อ้างเป็น ตร.อุ้มทอม! ซ้อม-ไม้จี้จิ๋ม บังคับเป็นพยานคดียิง

6ชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจ อุ้มทอมวัย23ปีจับเปลื้องล่ามโซ่ ไม้ทิ่มจิ๋ม บังคับเป็นพยานคดียิงตำรวจกรุงเก่า ผกก.สั่งหาหลักฐานจริงหรือเก๊

เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้(11 ม.ค.) นางบุญสม(นามสมมุติ) อายุ 44 ปี บ้านอยู่ ม.4 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา ได้นำ น.ส.ฝน(นามสมมุติ ) อายุ 23 ปี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สัมฤทธิ์ แสงอรุณ ร้อยเวร สภ.พระนครศรีอยุธยา แสดงบาดแผลต่างร่างกาย ซึ่งพบแผลที่ข้อเท้าและข้อมือ มีรอยช้ำตามร่างกายหลายแห่ง

น.ส.ฝน ให้การว่าเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ไปนอนค้างกับเพื่อนผู้หญิงด้วยกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา ปรากฎชายฉกรรจ์ 6คนขับรถยนต์ปิกอัพ 4 ประตูสองคัน สีบอร์นเงิน และสีดำ มาจอดที่โรงแรม แล้วเปิดประตูเข้ามาในห้อง

จากนั้นบังคับให้เพื่อนของเธออยู่ภายในห้อง แล้วสองคนในกลุ่มได้ตบและเตะเธอ และพูดว่าตามหามานานแล้ว แล้วก็เอาถุงสีดำคลุมศรีษะพาขึ้นรถขับไปยังบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบเป็นที่ไหน จากนั้นบังคับจับเธอถอดเสื้อผ้าจนหมดเปลือยเปล่า ทั้งเจะทั้งตบจนเธอสลบไป นอกจากนี้ยังใช้ไม้ทิ่มเข้าไปในอวัยวะเพศ และด้านหลังหลายครั้ง เพื่อทรมานให้ยอมเป็นพยานในคดียิงนายตำรวจในเขต อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อหลายปีก่อน โดยให้ยืนยันว่า คนที่ยิงชื่อ "ตูน" ซึ่งเธอไม่รู้จัก

กลุ่มชายดังกล่าวผลัดเปลี่ยนกันมาซักถามขู่เข็ญ จนกระทั่งวันที่ 9 ม.ค. ทั้งหมดนำเธอขึ้นรถยนต์กระบะ ปิดตาเอาไว้ ขับพามาทิ้งไว้บริเวณทางเข้าวัดดุสิตดาราม ม.4 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา ต่อมาประมาณ 21.00 น.เธอจึงกระเสือกกระสนกลับบ้าน และนอนพักจนทุเลา และได้เล่าเรื่องให้ผู้เป็นแม่ฟัง จากนั้นจึงมาแจ้งความ

เธอกล่าวด้วยว่า กลัวจะเข้าใจผิด หรือไปเป็นพยานให้เป็นแพะในคดีดังกล่าว ซึ่งก่อนมาแจ้งความก็มีรถยนต์กระบะขับวนเวียนหน้าบ้าน และมาถ่ายภาพเธอด้วย อย่างไรก็ตาม ยืนยันจะเอาเรื่องกับคนกลุ่มนี้ และถ้าได้เห็นภาพจะสามารถชี้ตัวได้ หลังจากรับแจ้งแล้ว ตำรวจได้ส่งตัว น.ส.ฝน ไปให้แพทย์โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจสอบร่องรอยถูกทำร้าย

ร.ต.อ.สัมฤทธิ์ เปิดเผยว่า ได้รายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบเรื่องนี้แล้ว โดย พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา สั่งการให้หาหลักฐานและข้อเท็จจริงให้ชัดเจนที่สุดว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ และมีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่

ส่วนเรื่องที่ชายดังกล่าวอ้างเป็นตำรวจต้องการบังคับให้ผู้เสียหายเป็นพยานนั้น ได้ส่งชุดสืบสวนไปที่โรงแรมเพื่อดูกล้องวงจรปิดแล้ว ว่า มีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงหรือไม่ และมีชายฉกรรรจ์เข้ามาหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเจ้าหน้าที่จริงๆ ก็ต้องมีการดำเนินคดีอย่างแน่นอน