สิมารักษ์จูงลูกวิศวกรขอบคุณ กษิต-อภิสิทธิ์

สิมารักษ์ พร้อมลูกชายวิศวกร มอบกระเช้าดอกไม้ขอบคุณ กษิต-อภิสิทธิ์ ขณะที่ กษิต ลั่นยากสานสัมพันธ์กัมพูชา ตราบใดยังไม่ถอดตำแหน่ง ทักษิณ และไม่เลิกแทรกแซงกระบวนยุติธรรมไทย

เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 12 ผู้สื่อขาวรายงานว่า นางสิมารักษ์ ณ นครพนม นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่เคยถูกกัมพูชาจับกุมข้อห้าจารกรรมข้อมูล พร้อมด้วยนายพงษ์สุรีย์ น้องชายนายศิวรักษ์ เดินทางมาขอบคุณนายกษิต พร้อมมอบกระเช้าดอกไม้และพูดคุยเป็นเวลา 10 นาที จากนั้น นางสิมารักษ์ เปิดเผยว่าไม่ได้ถามถึงนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย อดีตเลขานุการเอก สอท.กัมพูชา เพราะเรื่องยุติไปแล้ว

ต่อมาเวลา 15.00 น.นายศิวรักษ์ ได้เดินทางมาทำเนียบรัฐบาล พร้อมนางสิมารักษ์ เพื่อเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล โดยพบกัน 15 นาที ทั้งนี้ นายศิวรักษ์เเละนางสิมารักษ์ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเเต่อย่างใด

"กษิต"ลั่นยากสานสัมพันธ์เขมรตราบใดยังไม่ถอดทักษิณ

ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายกษิต ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่นายฮอร์ นัมฮง รมว.ต่างประเทศกัมพูชาระบุว่า จะไม่ถอนคำสั่งแต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า ขอยืนยันว่ากัมพูชาแทรกแทรงกิจการการภายในของไทยและขบวนการยุติธรรมของไทย และไม่ให้ความเชื่อถือและเคารพกระบวนการยุติธรรมของไทย ตราบใดที่ยังไม่ตัดขาดความสัมพันธ์จากพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยากลำบากที่ไทยจะปรับความสัมพันธ์ไปสู่สภาพปกติได้

ต่อข้อถามว่า กัมพูชาจะให้ไทยเป็นฝ่ายเริ่มปรับความสัมพันธ์ก่อน นายกษิต กล่าวว่า ไทยเริ่มไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นฝ่ายแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ควรต้องเริ่มที่กรุงพนมเปญ ทุกวันนี้ การสัญจร การค้าขายกับกัมพูชาก็ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้เอาพฤติกรรมของผู้นำกัมพูชามาเป็นตัวตั้ง ทำกันในระดับรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับระดับประชาชน

"เรายอมรับไม่ได้ที่จะให้ประเทศไหน หรือผู้นำประเทศไหนมาดูหมิ่นดูแคลนกระบวนการยุติธรรมของไทย " นายกษิตกล่าว

ต่อข้อถามว่า วันที่ 1 ก.พ.นี้ ทางกัมพูชาจะต้องเสนอแผนจัดการปราสาทพระวิหารต่อศูนย์มรดกโลกของยูเนสโก ที่ประเทศบราซิล นายกษิต กล่าวว่า เป็นเรื่องของกัมพูชา จุดยืนไทยยังเหมือนเดิม ตามที่รมว.ทรัพยากรได้แสดงจุดยืนต่อยูเนสโกที่กรุงปารีส และไทยก็มีหนังสือถึงยูเนสโกไปแล้ว โดยไทยทราบดีว่า กัมพูชาจะต้องมีแผนพัฒนาพื้นที่รอบๆปราสาท ซึ่งจะเข้ามายุ่งกับผืนดินเขตอาณาธิปไตยของไทย ซึ่งมีข้อพิพาทกับฝ่ายกัมพูชา

เมื่อถามว่า จากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาจะตกต่ำไปกว่านี้หรือไม่ นายกษิตกล่าวว่า ไม่ทราบเพราะเราไม่ได้เป็นต้นเหตุปัญหา ในกรอบอาเซียนมีหลักการว่าประเทศที่พัฒนามากกว่า หรืออาเซียนเก่าจะช่วยเหลือยกระดับการพัฒนาอาเซียนใหม่ ไทยก็อยากจะทำให้การพัฒนากัมพูชาทัดเทียมกัน

"ปณิธาน"เผย"ไทย-เขมร"จ่อ"ส่งทูตกลับปท.

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังจากที่นายศิวรักษ์เข้าพบนายอภิสิทธิ์ว่า นายศิวรักษ์ เข้าพบเพื่อขอบคุณนายกฯที่สั่งการให้ดูแลนายศิวรักษ์มา ตั้งแต่ต้น โดยนายกฯได้สอบถามความรู้สึกและปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งแจ้งว่าถ้ามีอะไรที่รัฐบาลช่วยจะให้กระทรวงต่างประเทศดูแลต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายศิวรักษ์ไปที่พรรคเพื่อไทยก่อนแสดงให้เห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ดูแลนายศิวรักษ์ ได้ดีกว่ารัฐบาลหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า จริงๆแล้วนายศิวรักษ์ ประสานมาตั้งแต่เมื่อวานนี้(11ม.ค.) และเราต้องการจะจัดให้พบกันตั้งแต่ตอนเช้า แต่นายกฯมีคิวประชุมตลอดทั้งวัน จึงได้พบในช่วงบ่าย

" นายกฯกังวลเรื่องความปลอดภัยของนายศิวรักษ์ว่าเมื่อกลับไปแล้วจะเป็นอย่างไร ซึ่งนายศิวรักษ์ ก็ได้แจ้งว่าสถานการณ์โดยรวมดีขึ้นแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นายกฯก็อวยพรและให้กำลังใจ รวมทั้งได้พูดคุยกับน้องชายนายศิวรักษ์ ที่กำลังเรียนจบและต้องการเป็นข้าราชการด้วย " นายปณิธาน กล่าว

ส่วนกรณีที่นายฮอ นัม ฮง รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ออกมาโจมตีรัฐบาลไทยว่าแทรกแซงกิจการของกัมพูชา ว่า เป็นมุมมองของท่าน แต่โดยภาพรวมบรรยากาศทางการเมืองของสองประเทศ เริ่มผ่อนคลายในทางที่ดีขึ้น แม้แต่การกลับไปของนายศิวรักษ์ ก็ถือเป็นสัญญาณในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดี รัฐบาลจึงต้องการที่จะปรับความสัมพันธ์เข้าสู่ระดับปกติ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศของทั้งสองประเทศ กำลังเจรจาเพื่อหาทางส่งทูตกลับประเทศ โดยจะเริ่มจากเจ้าหน้าที่ระดับปฎิบัติการ ไปจนถึงเลขานุการเอก และเอกอัครราชทูต แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นช่วงไหน อย่างไรก็ตาม สำหรับเงื่อนไข 3 ข้อในยังคงดำรงอยู่เช่นเดิม แต่ยอมรับว่าในที่สุดแล้วทั้งไทยและกัมพูชาจะไม่มีฝ่ายใดได้ร้อยหรือเสีย ทั้งร้อย