ชวนแฟนบอลไทย สวมเสื้อชมพูดูคิงส์คัพ

ชวนแฟนบอลไทย สวมเสื้อชมพูดูคิงส์คัพ

ชวนแฟนบอลไทย สวมเสื้อชมพูดูคิงส์คัพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทีมลูกหนัง "โคนม" เดนมาร์ค แชมป์เก่า "คิงส์คัพ" เดินทางถึงไทยเป็นทีมแรก วันที่ 12 ม.ค.นี้ ตามด้วย สิงคโปร์ และโปแลนด์ "สุวัจน์ ลิปตพัลลภ" ประธานอำนวยการจัดการแข่งขันชวนแฟนบอลไทย สวมเสื้อสีชมพูถวายความจงรักภักดีแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวันเปิดสนาม 17 ม.ค.

เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 40 ได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการที่บ้านพัก ถ.ราชวิถี ซอย 20 เพื่อเตรียมการจัดแข่งขันระหว่างวันที่ 17-23 มกราคมนี้ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 จ.นครราชสีมา
 
นาย สุวัจน์ กล่าวว่า  ทั้ง 3 ชาติได้แจ้งวันเดินทางถึงไทยแล้ว โดย เดนมาร์ก จะมาถึงวันที่ 12 มกราคม, สิงคโปร์ 15 มกราคม และโปแลนด์ 16 มกราคม สำหรับพิธีเปิด วันที่ 17 มกราคม จะเริ่มในเวลา 18.00 - 18.30 น. มี พล.ร.อ. ชุมพล ปัจจุสานนท์ องคมนตรีเป็นประธาน โดยประชาชนจะร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวฯ โดยจะมีการฉายภาพมัลติมีเดียเทคโนโลยี รวมถึงการจุดเทียนชัยถวายพระพร ร้องเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสุดดีมหาราชา ร่วมกันทั้งสนาม พร้อมด้วยการจุดพลุไฟตระการตา โดยคาดว่าจะมีประชาชนเข้ามาเต็มความจุ 23,000 ที่นั่ง  ทั้งนี้ ตนขอเชิญชวนทุกคนสวมเสื้อสีชมพูเพื่อถวายความจงรักภักดีร่วมกัน

"งบประมาณจัดการแข่งขัน ครั้งนี้ ใช้ไม่เกิน10 ล้านบาท โดยไม่เกี่ยวข้องกับงบราชการ และสมาคมฟุตบอลฯ แต่เป็นการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ ซึ่งผมหวังว่าการแข่งขันจะช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวไทย  และหวังว่าทีมชาติไทยจะคว้าแชมป์ได้" นายสุวัจน์ กล่าว

สำหรับโปรแกรม แข่งขัน วันที่ 17 มกราคม คู่แรก เดนมาร์ก-โปแลนด์ เวลา 16.00น. ,ไทย-สิงคโปร์ เวลา 18.30 น. วันที่ 20 มกราคม  สิงคโปร์ - เดนมาร์ก เวลา 16.00 น.,  โปแลนด์ -ไทย เวลา 18.30 น. และวันที่ 23 มกราคม โปแลนด์-สิงคโปร์ เวลา 16.00น., ไทย-เดนมาร์ก เวลา 18.30น. โดยช่อง 7 ถ่ายทอดสดทุกนัดที่ทีมชาติไทยลงสนาม บัตรราคา 200, 100, 50 บาท และ20 บาทสำหรับนักเรียนในเครื่องแบบ
         
ในขณะที่ "ร็อบโบ้" ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือชาวอังกฤษ เปิดเผยถึงผลงานของ ทีมไทย ซึ่งทำได้ไม่ดีนักในศึกลูกหนังเอเชี่ยน คัพ รอบคัดเลือก กลุ่มอี โดยต้องไปลุ้นเข้ารอบนัดสุดท้ายกับอิหร่าน ในวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งกำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักในเรื่องของการเตรียมทีมทั้งที่มีเวลาเป็น เดือน แต่มาเร่งเตรียมทีมแค่ 2 สัปดาห์ก่อนแข่งขันว่า เรื่องของเวลาในการเตรียมทีมไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานเป็นเดือน ตนมองว่าแค่ 2 สัปดาห์ ก็อาจจะเพียงพอแล้ว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสโมสรต้นสังกัดด้วยว่ามีการเตรียมทีมที่จะลงเล่นในไทย ลีกกันอย่างไรบ้าง เพราะนักเตะจะเล่นลีกระยะยาวร่วม 9 เดือน ซึ่งหลังจากหมดฟุตบอลคิงส์คัพแล้ว จะเดินทางไปดูการเตรียมทีมของสโมสรต่างๆ จากนั้นจะมาร่วมหารือกัน เพื่อให้การเตรียมทีมมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น

กุนซือชาวอังกฤษ  กล่าวอีกว่า หากมองเรื่องความสามารถของนักเตะไทยแล้ว ต้องยอมรับว่าไม่เป็นรองใครในโลก ไม่ว่าจะเป็น ไรอัน กิ๊กส์,พอล สโคลส์ ,เวนย์ รูนี่ย์ ,คริสเตียโน โรนัลโด้ หรือแม้แต่ ปาร์ค จี ซอง ซึ่งเป็นชาวเกาหลีใต้ เพียงแต่สิ่งที่นักเตะไทยขาดก็คือเรื่องของทัศนะคติที่จะต้องเป็นมืออาชีพ และเรื่องของความแข็งแกร่ง ที่จะต้องเสริมเวทเทนนิ่งอย่างหนัก
 
"นักเตะต้องรู้ตัวเองว่าตอนนี้ กำลังทำอะไร เวลาไหนซ้อม เวลาไหนแข่งขัน คือ ต้องเป็นมืออาชีพ ยิ่งการฝึกซ้อมถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง นักเตะระดับโลกส่วนใหญ่ เมื่อเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมแล้ว ก็ยังจะซ้อมต่ออีก เพื่อเพิ่มทักษะให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ถ้านักเตะไทย ทำได้อย่างนี้ รับรองว่าโอกาสที่จะไปค้าแข้งที่ประเทศอังกฤษ ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน" ร็อบสัน กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook