แกนนำภท.โยนมานิตตัดสินใจหลังอภิสิทธิ์บีบ

แกนนำภท.โยนมานิตตัดสินใจหลังอภิสิทธิ์บีบ

แกนนำภท.โยนมานิตตัดสินใจหลังอภิสิทธิ์บีบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภูมิใจไทย ลอยแพ มานิต ให้ตัดสินใจเอง นายกฯ เผยอังคารที่ 12 ม.ค.นี้รายชื่อครม.ใหม่ต้องเสร็จ ระบุก่อนทูลเกล้าฯ จะคุยกับแกนนำภท.ตอนนี้รอ"มานิต"คุยกับหลายคนก่อน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 มกราคม 2553 ที่อาคารสิริภิญโญ มีการประชุมแกนนำพรรคภูมิใจไทย อาทิ นายเนวิน ชิดชอบ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรค ซึ่งคาดว่าเป็นการหารือเกี่ยวกับตำแหน่งของนายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข หลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีท่าทีที่ชัดเจนให้นายมานิตพิจารณาตัวเอง

นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า เรื่องของนายมานิตถือว่าพรรคมีมติแล้ว คือให้พิสูจน์ข้อเท็จจริง ส่วนการพิจารณาลาออกเป็นการตัดสินใจของนายมานิตเอง เป็นเรื่องสปิริต ตนไม่สามารถคิดแทนได้

ต่อข้อถามว่า นายกรัฐมนตรีต้องการให้ปฏิบัติเหมือนกับนายวิทยา แก้วภราดัย ที่ลาออกจากตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข นายโสภณกล่าวว่า สังคมต้องเลือกเองระหว่างกระแสกับการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ซึ่งพรรคไม่ได้ทวนกระแส

ส่วนการที่นายกรัฐมนตรีต้องการให้นายมานิตพิจารณาตัวเอง ถือเป็นการก้าวก่ายพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายโสภณกล่าวว่า ไม่ก้าวก่าย เพราะเป็นคนละบทบาทหน้าที่ ก็เป็นเรื่องของพรรค นายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำรัฐบาล ไม่เกี่ยวกัน

นายโสภณยังปฏิเสธกระแสข่าวที่จะมีการปรับ นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม ออกจากตำแหน่ง แล้วให้ นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ส.ส.มหาสารคาม 9 สมัย มาดำรงตำแหน่งแทนว่า ไม่เป็นความจริง

ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมแกนนำพรรคภูมิใจไทยว่า เป็นการนัดประชุมล่วงหน้าเพื่อมาพูดคุยกำหนดแนวทางการเมืองหลังเทศกาลปีใหม่ ว่าในแต่ละพื้นที่ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลจังหวัดไหนบ้าง ไม่ได้นัดพูดคุยกรณีของนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามที่มีกระแสข่าวเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน สำหรับกรณีของนายมานิต ขอยืนยันว่า ตั้งแต่วันที่นายมานิตขอโอกาสพิสูจน์ตัวเองกับพรรค เป็นสิ่งที่พรรคได้ให้ตามคำขอ จึงถือว่าเสร็จสิ้นในส่วนของพรรคแล้ว หลังจากนี้ นายมานิต ในฐานะรัฐมนตรีอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่นายมานิตจะรับผิดชอบปฏิบัติตามนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องของนายมานิตที่จะตัดสินใจ

เมื่อถามย้ำว่า นายกรัฐมนตรีได้ส่งสัญญาณชัดเจนให้นายมานิตพิจารณาตัวเอง นายศุภชัยกล่าวย้ำว่า เป็นเรื่องที่นายมานิตจะตัดสินใจ เพราะพรรคถือว่าเป็นเรื่องระหว่างรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามอีกว่า พรรคได้หารือถึงการปลดนายมานิตหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า พรรคจะไม่กระทำก้าวก่ายอำนาจบริหารสูงสุดของคณะรัฐมนตรี ซึ่งในที่สุดเชื่อว่าจะคลี่คลายไปในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งก่อนวันอังคารหน้า น่าจะมีความชัดเจน

ส่วนหากนายมานิตตัดสินใจลาออกถือว่าเกี่ยวข้องกับพรรคหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า ที่ประชุมไม่ได้พูดคุยกันถึงเรื่องนี้ และไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการปรับ ครม.

นายกฯขีดเส้นฟังคำตอบถึง12ม.ค.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่า ขณะนี้กำลังรอคำตอบจากนายมานิตว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ขณะนี้เข้าใจว่านายมานิตยังคุยอยู่กับหลายคน โดยจะรอคำตอบไม่เกินวันที่ 12 มกราคมนี้ ก่อนจะตรวจสอบและนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย หากพรรคภูมิใจไทยไม่มีการเสนอรายชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนนายมานิต ก็จะถือว่าตำแหน่งดังกล่าวว่างลง ทั้งนี้ การปรับ ครม.จะไม่มีการปรับตำแหน่งอื่นๆ นอกจากตำแหน่งที่ว่างลงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายกฯ ระบุว่าพร้อมจะพูดคุยกับแกนนำพรรคภูมิใจไทยถึงกรณีดังกล่าว

ต่อข้อถามที่ว่า แม้ไม่มีรายชื่อใหม่ก็หมายความว่าชื่อของนายมานิตก็จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่ง ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ถ้าไม่มีชื่อใหม่มา มันก็จะว่างอยู่"

ต่อข้อถามที่ว่า ยังมั่นใจหรือไม่ว่ากติกาที่กำหนดขึ้นมาจะใช้ได้กับพรรคร่วมรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ก็เป็นหน้าที่ของผม กรณีของคุณมานิตนั้น ผมจะไม่ให้กระทบกับกรอบเวลาที่ตั้งใจ ตอนนี้ก็มีเรื่องของคุณกอร์ปศักดิ์ (สภาวสุ) ต้องลาออกด้วย ตั้งใจว่าวันจันทร์วันอังคารนี้จะดำเนินการได้"

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในส่วนของมาตรา 190 ทางพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีปัญหา แต่เรื่องของเขตเลือกตั้งจะต้องรอการหารือในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคก่อน ว่าจะดำเนินการอย่างไร ทั้งนี้ ไม่ห่วงว่าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นตัวแปรที่ทำให้เสียงสนับสนุนในการ อภิปรายไม่ไว้วางใจลดลง

เพื่อไทยจวกรัฐบาลไม่มีแผนรองรับอาฟต้า

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีการเปิดเขตการค้าเสรีอา เซียนหรืออาฟต้าว่า แม้ในภาพรวมจะเกิดประโยชน์ต่อการค้าโดยรวมของประเทศไทย แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ ภายในระยะเวลาอันใกล้ แต่จากการประเมินผลดีผลเสียและผลกระทบอาฟต้าต่อภาคเศรษฐกิจไทยภายใต้การ บริหารของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ของคณะทำงานด้านเศรษฐกิขของพรรคเพื่อไทยพบ ว่า รัฐบาลไม่มีการเตรียมตัววางแผนเพื่อรองรับเลย

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook