Top 10 January transfer targets

ลืมประเด็นเรื่องอภิมหา เม็กกะโปรเจ็คไปได้เลย ข่าวลือทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเฟร์นานโด ตอร์เรส กับ เชสซี, เชส ฟาเบรกาส กับ บาร์เซโลน่า หรือแม้แต่ เวย์น รูนี่ย์ กับ เรอัล มาดริด ที่จะกล่าวต่อไปนี้คือเรื่องจริงที่เป็นไปได้
ท็อป 10 ของเราสัปดาห์นี้เกาะติดกระแสการโยกย้ายทีมในช่วงตลาดซื้อขายรอบสองที่เปิดตัวขึ้นแล้วในเดือนมกราคม และเหมือนเช่นเคย...  จงอย่าเชื่อกับลิสต์รายชื่อข้างล่างนี้ ทางที่ดีจงบอกท็อป 10 ในใจคุณให้เราได้รู้บ้างก็จะดีไม่น้อย
 

อันดับ 10. ดาบิด บีย่า
ตกเป็นข่าวหนาหูกับหลายทีมดังในยุโรปมาตั้งแต่ปีก่อน แต่จนแล้วจนรอด ดาวยิงค่ายวังค้างคาว ยังคงอยู่รับใช้บาเลนเซียจนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตามบาเลนเซีย มีหนี้สินล้นพ้นตัวส่อแววล้มละลายบางทีทางออกที่ดีที่สุดก็น่าจะเป็นการขายดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมออกไปซะ ซึ่งจะว่าไปแล้วบีย่า เองก็อยู่ในช่วงดีที่สุดในอาชีพค้าแข้งแล้วและน่าจะเป็นอย่างนี้อยู่อีกไม่กี่ปี ซึ่งเมื่อเทียบกับอายุอานามที่ปาเข้าไป 28 ปีแล้วก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่บาเลนเซีย จะยอมปล่อยตัวบีย่า ออกจากถิ่นเมสตาย่า ในไม่ช้า ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น สถานีต่อไปของบีย่า ก็คงหนีไม่พ้น เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, เชลซี , แมนฯยู และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

อันดับ 9. เนมานย่า วิดิช
ชื่อนี้คือสิ่งที่แฟนแมนฯยู กังวลที่สุดเวลานี้ โดยเฉพาะสถานการณ์ที่ยังคลุมเคลือ ล่าสุดแหล่งข่าวอ้างว่า เซอร์ อเล็กซ์ เตรียมเลหลังขายดาวเตะเจ้าของฉายา "เซอร์เบียเดเตอร์" ออกจากทีม ก็ทำให้ยักษ์ใหญ่ของยุโรปอย่างเรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และ อินเตอร์ มิลาน จ้องตาเป็นมัน ประกอบกับเสียงรบเร้าจากภริยาสุดที่รักที่บ่นพรึมพร่ำมาตลอดว่า อยากย้ายไปอยู่ประเทศที่มีอากาศอบอุ่นกว่านี้
 

อันดับ 8. ไรอัล บาเบล
ปีก เดอะ ดัตช์แมน ผู้นี้มาถึงแอนฟิลด์เมื่อปี 2007 พร้อมกับค่าตัวสูงถึง 11.5 ล้านปอนด์ แต่ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ไม่มีอะไรที่จะสร้างความพอใจให้กับแฟนบอลหงส์แดงเลยแม้แต่น้อย ล่าสุดเบอร์มิงแฮม และ อาแจ็กซ์ ทีมเก่า พร้อมที่จะรับช่วงไปเลี้ยงดูต่อ แม้ว่าเจ้าตัวจะกล้าพูดขออยู่แย่งตำแหน่งตัวจริงกับลิเวอร์พูลก็ตาม
 

อันดับ 7. โรเบิร์ท กรีน
นายด่านจากเวสต์แฮม ตกเป็นข่าวกับสองทีมดังจากลอนดอนอย่างเชลซี และอาร์เซน่อล เชลซี มีเงินแต่ใช่ว่าจะซื้อกรีน ได้ง่ายๆ เพราะเมื่อพิจารณาจากโอกาสของกรีน ที่ต้องตกเป็นมือสองของปีเตอร์ เช็ก คงไม่น่าอภิรมณ์นักสำหรับกรีน แต่ถ้าจะไปอาร์เซน่อล โอกาสลงสนามแม้จะมีมากกว่าย้ายไปเชลซี แต่ใครจะการันตีได้ ถ้าเทียบกับการอยู่กับเวสต์แฮมต่อไป นอกจากโอกาสได้ลงสนามทุกเกมแล้วโอกาสติดทีมชาติสู้ศึกฟุตบอลโลกกลางปีหน้าก็อยู่แค่เอื้อม
 

อันดับ 6. ไมกาห์ ริชาร์ดส
2-3ฤดูกาลก่อนหน้านี้ นี่คือผู้เล่นดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุด ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน แข็งแกร่ง ห้าวหาญเกินอายุ ทำให้หลายต่อหลายทีมต่างต้องการได้ตัวเขาไปเป็นอะไหล่แห่งอนาคต อย่างไรก็ตามจากวันนั้นจนวันนี้ ดูเหมือนอะไรๆ ที่คาดการณ์ไว้ มันดูเหมือนจะไกลออกไปทุกทีๆ จากตัวหลักของทีมแมนฯซิตี้ ล่าสุดชักไม่แน่ จากทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ตัวตายตัวแทนแกรี่ เนวิลล์ ปัจจุบัน ก็ยังคงอยู่แค่ชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี ของทีใสิงโตคำราม ล่าสุดทีมอย่างสเปอร์ส ที่มีจ่าเฉยแฮร์รี่ เรดแน็ปป์ เป็นแมวตาเพชร เตรียมนำไปปัดฝุ่นเสียใหม่เพื่อโอกาสที่มากขึ้นสำหรับ ทัวร์นาเม้นท์ฟุตบอลโลกที่กำลังจะมาถึง
 

อันดับ 5. มารูยาน ชามัคห์
หัวหอกทีมชาติโมร็อกโก ของสโมสรบอร์กโดซ์ เป็นที่สนใจของหลายๆทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเขาเลือกที่จะอยู่ค้าแข้งในฝรั่งเศสต่อ และด้วยผลงานลงเตะ 204 เกมทำได้ 50 ประตูให้กับบอร์กโดซ์ รวมไปถึง 15 ประตูใน 52 เกมให้กับทีมชาติก็เป็นที่เข้าใจได้ไม่ยากที่เขาจะถูกหลายสโมสรต้องการตัว ดาวเตะวัย 25 กระรัต ตกเป็นข่าวต่อเนื่องกับอาร์เซน่อล แต่ล่าสุด ลิเวอร์พูล มาแรงเหลือเกินกระแสข่าวอ้างว่า ทีมจากเมอร์ซี่ไซด์ เตรียมเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับดาวยิงฟอร์มร้อนแรงรายนี้ในไม่ช้า
 

อันดับ 4. สกอตต์ พาร์คเกอร์
นี่คือมิดฟิลด์ที่มีอิทธิพลที่สุดของเวสต์แฮมตั้งแต่ย้ายมาจากนิวคาสเซิ่ลในปี 2007 ด้วยค่าตัวสุดถูกแค่ 7 ล้านปอนด์ เวสต์แฮม เองรู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถจะเสียผู้เล่นคนใดออกจากทีมในเวลานี้ เพราะกำลังดิ้นรนหนีตกชั้น แต่ก็ไม่วายที่มีหลายสโมสรอย่างสเปอร์ส, แอสตัน วิลล่า และ ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวอยู่เวลานี้
 

อันดับ 3. คาร์ลตัน โคล
คาร์ลตัน โคล ตกเป็นที่จับตาของหลายสโมสรหลังโชว์ฟอร์มให้กับเวสต์แฮมได้ดีในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก อย่างไรก็ตามโอกาสติดทีมสิงโตคำรามไปเตะฟุตบอลโลกกลางปีหน้ายังไม่แน่นอน แต่เมื่อทีมอย่างอาร์เซน่อล ที่พร้อมจะทุ่มเงิน 9 ล้านปอนด์ราว 500 ล้านบาท เพื่อมาทดแทนโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่เจ็บยาว มองแล้วก็น่าจะเป็นโอกาสดีของโคล ที่จะใช้ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังพิสูจน์ตัวเองให้เขาตา ฟาบิโอ คาเปลโล่
 

อันดับ 2. มักซี่ โรดริเกซ
มักซี่ โรดริเกซ มีสัญญาเหลือกับแอตฯมาดริด ถึงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ หลังจากนั้นเขาจะเป็นผู้ชายที่ไร้ค่าตัว อย่างไรก็ตามลิเวอร์พูล ไม่รอให้ถึงเวลานั้น ล่าสุดเตรียมทำสัญญายืมตัวมาใช้งานหลังดาวเตะวัย 29 ปีไม่มีตำแหน่งตัวจริงในทีมตราหมี และไม่ยอมต่อสัญญาใหม่กับทีมออกไป ล่าสุดเอเยนต์ของมักซี่ เผยว่าทั้งแอตฯมาดริด และลิเวอร์พูลได้ตกลงเงื่อนไขกันได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเหลือแค่เพียงการตรวจร่างกายเท่านั้น มักซี่ ก็จะได้ย้ายจากแอตฯมาดริด มาเล่นร่วมกับฮาร์เวีย มาสเคราโน่เพื่อนร่วมทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่แอนฟิลด์ ซึ่งมักซี่ จะเข้ามาเป็นตัวสนับสนุนเฟร์นานโด ตอร์เรสในแนวรุกเหมือนกับที่ราฟาเอล เบนิเตซ หวังเอาไว้
 

อันดับ 1. ปาทริค วิเอร่า
อดีตดาวเตะในตำนานของ "ไอ้ปืนใหญ่" ลงเล่นเกมสุดท้ายให้กับอาร์เซน่อล ในเกมเอฟเอ คัพนัดชิงชนะเลิศในปี 2005 โดยเขาเป็นผู้ยิงประตูชัยให้อาร์เซน่อล เอาชนะแมนฯยู คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ ปัจจุบันวิเอร่า ในวัย 33 ปี ผ่านการเล่นให้กับยูเวนตุส และอินเตอร์ มิลาน ในกัลโช่ เซเรีย อามา 4 ฤดูกาล ล่าสุดโรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมแมนฯซิตี้ อดีตเจ้านายเก่าสมัยคุมอินเตอร์ฯ ต้องการวิเอร่า มาเสริมทัพเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ซึ่งความเป็นไปได้ ณ เวลานี้ใกล้เป็นจริงเข้าไปทุกที
 ฮันนิบาล