แม่ใช้ไดร์เป่าผมอยู่ ลูกถือลูกโป่งมาฟาดหน้า ไฟลุกพรึบเผาทั้งเป็น ลุกหนียังโดนด่าซ้ำ!

น่ากลัวมาก แม่ใช้ไดร์เป่าผมอยู่ จู่ๆ ลูกถือลูกโป่งมาฟาดหน้า สุดทรมานโดนเผาทั้งเป็น ชาวเน็ตยังด่าซ้ำ ลุกหนีไม่สนลูก

ตามรายงานพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา เวลา 22:34 น. คุณแม่คนหนึ่งในเมืองเจียหยาง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน กำลังใช้ไดร์เป่าผมในห้องนั่งเล่น จู่ๆ ลูกตัวน้อยก็ถือลูกโป่งไฮโดรเจนฟาดเข้าที่ใบหน้าของเธอ ผลก็คือทันทีที่ลูกโป่งแตกไฟก็ระเบิดออกมา เปลวไฟพวยพุ่งใส่แม่ต้องดิ้นรนหนีสุดชีวิต ส่วนลูกก็เซล้มลงกับพื้น คนเป็นพ่อเห็นจึงรีบวิ่งเข้าไปอุ้ม

อย่างไรก็ดี ในตอนแรกที่มีการเปิดเผยคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวเน็ตพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ต่อพฤติกรรมของแม่ที่รีบวิ่งหนีออกจากเกิดเหตุทันที โดยไม่สนใจลูกที่ล้มลงกับพื้น โดยบอกว่า

"ปฏิกิริยาแรกคือการวิ่ง ฉันเดาว่าคุณไม่ได้สนใจลูกตั้งแต่แรกแล้ว"

"คุณต้องดูก่อนว่าเด็กได้รับบาดเจ็บไหม"

"เห็นแก่ตัวจริงๆ เป็นแม่ที่ค่อนข้างไร้ความสามารถ"

"ถ้ามีเรื่องผิดพลาดก็รู้แค่วิธีวิ่งหนีเหรอ ไม่ได้คิดเรื่องลูกเลยเหรอ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับลูกหลังจากนั้น"

ในเรื่องนี้คุณแม่ในคลิปได้ออกมาอธิบายอีกครั้งว่า เธอมีบาดแผลไฟไหม้ทั่วตัว และพ่อของเด็กก็รีบวิ่งออกจากห้องน้ำเมื่อได้ยินเสียงระเบิด สามีของเธอรีบเข้าไปอุ้มลูกทันที และโชคดีที่ลูกแค่ตกใจเท่านั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

นอกจากนี้ เธอยังได้โพสต์ภาพหลักฐานรอยไหม้ทั่วร่างกายหลายจุด จะเห็นได้ว่าต้นขาซ้ายของเธอถูกพันด้วยผ้าก๊อซตั้งแต่ด้านในถึงฝ่าเท้า น่อง ข้อเท้าขวา และฝ่ามือซ้ายของเธอก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

ขณะที่ชาวเน็ตบางรายแสดงความคิดเห็นโดยชี้ว่า "อย่างแรก ตัวตนของเธอคือปัจเจกบุคคล และประการที่สอง เธอคือแม่"

"บางคอมเมนต์ลดศีลธรรมลงหน่อยได้ไหม คิดดูสิคนที่ปาลูกโป่งคนเกิดเรื่องคือลูก แต่คนที่ถูกไฟเผาคือแม่ และคนที่โดนด่าก็คือแม่อีก"

"คนที่ตำหนิแม่ยืนอยู่ตำแหน่งผู้มีศีลธรรมสูงสุด เพราะพวกเขาไม่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่พวกเขาแสดงความคิดเห็น"