บ้านขายฝัน? ส่งเงินซื้อหลักแสน ได้ของจริงแทบทรุด มุงสังกะสี สภาพยิ่งกว่าแคมป์คนงาน

บ้านขายฝัน? ส่งเงินซื้อหลักแสน ได้ของจริงแทบทรุด มุงสังกะสี สภาพยิ่งกว่าแคมป์คนงาน

บ้านขายฝัน? ส่งเงินซื้อหลักแสน ได้ของจริงแทบทรุด มุงสังกะสี สภาพยิ่งกว่าแคมป์คนงาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวบ้านร้อง "ทนายโป้ง" ได้บ้านไม่ตรงปก ส่งเงินซื้อหลักแสน สุดท้ายได้อยู่มุงสังกะสี สภาพยิ่งกว่าแคมป์คนงาน

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 12 มิ.ย. 66 ที่ซอยเลียบคลองเจ็ก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ชาวบ้านกว่า 30 ชีวิต เดินทางนำหลักฐานเข้าขอความช่วยเหลือกับนายเกียรติคุณ ต้นยาง ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จังหวัดนนทบุรี และประธานชมรมทนายความจิตอาสา หลังซื้อบ้านโครงการมั่นคง ส่งเงินไปแล้วหลักแสน กลับได้บ้านสภาพบ้านสังกะสี ยิ่งกว่าแคมป์คนงาน ผนังมีรู ผุพัง ช่วงหน้าฝนสังกะสีปลิวหลุดเสียหาย ฝนตกต้องคอยรองน้ำ ต้องเปลี่ยนปลั๊กหลายจุดเพราะไม่ได้มาตรฐาน เคยมีชาวบ้านถูกไฟดูด ต้องอยู่ท่ามกลางสัตว์มีพิษ ทั้งงูเห่า และตะขาบ ชาวบ้านหลายคนทนไม่ไหวต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่บางครอบครัวกลับต้องทนอยู่เพราะไม่มีเงินไปซื้อบ้าน

จากการสอบถามคุณอัฐ อายุ 48 ปี (ผู้เสียหาย) ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูรอบๆ บ้านที่อยู่อาศัย เล่าความเดือดร้อนให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า แม่ตนเป็นคนซื้อบ้านในโครงการบ้านมั่นคง ตนเคยอยู่ที่นี่แรกๆ 4-5 เดือน จะคอยมาตัดหญ้าบริเวณบ่อบำบัดตลอด แต่ตอนหลังๆ ไม่ได้อยู่แล้วเลยไม่เข้ามาตัด ซึ่งตนต้องลงทุนซื้อเครื่องตัดหญ้าเอง ทางประธานโครงการไม่เคยมาเหลียวแลและดูแลที่นี่เลย ไม่มีการปรับปรุง ทำให้ที่นี่ทรุดโทรมและเสื่อมโทรม มีงูเห่า และตะขาบ ทางสหกรณ์ก็ไม่มีงบมาสนับสนุนหรือพัฒนาปรับปรุงใดๆ ถ้ามีต้องเบิกจ่ายยุ่งยากวุ่นวาย

ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาปรับปรุงห้องพักของสมาชิกในสหกรณ์ เพราะจริงๆแล้วตรงนี้คือบ้านพักของสมาชิกชั่วคราว ไม่ใช่เป็นบ้านตามแบบที่ตกลงซื้อ ห้องที่ตนอยู่ต้องมาตีตะปูใหม่เองกันหลุดแทนของเดิม เพราะพายุแรงๆ แผ่นสังกะสีหลุด ไล่หลุดเป็นจุดๆ ต้องมาทำไฟเพิ่มบางจุดเพื่อไม่ให้อยู่กับความมืด ซึ่งได้รับความเดือดร้อนมาก ที่นี่เวลาลมพัดแรงๆ สังกะสีจะหลุดแล้วปลิว เนื่องจากโครงสร้างไม่แข็งแรง ทุกตัวต้องตอกตะปูเพิ่มเพื่อความแข็งแรงมากขึ้น หลายอย่างตนต้องใช้งบส่วนตัวมาทำไม่ว่าจะเป็นเต้าไฟ ปลั๊กบางจุดต้องทำใหม่เพราะเวลากดไฟดูด ตนระแวงเรื่องสัตว์มีพิษ จะเข้าห้องน้ำไม่เคยมีความสุข คืนนึงเข้า 3-4 รอบ ห้องเก่าที่ตนเคยมาอยู่ เมื่อก่อนตอนใช้โฟมมาบุเป็นฝ้าเพื่อกันความร้อนและกันฝนหยด ตนมาทำห้องนี้เป็นห้องแรกแต่มีงูเข้าเลยย้ายไปอยู่อีกห้องหนึ่ง ซึ่งแม่เป็นสมาชิกอยู่ที่นี่ตนเลยมาอยู่

ตนตัดสินใจที่มาซื้อสาเหตุคืออยากได้บ้าน และตอนนั้นมีโปรเจคในการทำงาน ทำสินค้าขายแล้วจึงอยากได้สถานที่เพื่อทำของขาย ซึ่งตอนนี้ความฝันของตนได้ดับสลายแล้ว และอยากได้เงินของแม่ตนคืนประมาณ 100,000 กว่าบาท แต่ตอนนี้เหลืออยู่เพียง 10,000 กว่าบาท ซึ่งไม่รู้ว่าเงินไปไหน คงต้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอีกที โครงการตรงนี้ไม่เคยมีหน่วยงานใดเข้ามาดูหรือเหลียวแลใดๆ

ทางด้าน นางอรุณศรี สุตนาม อายุ 67 ปี กล่าวว่า ตนมาซื้อบ้านมั่นคงตั้งแต่ปี 59 น้องสาวแนะนำมาบอกว่าให้มาซื้อบ้านมั่นคง เพราะเขาซื้ออีกสถานที่หนึ่งแล้วได้บ้านจริง ตนจึงตกลงมาซื้อตรงนี้ ส่งเดือนละ 800 900 1,000 ส่งมาเรื่อยๆ และตนก็ทบเรื่อยๆเป็น 2,000 2,500 3,380 มีคนชื่อปรีชาเป็นประธาน และตั้งรับเงินที่โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง ต้องไปจ่ายเงินทุกเดือน ซึ่งในความเป็นจริงสภาพบ้านที่ได้รับคืออยู่ไม่ได้เลย ตอนแรกตนไม่เคยเห็นบ้านจริงคิดแต่ว่ารีบส่งให้ได้มาก เพราะเขาอ้างว่าถ้าจ่ายเงินมากส่งเร็วบ้านก็จะขึ้นเร็ว ใครส่งช้าก็จะได้บ้านทีหลัง ตั้งแต่ส่งไปก็ไม่มีบ้าน มีแต่สภาพบ้านแบบนี้ซึ่งจะพังอยู่แล้ว ตนไม่อยากคิดว่าจะมาหาผลประโยชน์กันอย่างเดียว ตนจ่ายเงินไปประมาณ 170,000 บาท

เสียใจมากและเสียความรู้สึก ไม่คิดว่าจะคนจนจะมาหลอกคนจนด้วยกันแบบนี้สงสัยไม่เคยเห็นเงินหมื่น เงินแสน ไม่เคยคิดว่าจะมาทำแบบนี้ ตนอยู่ตรงนี้ปีนี้บ้านเริ่มพังเยอะขึ้นแล้วตนอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 64 บ้านสภาพแบบนี้เหมือนแคมป์คนงานทั้งที่ตนเสียเงินไป เขาหลอกว่าจะขึ้นบ้านตอนปีใหม่ตนเชื่อใจเลยเชื่อว่าเขาจะขึ้นบ้านให้จริงๆ เขาจะพูดตลอดว่าเขาไม่โกงเงินใคร ไม่โกงใครกิน แต่เขามาทำแบบนี้ตนเสียใจมาก จะคุยกับใครก็หายเงียบไปไม่เคยโผล่หัวมา ไม่เคยเห็นหน้าตา อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือคนจนที่อยากได้บ้านทั้งหลาย ถ้าไม่ได้บ้านได้เงินคืนก็ยังดี จะได้มีกินบ้าง ตนหาเช้ากินค่ำ บางคนต้องไปกู้เงินบังมาส่งบ้าน เพราะเขาขู่ว่าถ้าไม่ส่งจะปรับ ซึ่งตอนนี้ตนไม่ส่งเงินแล้ว เพราะไม่รู้ว่าส่งไปแล้วจะได้บ้านเมื่อไหร่ หยุดส่งมา 3 เดือนแล้ว วันนี้เลยมาปรึกษาทนายโป้งและร้องสื่อให้ช่วยเหลือ

ขณะที่ น.ส.หทัยกาญจน์ ฉิมมาลีมีชัย อายุ 50 ปี กล่าวว่า ตนส่งบ้านไปประมาณ 70,000 บาท ตั้งแต่ปลายปี 62 หลังจากที่โครงการซื้อที่ดินตรงนี้แล้ว หลังจากซื้อเขาบอกว่าบ้านตรงนี้จะสร้างเป็นบ้านพักชั่วคราวให้อยู่ก่อน แต่มันอยู่ไม่ได้ ฝนตกก็รั่ว งูเงี้ยวเขี้ยวขอก็เยอะ เสาบ้านก็เริ่มพัง ตนเสียใจคำพูดไม่เป็นคำพูด เงินที่ออมไปก็เอาไปกินกันหมด ตนรู้จักโครงการตรงนี้เพราะเพื่อนชวนมา มันมีโครงการแบบนี้ตรงจุดอื่นที่เขาขึ้นเลยนึกว่าเหมือนกันจึงตัดสินใจซื้อ พอซื้อมาประธานโครงการบ้านมั่นคงไม่ส่งเงินให้ซึ่งตรงนี้เป็นโครงการหมู่บ้านมั่นคง จัดตั้งขึ้นเอง และรวมเงินไปกู้กับ พอช.และจัดตั้งสหกรณ์เพื่อให้เงินรองรับที่โครงการนี้ เอาเงินมาซื้อที่ดิน ซึ่งประธานโครงการเขาไม่ให้เหตุผลอะไรได้ยินแต่ว่าพอช.บอกปิดงบสหกรณ์ไม่ได้ ตอนนี้ตนจ่ายแค่ค่าน้ำ ค่าไฟ อย่างเดียวแต่มันอยู่ไม่ได้ มันรั่ว ไม่น่าอยู่ แต่ต้องอดทนอยู่เพราะว่าไม่มีบ้าน

ตอนนี้เหลืออยู่ประมาณ 6 ห้องที่มีคนอาศัยอยู่ บางคนอยู่ไม่ได้ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นซึ่งผู้เสียหายมีค่อนข้างเยอะ สภาพบ้านไม่น่าอยู่ อยากให้หน่วยงานมาช่วยเหลือเพราะว่าตนและสมาชิกอยากได้บ้าน อยากได้ที่อยู่อาศัยที่ดีกว่านี้ ไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้ อยากให้ดำเนินการเรื่องบ้านและเรื่องที่ไปแจ้งความ เพราะสมาชิกบางคนเขาลาออกไปเขาอยากได้เงินคืน พอไปแจ้งความอายัดเงินไป 1,200,000 บาท แต่ก็ไม่มีเงินจะมาคืนให้ ตอนนี้มีหลายคนไปแจ้งความแล้วซึ่งบางส่วนก็ไม่ได้แจ้งความไปแล้วไม่ได้มีการพูดคุยอะไร ประธานโครงการก็เงียบไป ซึ่งได้มีการข่มขู่ด้วยกรณีที่ว่าหากมีคนไปแจ้งความและทางโครงการบอกว่าถ้าเขาแจ้งกลับบ้างจะเป็นยังไง ซึ่งบางคนกลัวก็เลยไม่กล้าไปแจ้งความ

ด้าน นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า จากที่ตนได้รับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงและประกอบกับหลักฐานที่มีอยู่ ชาวบ้านได้มีการไปแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง ตั้งแต่เดือนธันวาปีที่แล้ว จนมาถึงวันนี้ได้ 6 เดือนแล้วก็ยังไม่มีความคืบหน้า ตนได้ติดต่อกับพนักงานสอบสวนและจะพาผู้ร้อง ผู้เสียหายไปให้ข้อมูลและสอบปากคำเพิ่มเติมให้มันครบถ้วนมากยิ่งขึ้น วันอังคารนี้ตนจะพาผู้เสียหายไปพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อให้ข้อมูลให้ครบถ้วนและพนักงานสอบสวนจะได้ส่งสำนวนและหมายเรียกไปให้กับผู้ถูกกล่าวหารับทราบข้อกล่าวหา

ก่อนที่ผู้เสียหายไปแจ้งความเมื่อเดือนพฤศจิกายน ชาวบ้านได้ไปร้องทุกข์กับหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยแล้วและได้มีการรับเรื่องราวร้องทุกข์ไว้แล้ว มีการชี้แจงและหนังสือจากสหกรณ์จังหวัดนนทบุรีชี้แจงมา และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงออกมาแล้ว แต่มันเป็นกระบวนการขั้นตอนของผู้ที่ถูกกล่าวหา มาอ้างกับชาวบ้านเพื่อที่จะเป็นการยืดระยะเวลาในการที่ไม่ต้องถูกดำเนินคดีและมีเทคนิคหลอกให้ชาวบ้านไปสหกรณ์ทำการยกเลิกกลุ่มสหกรณ์เพื่อที่จะให้ชาวบ้านไว้เนื้อเชื่อใจและไม่แจ้งความดำเนินคดีกับพวกเขา แต่สุดท้ายสิ่งที่ชาวบ้านไปร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมแล้ว ร้องทุกข์กับผู้ว่าราชการจังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งไปแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง ปรากฏว่าไม่มีอะไรดีขึ้น ชาวบ้านเลยสงสัยว่าทั้งหมดนี้เป็นความผิดของใคร ความผิดของชาวบ้านเองหรือมีใครมาหลอกลวงเลยมาปรึกษาตนให้ช่วยเหลือ ตนจึงได้มาลงพื้นที่เห็นว่าสภาพบ้านมันผิดแปลกจากตัวอย่าง แต่บ้านจริงเป็นสังกะสีเหมือนแคมป์คนงานก่อสร้าง ชาวบ้านต้องทนร้อนให้ได้ ต้องทนอยู่ในสถานะภาพแบบนี้ทั้งๆที่เสียเงินเป็นหมื่นเป็นแสนกัน กลับได้บ้านไม่ตรงปก

ฝากถึงพี่น้องประชาชนคนที่จะมีบ้านเป็นของตัวเอง ที่พักอาศัยของตัวเอง บ้านถือเป็นปัจจัยสี่ทุกคนอยากมีที่ดิน มีบ้านเป็นของตัวเอง พยายามขวนขวายที่จะมี แต่เราต้องดูเหตุผลบ้านที่เขาให้ดูมันราคาหลักแสนจริงมั้ย สภาพเป็นยังไง ราคาน่าจะเป็นหลักล้านไม่ใช่หลักแสน บางคนเห็นภาพแต่ลืมนึกไปว่าราคามันไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งราคาไม่กี่แสนบาท แต่ได้บ้านสวยงามอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง ที่ดินและบ้านกว่า 40 ตารางวาในราคาไม่กี่แสน ซึ่งความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้ ฝากพ่อแม่พี่น้องว่าจะซื้ออะไรควรดูให้ครบถ้วนก่อนว่าราคากับสิ่งของมันสอดคล้องกัน และเป็นไปได้จริงมั้ย อะไรที่มันถูกเกินมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เป็นกลยุทธ์ของมิจฉาชีพที่หลอกลวง ต้องคิดให้ดี เสร็จแล้วเอามาคำนวณให้ดีว่าราคาที่เสียไปมันคุ้มกับสิ่งของที่ได้มาหรือเปล่า หรือมันแตกต่างกันเกินไปจะได้ไม่เป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้

อัลบั้มภาพ 30 ภาพ

อัลบั้มภาพ 30 ภาพ ของ บ้านขายฝัน? ส่งเงินซื้อหลักแสน ได้ของจริงแทบทรุด มุงสังกะสี สภาพยิ่งกว่าแคมป์คนงาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook