น้ำใจหลั่งไหลช่วยงานศพลูก แม่ตกใจเป็นข่าวใหญ่ เหลือเงิน 7 บาท อายในความแร้นแค้น

น้ำใจหลั่งไหลช่วยงานศพลูก แม่ตกใจเป็นข่าวใหญ่ เหลือเงิน 7 บาท อายในความแร้นแค้น

น้ำใจหลั่งไหลช่วยงานศพลูก แม่ตกใจเป็นข่าวใหญ่ เหลือเงิน 7 บาท อายในความแร้นแค้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น้ำใจหลั่งไหลช่วยงานศพลูก แม่ตกใจเป็นข่าวใหญ่ เหลือเงิน 7 บาท รู้สึกอายในความแร้นแค้นของตัวเอง แต่ก็ตื้นตันใจในความช่วยเหลือของทุกคน

จากกรณีพบศพนายประเสริฐ อายุ 45 ปี ผู้ป่วยเรื้อรังจากอาการวัณโรค แต่ไม่ยอมไปหาหมอรักษาอาการในช่วง 2-3 เดือน ด้วยเกรงว่าจะต้องนอน รพ.กลัวแม่จะลำบาก จนร่างกายป่วยหนักไปเรื่อยๆ เป็นเหตุให้อ่อนแรง และเกิดเหตุล้มหัวฟาดเสียชีวิต ซึ่งก่อนเกิดเหตุมีเงินทั้งบ้านอยู่เพียง 37 บาท แบ่งมา 30 บาทไปซื้อของกินให้นายประเสริฐ ทั้งบ้านเหลือเงินเพียง 7 บาท โดยสองแม่ลูกอยู่ในสภาพแร้นแค้นอย่างมาก บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากถูกตัดไฟยกมิเตอไปแล้วเกือบ 10 ปี เพราะไม่มีเงินจ่าย 

ภายหลังมีการเผยแพร่ข่าวนี้ได้สร้างความสนใจให้กับสังคมอย่างมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับการชื่นชมจากที่ได้แสดงน้ำใจช่วยระดมเงินเท่าที่มีในเบื้องต้นช่วยเหลือนางสาคร ให้จัดการศพลูก

ความคืบหน้าของการจัดการงานศพของครอบครัวนี้ผู้สื่อข่าวได้ติดตามไปยังบ้านเลขที่ 31/2 หมู่ 1 ตำบลท่างิ้ว อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ นางสาคร อายุ 68 ปี ผู้เป็นแม่ ได้ใช้เป็นสถานที่จัดงานศพลูกชายเป็นเวลา 3 วัน โดยจะมีกำหนดเผาในวันที่ 13 มิถุนายน พบว่าเพื่อนบ้าน ผู้ประกอบการร้านอาหาร เทศบาลตำบลท่างิ้ว ที่ทราบข่าว ได้เข้าให้การช่วยเหลือนางสาคร จัดการงานศพของนายประเสริฐ มีการนำข้าวสารหลายกระสอบ อาหารสด และน้ำดื่มมาใช้ในงานศพ เครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ รวมทั้งจัดการหีบศพได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ส่วนไฟฟ้าเพื่อนบ้านได้ให้การช่วยเหลือด้วยการต่อกระแสไฟฟ้ามาใช้ในงานศพชั่วคราว

ขณะที่นายสุเชษฐ์ แรกรุ่น นางนุชจรี แรกรุ่น และสมาคมผู้สื่อข่าวนครศรีธรรมราช รับที่จะไปประสานงานเรื่องชำระค่ามิเตอร์ไฟฟ้าที่ถูกตัดไปเกือบ 10 ปี ให้กลับมาติดตั้งใหม่เพื่อให้ได้ใช้ไฟฟ้า โดยนางสาครได้ขอบคุณทุกฝ่ายและร่ำไห้ด้วยความตื้นตัน พร้อมทั้งระบุด้วยว่า ไม่นึกว่าจะเป็นข่าวไปใหญ่โต ตกใจเหมือนกันกลัวคนเข้าใจเป็นอย่างอื่น และรู้สึกอับอายเหมือนกันกับความลำบากเช่นนี้ ขณะที่เพื่อนบ้านได้บอกว่าอย่ากลัวในเมื่อเราลำบากจริงและเป็นเรื่องจริงไม่ต้องกลัว

ขณะที่ พลตำรวจตรีสมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้แสดงความชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่นิ่งดูดายและให้การช่วยเหลือทันทีแม้ว่าจะไม่มาก ซึ่งวันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช นำเงินอีกจำนวนหนึ่งเข้าให้การช่วยเหลือจัดการงานศพบรรเทาความเดือดร้อน นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กองกำกับการ 7 เดินทางมาสำรวจเพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook