว่าชายที่มาด้วยคืออดีตคนรักของเธอ อย่างไรก็ตาม เธอยืนยันว่าไม่เคยสานต่อความรักครั้งเก่า หรือแอบมีใครลับหลังสามีของตัวเอง ตรงกันข้ามเธอไปหาคนรักเก่าเพื่อปกป้องความสุขของครอบครัวสามี

ปรากฎว่าพี่สะใภ้จับได้ว่า ภรรยาของเขากำลังมีความสัมพันธ์กับคนรักเก่าของเธอ และเพราะเธอไม่อยากให้ครอบครัวของเราแตกแยก เธอจึงนัดหมายกับแฟนเก่าเพื่อขอให้เขาเลิกยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่มีสามีแล้ว

พี่สะใภ้เล่าว่า “ฉันบังเอิญรู้ว่าภรรยาของเธอ แอบคบกับเขามานานกว่า 2 เดือนแล้ว เมื่อฉันรู้ว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว ฉันจึงคิดที่จะนัดพบกับเขา โดยหวังว่าพวกเขาจะยุติความสัมพันธ์รักๆ ใคร่ๆ นี้

ฉันไม่กล้าบอกความจริงกับเธอ เพราะกลัวเธอจะโกรธฉัน ฉันไม่อยากให้คนที่รักและเคารพที่สุดสองคนเลิกกัน ดังนั้นฉันจึงแอบมาคุยกับเขาด้วยตัวเอง สุดท้ายเขาต้องการแค่เงิน และสัญญาว่าจะอยู่ให้ห่างจากภรรยาของเธอ”

ในตอนท้านพี่สะใภ้ยังขอให้เขายกโทษให้ภรรยาตัวเอง แต่ตัวเขาเองที่เพิ่งได้รับรู้ความจริงอันไม่คาดฝัน ยังตกตะลึงอยู่ชั่วขณะหนึ่ง และปล่อยให้คำถามที่ไม่มีคำตอบเข้ามากวนใจ เพราะเคยภูมิใจที่มีครอบครัวที่มีความสุข เขาและภรรยาเคยเป็นแบบอย่างและความภูมิใจให้กับลูกๆ แต่ตอนนี้ทุกอย่างพังทลาย เขารู้สึกอับอายขายหน้า

"ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ควรนิ่งเฉย เชื่อวิธีแก้ปัญหาของพี่สะใภ้ ยกโทษให้ภรรยา ยึดความสุขในครอบครัวเหรอ?"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook