สาวแต่งงาน 4 ครั้งผัวตายหมด กำลังร้องไห้ข้างโลงศพ จู่ๆ ตร.บุกมาเฉลยความจริงสยอง
เจ้าสาวร่ำไห้ข้างโลงศพ แต่งงาน 4 ครั้ง เจ้าบ่าวตายกระทันหันหมด จู่ๆ ตำรวจโผล่มาช็อกคนทั้งงาน เผยความจริงอันน่าสยดสยอง
หญิงสาวคนหนึ่งแต่งงานมาแล้ว 4 ครั้ง และสามีทุกคนเสียชีวิตลงหลังแต่งงานทั้งหมด ทำให้หลังจากสามีคนที่ 4 เสียชีวิต พ่อแม่สามีเริ่มสงสัยว่าลูกสะใภ้อาจจะ "ฆ่าผัว" จึงตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจ
ในช่วงเดือนมกราคม ปี พ.ศ.2544 ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ครอบครัวหนึ่งกำลังจัดงานศพให้กับลูกชายวัย 26 ปีของพวกเขา ซึ่งจากไปหลังวันแต่งงานเพียงไม่นาน โดยมีภรรยาร้องไห้และเป็นลมอยู่ข้างๆ โลงศพ แต่ทันใดนั้นตำรวจก็ปรากฏตัวขึ้น และจับกุมผู้หญิงคนนั้นในข้อหาก่ออาชญากรรม
ตามรายงานพบว่า หญิงสาวเกิดในปี พ.ศ.2520 ในครอบครัวชาวนาที่ยากจน เมื่อเธออายุได้เพียงไม่กี่ขวบ พ่อของเธอก็ล้มป่วยหนักและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ทิ้งเธอและแม่ให้ใช้ชีวิตอย่างยากจนและขัดสน ในปีต่อๆ มา แม่ของเธอที่ต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกสาว เริ่มโกรธสามีที่ตายไป จึงมักจะทุบตีเธอเพื่อระบายความโกรธ นอกจากนี้แม่ของเธอยังมีความหลงใหลในเงินเป็นอย่างมาก เชื่อว่าเงินเท่านั้นที่จะไม่ทรยศต่อเธอ
ในปี พ.ศ. 2541 เธออายุ 21 ปีกลายเป็นสาวสวย และด้วยความงามนั้นผู้คนมากมายในหมู่บ้านจึงขอเธอแต่งงาน ในตอนนั้นเองแม่ของเธอก็เริ่มเห็นหนทางสู่ความร่ำรวย จากของหมั้นหรือเงินสินสอดที่ครอบครัวเจ้าบ่าวจะมอบในงานแต่งงาน จึงบอกลูกสาวว่าเธอคิดหาวิธีหาเงินที่ดีได้แล้ว และต้องการความร่วมมือจากลูกสาว ขอแค่กล้าพอที่จะทำ จากนั้นก็อธิบายว่า
"ฉันจะหาสามีที่ดีให้เธอ หลังจากที่คุณได้เจ้าบ่าวแล้ว ก็รอให้เจ้าบ่าวไว้ใจจนลดการป้องกันตัว และวางยาพิษเขสจนตาย แล้วค่อยแต่งงานใหม่ แค่นี้เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินไปตลอดชีวิต"
เมื่อได้ยินเกี่ยวกับแผนการของแม่เป็นครั้งแรก เธอกลัวมากจนเหงื่อไหลไม่หยุด อย่างไรก็ตาม การใช้ชีวิตอย่างแร้นแค้นในทุกวัน อีกทั้งยังถูกแม่ของเธอล่อลวงและบังคับซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายเธอก็ยอมตกลงรับข้อเสนอการแต่งงานของเศรษฐีวัย 23 ปีจากหมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งได้รับการแนะนำโดยพ่อสื่อ เขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น ในเดือนมกราคม พ.ศ.2542 ได้มอบของสินสอดตามธรรมเนียม มูลค่าสูงถึง 11,000 หยวน (ประมาณ 53,500 บาท)
วันรุ่งขึ้น เธอเข้าครัวทำอาหารเช้าให้สามีของเธอ พร้อมบดยาเบื่อหนูเป็นผงแล้วเทลงในชามโจ๊ก หลังจากรับประทานอาหารสามีก็รู้สึกเหนื่อยเขาจึงเข้านอน พ่อแม่ของเขาคิดว่าลูกชายเหนื่อยหลังจากงานแต่งงาน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ถามอะไร อย่างไรก็ดี ในตอนเย็นเมื่อเห็นว่ายังไม่ตื่น แม่สามีจึงบอกลูกสะใภ้ให้ชงนมไปให้สามีดื่ม โดยไม่รู้ว่าเธอใช้โอกาสนี้ผสมยาเบื่อหนูในนมให้สามีดื่มอีกครั้ง แล้วแสร้งทำเป็นเดินไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อคุยกับพ่อแม่ของสามี
ครู่ต่อมา ทุกคนก็ได้ยินเสียงของสามีร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มีน้ำลายฟูมปาก และหมดสติไป ครอบครัวของเขารีบพาเขาไปที่ห้องฉุกเฉิน แต่ก็สายเกินไปเมื่อพบว่าเขาเสียชีวิตแล้ว หลังจากนั้นเธอยืนอยู่หน้าศพของสามีที่เพิ่งแต่งงานกัน ร้องไห้จนเป็นลมหลายครั้ง จึงไม่มีใครสงสัยอะไร ทุกคนคิดว่าเขาเสียชีวิตเพราะอาการป่วย ดังนั้น งานศพจึงจัดตามปกติ
เพียงไม่กี่เดือนต่อมา ในเดือนธันวาคม พ.ศ.2542 เธอก็ได้แต่งงานใหม่ ครั้งนี้แม่และลูกสาวขอสินสอดเพียง 7,000 หยวน
(ประมาณ 34,000 บาท) ตอนเย็นหลังงานแต่งงานสามีต้องการดื่มเบียร์ แต่เธอหยิบขวดโยเกิร์ตจากกระเป้ามอบให้สามีแทน โดยบอกว่าการดื่มเบียร์ไม่ดีต่อสุขภาพ การดื่มโยเกิร์ตจะดีกว่า ด้วยเห็นว่าภรรยาเป็นห่วงเขาจึงรีบดื่มโยเกิร์ตจนหมดขวด โดยไม่รู้ว่าข้างในมียาเบื่อหนูอยู่
เช้าวันรุ่งขึ้น เธอวิ่งไปเคาะประตูห้องพ่อแม่ของสามีด้วยความตื่นตระหนก และบอกว่าเมื่อคืนนี้สามีของเธอไม่กลับบ้าน ผู้คนเร่งค้นหาและพบศพของเขาบนถนน
ครั้งนี้แตกต่างออกไป เมื่อตำรวจเข้าแทรกแซงเพื่อสืบสวนเนื่องจากสงสัยว่าจากการเสียชีวิตมีบางอย่างผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของผู้เสียชีวิตไม่ต้องการให้ผ่าชันสูตร เนื่องจากเกรงว่าร่างกายของลูกชายจะไม่สมบูรณ์ ดังนั้น อาชญากรรมของภรรยาจึงถูกฝังกลบหลังอีกครั้ง
หลังจากการฆาตกรรมครั้งที่ 2 ประสบความสำเร็จ เธอก็กล้าหาญมากขึ้นเรื่อยๆ ค้นหาเป้าหมายต่อไป กระทั่งครึ่งปีต่อมา เธอแต่งงานกับชายจากหมู่บ้านใกล้เคียงตามข้อตกลงของแม่อีกครั้ง เนื่องจากนี่เป็นการแต่งงานครั้งที่สาม จึงได้รับสินสอดเพียง 5,800
หยวน (ประมาณ 28,200 บาท) ในวันที่สามหลังจากงานแต่งงาน สามีตัดสินใจออกไปทำงาน ก่อนที่เขาจะจากไปเธอได้เตรียมต้มน้ำให้เขาดื่มในยามพักผ่อน และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นภรรยาของเขา ก่อนมีคนพบร่างอันเย็นเฉียบของเขาอยู่กลางทุ่ง
เช่นเดียวกับสองครั่งก่อนหน้านี้ เธอยังคงแสดงความเศร้าโศกอย่างมากต่อการจากไปของสามี โดยเฝ้าโลงศพทั้งกลางวันและกลางคืน การแสดงที่ชาญฉลาดของเธอทำให้ครอบครัวของสามีไม่สงสัยอะไรเลย อีกทั้งยังสงสารเธอมากด้วย
เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2544 เธอแต่งงานเป็นครั้งที่สี่ และเหตุการณ์ยังคงเกิดขึ้นเช่นเดิม เพียง 3 วันหลังจากงานแต่งงาน สามีนอนกอดท้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเขาชักกระตุก มีน้ำลายฟูมปาก และเสียชีวิตลง ระหว่างงานศพของสามีเธอร้องไห้จนกระทั่งเธอหมดสติไป อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เธอถูกครอบครัวของสามีสงสัย
ครอบครัวของสามีรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลก เพราะลูกชายของเขายังหนุ่ม ไม่เคยเจ็บป่วยใดๆ เมื่อไม่กี่วันก่อนยังคงไปทำงานตามปกติ แล้วจู่ๆ มาเสียชีวิตได้อย่างไร ทั้งนี้ พวกเขายังสืบพบว่าการแต่งงานทั้ง 3 ครั้งก่อนหน้านี้ของลูกสะใภ้นั้นผิดปกติมากๆ เมื่อสามีทุกคนล้วนเสียชีวิตอย่างกระทันหันเพียงไม่กี่วันหลังจากการแต่งงาน พวกเขาสงสัยว่านี่อาจเป็นแผนการฆาตกรรม ดังนั้นจึงแจ้งตำรวจทันที
ในระหว่างจัดงานศพ เธอยังคงรับบทเป็นภรรยาที่ต้องทนทุกข์ทรมานเมื่อสูญสียสามีไป อย่างไรก็ดี กลับมีตำรวจเข้ามาจับกุมตัวเธอถึงงานศพ เมื่อถูกใส่ญแจมือและนำตัวไปที่สถานี เธอพยายามกรีดร้องโดยแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจว่าเธอก่ออาชญากรรมอะไร แต่เมื่อตำรวจเผยผลชันสูตรที่พบว่าสามีของเธอถูกวางยาเบื่อหนู เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป สุดท้ายต้องยอมรับข้อกล่าวหาทั้งหมด แล้วยังเปิดเผยแผนการของแม่ด้วย
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2544 ศาลตัดสินประหารชีวิตแม่และลูกสาว ในข้อหาฉ้อโกงและฆ่าคนตายโดยเจตนา
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ