ปธ.กกต.ไม่กังวล ปชช.กดดันเรื่อง "พิธา" เชื่อนับคะแนนใหม่ แต่ละพรรคได้ ส.ส.เท่าเดิม
ประธาน กกต.คาดนับคะแนนใหม่ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส.แต่ละพรรคมากนัก อาจมีนับใหม่เพิ่มอีก ย้ำยึดกรอบกฏหมายทุกขั้นตอน หุ้น”พิธา” กำลังพิจารณา ไม่กังวลประชาชนกดดัน
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เปิดเผยถึงกรณีการนับคะแนนใหม่ 47 หน่วยเลือกตั้ง ใน 16 จังหวัด ถือเป็นมติของที่ประชุมที่มีความเห็นออกมาว่า คะแนนของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับการนับคะแนน ทำให้มีความเห็นว่า ต้องมีการนับใหม่ในหน่วยนั้นๆ ส่วนจะส่งผลต่อคะแนนว่าที่ ส.ส. แต่ละเขตหรือไม่ คาดว่าไม่มีผล เพราะเป็นการนับใหม่เพียงบางหน่วยเท่านั้น ไม่ใช่การนับคะแนนทั้งเขต ส่วนจะมีมากกว่า 47 หน่วยเลือกตั้งตามที่ประกาศไปหรือไม่ ยังไม่สามารถระบุอย่างชัดเจนได้ว่าจะมีหน่วยไหนที่ต้องนับใหม่หรือไม่ เพราะยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา
สำหรับการรับรองว่าที่ ส.ส. นั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญ ม.127 คือต้องมีการตรวจสอบผลคะแนนให้มีความถูกต้อง และมีเหตุอันควรเชื่อว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต และต้องให้ได้ร้อยละ 95 จึงจะสามารรับรองได้
ส่วนข้อร้องเรียนต่างๆ เกี่ยวกับว่าที่ ส.ส. จะทำให้การรับรองล่าช้าหรือไม่ นายอิทธิพร ระบุว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะเมื่อมีคำร้องมายังสำนักงาน จะต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาก่อนว่าจะรับเรื่องหรือไม่รับ หากไม่รับก็ถือว่าคำร้องนั้นตกไป แต่ถ้ารับคำร้องก็จะมีกระบวนการอื่นๆ ต่อไป อาทิ การไต่สวน การเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล การสรุปความเห็นต่างๆ และเสนอต่อที่ประชุา กกต. ซึ่งยังคงมีกระบวนการอีกหลายขั้นตอน และไม่สามารถรับรองเป็นรายบุคคลก่อนได้ เพราะกฎหมายกำหนดให้มีการรับรองทั้งหมดร้อยละ 95 หากเชื่อว่าสุจริตโปร่งใสก็จะอยู่ภายใน 60 วัน
เมื่อถามถึงกรณีคำร้องต่างๆ ที่มีต่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประธาน กกต. เปิดเผยว่า ขั้นตอนดังกล่าวอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลของสำนักงาน ซึ่งได้มีการขอข้อมูลเพิ่มเติม และจะส่งเข้าที่ประชุม กกต. อีกครั้ง เพื่อสรุปความเห็นว่าจะรับเรื่องร้องเรียน หรือไม่รับ ส่วนจะส่งผลกระทบไปยังว่าที่ ส.ส.ของพรรคก้าวไกลหรือไม่ เนื่องจากพรรคก้าวไกลมีข้อบังคับพรรคที่มีผลผูกพันกับตัวผู้สมัคร คาดว่าไม่น่าไปไกลถึงขนาดนั้น
เมื่อถามถึงกระแสกดดันของประชาชนที่ต้องการให้ กกต. รับรองผล และคัดค้านคำร้องที่มีต่อ นายพิธา นั้น นายอิทธิพร ระบุว่า ทาง กกต. ก็รับมือไว้ตามปกติ และไม่ได้กังวล เพราะ กกต. มีหน้าที่ที่ต้องทำงาน เราเพียงแค่รับทราบความคิดเห็นของกลุ่มคนที่สนับสนุน พิธา ว่าเป็นอย่างไร ส่วนที่จะมีการปฏิรูปองค์กรอิสระนั้น มองว่า ทุกคนมีสิทธิเสนอความเห็น และผลักดันให้เป็นไปตามนั้น เราเป็นเพียงแค่ผู้ปฏิบัติงาน