ย่าวอนจบดราม่า พ่อน้องเตยอ้างส่งเสียลูก ถ้าลูกบอกว่าแม่หลงลืม แม่ก็ขอรับผิดไว้เอง

ย่าวอนจบดราม่า พ่อน้องเตยอ้างส่งเสียลูก ถ้าลูกบอกว่าแม่หลงลืม แม่ก็ขอรับผิดไว้เอง

ย่าวอนจบดราม่า พ่อน้องเตยอ้างส่งเสียลูก ถ้าลูกบอกว่าแม่หลงลืม แม่ก็ขอรับผิดไว้เอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ย่าวอนจบดราม่า พ่อน้องเตยอ้างส่งเสียลูก ถ้าลูกบอกว่าแม่หลงลืม แม่ก็ขอโทษและรับผิดไว้เอง ไม่อยากจะมีปัญหากับลูก

ความคืบหน้าจากกรณีที่ น.ส.พัชรินทร์ เอสะตี หรือ ครูอุ้ม ครูโรงเรียนบ้านมะขามทานตะวัน ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้โพสต์คลิปลงในโซเชียล เล่าเรื่องราวของ น้องเตย อายุ 4 ขวบ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 แต่หัวใจสุดแกร่งช่วยทำงานบ้านเกือบทุกอย่าง และดูแลนางเสา จินดาศรี อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นย่าที่พิการตาบอดทั้งสองข้างตามลำพัง

หลังจากครูได้ลงไปเยี่ยมบ้านเห็นสภาพ 2 ย่าหลาน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความลำบาก เวลาไปโรงเรียนย่าก็จะใช้ไม้เท้าคลำทางจูงมือหลานไปส่งโดยหลานจะเป็นคนคอยบอกทางระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร อาหารการกินก็อาศัยเบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาท และเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท เนื่องจากลูกไปทำงานต่างจังหวัดไม่ได้ส่งเสีย

ล่าสุด วันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านย่าหลานอีกครั้ง เพื่อสอบถามกรณีที่ลูกชายออกมาโต้ว่าไม่ได้ทอดทิ้งลูกสาวให้ย่าเลี้ยงตามที่เป็นข่าว จากการสอบถามนางเสา ย่าน้องเตย ก็ยังยืนยันว่าสิ่งที่พูดไปก่อนหน้านี้เป็นความจริงทุกอย่าง แต่ในเมื่อลูกชายเขายืนยันว่าแม่หลงลืมไปเอง ทั้งเรื่องที่เลี้ยงหลานตั้งแต่ 8 วัน ซื้อของมาให้ลูก และรับลูกไปเที่ยวด้วย ในเมื่อลูกเขายืนยันแบบนั้นแม่ก็ไม่อยากจะมีปัญหากับลูก แม่จึงขอเป็นฝ่ายที่ยอมรับเองว่าแม่คงลืมและขอโทษลูกด้วยถ้าแม่ทำให้เข้าใจผิด ซึ่งตอนนี้ก็ปรับความเข้าใจกันแล้ว และไม่อยากให้ข่าวอะไรอีก เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาในครอบครัว ที่ผ่านมาก็เครียดจนนอนไม่หลับ

ส่วนยอดเงินบริจาคล่าสุดวันนี้ จนท.ได้พาไปปรับสมุดที่ธนาคาร แต่ตนเองมองไม่เห็น มีเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามียอดบริจาคช่วยเหลือมากว่า 5,900,000 บาทแล้ว ก็ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือตนเองกับหลาน

ทั้งนี้ จนท.ยังแจ้งด้วยว่าเงินดังกล่าวได้มีการทำบันทึกว่าจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้หลาน 4 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 1 ล้าน 9 แสนบาทเป็นส่วนของย่าไว้ดำเนินชีวิตและซ่อมแซมบ้าน ซึ่งการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านอยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook