โจรใต้ลองของบึ้มใกล้จุดนายกฯปธ.พิธีเปิดถนน

โจรใต้ลองของบึ้มใกล้จุดนายกฯปธ.พิธีเปิดถนน

โจรใต้ลองของบึ้มใกล้จุดนายกฯปธ.พิธีเปิดถนน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โจรใต้เหิมวางบึ้ม ศาลาที่พักริมทางห่างจุดเปิดงาน 200 เมตร ก่อนนายกฯมาถึงเพียง 2 ชั่วโมง ตำรวจเจ็บ 3 นาย อีกรายระเบิดทหารพราน ดับ 1 นาย

ลงพื้นที่ชายแดนใต้ "มาร์ค" ควงคณะชุดใหญ่นั่งรถกันกระสุนลุยเปิดถนนสาย 418 เชื่อมยะลา-ปัตตานี ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของ จนท.กว่า 2 พันนาย ระบุในอนาคตจะถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ ส่งทหารพรานดูแลพื้นที่แทน โจรใต้เหิมวางบึ้ม ศาลาที่พักริมทางห่างจุดเปิดงาน 200 เมตร ก่อนนายกฯมาถึงเพียง 2 ชั่วโมง ตำรวจเจ็บ 3 นาย อีกรายระเบิดทหารพราน ดับ 1 นาย

ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางลงปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเมื่อวันที่ 7 ม.ค. นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม นาย อิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. พร้อมคณะได้เดินทางโดยเครื่องบินกองทัพบก ถึงท่าอากาศยานนราธิวาส เวลา 09.00 น. โดยมี พล.ท.วิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมผู้ว่าฯทั้ง 3 จังหวัดให้การต้อนรับ ท่ามกลางบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน มีฝนตกปรอย ๆ โดยมีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดขั้นสูงสุด

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ตลอดภารกิจนายกรัฐมนตรีและคณะ รวมทั้งสื่อมวลชนจากส่วนกลางกว่า 30 ชีวิต ใช้เฮลิคอป เตอร์ของกองทัพบก ร่วม 10 ลำ โดย คณะของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีใช้เฮลิคอปเตอร์แบบแบล็กฮอล์ก 4 ลำ ส่วนสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ ใช้เฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ในการเดินทางแต่ละจุด ร่วมกับการโดยสารโดยขบวนรถยนต์เพียงระยะทางสั้น ๆ เท่านั้น โดยรถยนต์ของนายกฯและรัฐมนตรีใช้รถกันกระสุนทุกคัน และมีเครื่อง แจมเมอร์ตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือตลอดภารกิจ ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 4 ใช้กำลังผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ดูแลความปลอดภัย ตามเส้นทางและจุดต่าง ๆ กว่า 2,000 นาย สำหรับคณะสื่อมวลชน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ได้ซักซ้อมทำ ความเข้าใจรายละเอียดภารกิจ ตลอดจนแยกแยะจัดหมวดหมู่ยานพาหนะอย่างละเอียดรายบุคคล

สำหรับภารกิจแรก นายกฯและคณะเดินทางไปยังโรงเรียนบ้านซือเลาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกิน โดยชุมชนท้องถิ่น ตามนโยบายไทยเข้มแข็ง ซึ่งนายกฯได้พบปะประชาชนกว่า 500 คน พร้อมมอบของขวัญวันเด็กให้เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านซือเลาะในโอกาสวันเด็ก แห่งชาติ รวมทั้งเปิดศาลาละหมาดชุมชนศรัทธาเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา และมอบกุญแจบ้านโครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน

ถัดมาเวลา 10.41 น. นายกฯเดินทางเป็นประธานเปิดการใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 418 บ้านท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำปัตตานี ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่าง จ.ยะลา และ บ้านคลองขุด อ.หนองจิก จ.ปัตตานี รวมระยะทาง 29.5 กิโลเมตร สร้างโดยกรมการทหารช่าง มีพล.ท.ทวนชัย พันธ์เพิ่มศิริ เจ้ากรมการทหารช่างรายงานการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งเป็นการรับช่วงต่อจากบริษัทเอกชนที่ไม่สามารถดำเนินการได้ และทิ้งงานจากปัญหาความไม่สงบ จากนั้นเมื่อเวลา 12.00 น. นายกฯและคณะเดินทางมายังกรมทหารพรานที่ 41 อ.รามัน จ.ยะลา เพื่อรับประทาน อาหารกลางวันเป็นอาหารพื้นเมืองใต้ ตรวจเยี่ยมนิทรรศการการปฏิบัติหน้าที่ของทหารพราน

กระทั่งเวลา 13.15 น. นายกฯและคณะเดินทางต่อมายังฟาร์มตัวอย่างอันเนื่องมาจากโครงการในพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา เพื่อชมแปลงเกษตร ปศุสัตว์ อาทิ แพะ ไก่

ที่ จ.ปัตตานี นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นภารกิจ ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ตนได้เห็นความก้าวหน้าในหลายนโยบาย ส่วนการก่อเหตุขณะที่ลงพื้นที่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งก็ทราบว่าเมื่อลงพื้นที่มักจะมีความพยายามก่อเหตุของบางฝ่ายที่ต้องการ สร้างให้เกิดภาพความวุ่นวาย เมื่อถามว่าในอนาคตจะลดกำลังทหาร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การรักษาความสงบถ้าหวังแต่จะใช้กำลังมาก ๆ จากข้างนอกมันจะไม่ยั่งยืน ดังนั้นเป้าหมายสุดท้ายคือต้องลดกำลังพลให้ได้ ซึ่งทางกองทัพเข้าใจดี ทั้งนี้ในการจัดกำลังของ กอ.รมน.ในปีนี้ก็เริ่มลดกำลังลงแล้ว

ส่วนสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่เมื่อเวลา 08.15 น. พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้รับแจ้งจากศูนย์ 191 สภ.เมืองยะลา ว่าเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดกำลังเจ้าหน้าที่ บริเวณศาลาที่พักริมทางปากทางเข้าบ้านสาคอ หมู่ 1 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา ห่างจาก บริเวณพิธีที่นายอภิสิทธิ์จะเดินทางมาเปิดถนนสาย 418 ปัตตานี-ยะลา ประมาณ 200 เมตร จึงประสานกำลังเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม พล.ต.ต.สายันต์ กระแสแสน ผบก.ภ.จว.ยะลา นายกฤษฎา บุญราช ผวจ. ยะลา ได้เดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบจุดระเบิดอยู่บริเวณกอต้นเข็มไม้ประดับด้านขวาหน้าศาลาแหลกกระจายมีหลุม ตื้น ๆ บริเวณหลังคาศาลาถูกสะเก็ดระเบิดเป็นรูพรุน พบสะเก็ดระเบิดตัดจากเหล็กเส้น เศษอิเล็กทรอนิกส์วิทยุสื่อสาร จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ทราบชื่อร.ต.อ.วสิษฐ เมืองนาม อายุ 37 ปี รอง สวป.สภ.กรงปินัง ส.ต.ท.ชัยยุทธ บวรศักดิ์ ส.ต.ต.ศิระวัต ก้อนทอง อายุ 28 ปี ทั้งหมดสังกัดเดียวกัน สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่ได้รับบาดเจ็บเดินทางมาจาก สภ.กรงปินัง เพื่อทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยนายอภิสิทธิ์ ที่มีกำหนดการเดินทางมาเปิดถนนสายใหม่เวลา 10.00 น.วันเดียวกัน ขณะที่รถยนต์ตราโล่เตรียมเข้าประจำจุดคนร้ายที่คาดว่าปะปนมากับประชาชนที่มา ร่วมต้อนรับนายกรัฐมนตรี ได้จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่บรรจุอยู่ในกล่องเหล็กทำให้มีผู้ได้รับบาด เจ็บดังกล่าว

เวลาไล่เลี่ยกันร.ต.ท.มานพ หนูหอม ร้อยเวร สภ.ลำใหม่ จ.ยะลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณศาลาหน้าโรงเรียนบ้านบาตัน หมู่ 4 ต.ลิดล อ.เมือง จ.ยะลา จึงรีบนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ พบศพ อส.ทพ.สมมาตร เรืองสว่าง ร้อย ร.4712 กรมทหารพรานที่ 47 นอนเสียชีวิตอยู่ โดยมีเพื่อนทหารดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ทราบชื่อ อส.ทพ.สมโชค ชื่นชม อายุ 26 ปี สอบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร. 4712 ซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ที่บ้านบาตัน ทำหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยครู ออกลาดตระเวน พอมาถึงบริเวณศาลาหน้าโรงเรียน คนร้ายซึ่งซุกซ่อนระเบิดหนักประมาณ 5 กิโลกรัมไว้ในศาลาได้จุดชนวนระเบิดขึ้นทันทีทำให้มีผู้ได้รับบาดและเสีย ชีวิตดังกล่าว

ที่วัดคลองรี หมู่ 4 ต.คลองรี อ.สทิงพระ จ.สงขลา พล.ต.เบญจรงค์ เจริญพร ผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 42 เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ อส.ทพ. อรุณ สังข์มอง สังกัด ร้อย ทพ. 4603 กรมทหารพรานที่ 46 ที่เสียชีวิตจากการถูกลอบยิง เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในพื้นที่ บ้านไอร์กาเด หมู่ 4 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook