หัวอกแม่ "แป้ง อรจิรา" เล่าวิกฤตลูกสาวมีภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์

หัวอกแม่ "แป้ง อรจิรา" เล่าวิกฤตลูกสาวมีภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์

หัวอกแม่ "แป้ง อรจิรา" เล่าวิกฤตลูกสาวมีภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักแสดงสาว แป้ง อรจิรา ที่จะมาเปิดบทบาทใหม่กับการเป็นคุณแม่ที่บอกเลยว่าทำชีวิตของเธอเปลี่ยนไปมาก พร้อมหอบลูกสาว น้องเลอา วัยขวบครึ่งมาออกรายการครั้งแรก รวมถึง คุณแม่แป้ง ได้ย้อนเล่าอาการป่วยของลูกสาวภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ ผ่านทาง รายการคุยแซ่บ Show ทางช่องOne31 ที่มี หนิง ปณิตา, เป็กกี้ ศรีธัญญา และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

พัฒนาการน้องเป็นยังไงบ้าง?

แป้ง : คุณหมอบอกว่าอยู่ตามเกณฑ์ เราไม่เคยมีลูก เราก็ไม่รู้ว่าตามเกณฑ์ของคนอื่นมันเป็นยังไง แต่เขาก็พูดตามอายุที่เขาจะพูด เขาไม่ได้เป็นเด็กงอแงที่จะร้องไห้ไม่มีเหตุผล 

ทะเลาะกับสามีเรื่องการเลี้ยงลูกไหม?

แป้ง : มีบ้าง เพราะส่วนใหญ่เราเป็นคนใช้เวลากับลูก เขาจะออกไปทำงานนอกบ้าน พอกลับมาจะมีบ้างเห็นลูกไม่ทำอะไรอย่างนี้ ทำไมไม่สอน ทำไมไม่บอกให้ลูกทำแบบนี้ๆ  

อย่างบ้านแป้งสามีเป็นคนสิงคโปร์ เขาใช้ภาษาจีนเป็นหลัก?

แป้ง : เขาใช้ภาษาอังกฤษ 

แล้วสื่อสารยังไงกับลูกเพื่อไม่ให้สับสน?

แป้ง : เวลาแป้งคุยกับสามีแป้งจะพูดภาษาอังกฤษ แต่ถ้าแป้งคุยกับลูก แป้งจะพูดภาษาไทย ถ้าเขาคุยกับลูก เขาจะพูดภาษาอังกฤษ 

เห็นว่าตอนนี้มีเสริม นอกจากภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ตอนนี้ให้ครูมาสอนภาษาจีน?

แป้ง : ตอนนี้ทุกวันพุธกับศุกร์ช่วงเช้าก็จะมีครูสอนภาษาจีนมาเล่น มาคุย 

ไม่ค่อยได้ยินคนให้ลูกเรียนตั้งแต่ขวบนิดๆ เลย?

แป้ง : คือคุณสามีเป็นคนสิงคโปร์ พอ 6 ขวบต้องย้ายกลับไปเรียนที่สิงคโปร์ เพราะว่าการศึกษาที่สิงคโปร์ค่อนข้างแน่น ไปช้ากว่านั้นกลัวว่าเรียนไม่ทันแล้วจะเครียด ถ้าส่งไปตั้งแต่เด็ก อย่างน้อยมันทำความเครียดให้เป็นความธรรมดา แต่ถ้าเขาอยู่ชิลๆ ที่เมืองไทย แล้วไปเข้าโรงเรียนเครียดๆ เขาปรับตัวไม่ได้จะกลายเป็นเด็กเครียด ก็เลยคิดว่า พอ 6-7 ขวบจะย้ายให้ไปเรียนที่นู้น

ด้วยความที่มันหลากหลายภาษาเหลือเกิน น้องสับสนบ้างไหม?

แป้ง : คิดว่าถ้าเรายัดให่เขาตั้งแต่เด็กๆ แบบนี้คิดว่าเขาน่าจะรู้ว่ามันมีความหลากหลายบนโลกใบนี้ 

นอกจากเขาได้ภาษาจีนแล้ว คุณพ่อก็ได้ภาษาไทยด้วยในครูคนเดียวกัน?

แป้ง : ใช่ จริงๆ คุณพ่อเขาได้ภาษาไทยอยู่แล้ว แต่พอมาถึงที่บ้านเขาก็เลยถามครูคนที่สอนภาษาจีน ว่าสอนภาษาไทยได้หรือเปล่า ซึ่งครูก็สอนได้ ทุกวันนี้ครูมา คือเลอา 1 ชม. แม่ 1 ชม. พ่อ 1 ชม.  

แป้งเรียนอะไร?

แป้ง : จีน เพราะเรากลัวว่าเดี๋ยวเขาคุยกับคุณพ่อแล้วเราไม่รู้ ก็เลยคิดว่าศึกษาไว้บ้าง บางทีลูกเรียนเราจะได้สอนเขาได้ 

ถ้าส่งลูกไปเรียนที่สิงคโปร์ตอน 6 ขวบ คุณแป้งไปด้วยไหม?

แป้ง : ไปค่ะ 

แสดงว่สแพลนในอนาคตคือเตรียมย้ายจากเมืองไทยไปอยู่สิงคโปร์เลย?

แป้ง : อาจจะไม่ได้ยาว อาจจะย้ายไปช่วง 6-7 ปี ไฮสคูล แต่สิงคโปร์มันใกล้บินกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้  

ช่วงหนึ่งเราเรียนรู้ไปอยู่มาแล้ว?

แป้ง : ใช่ค่ะ สิงคโปร์สำหรับแป้ง แป้งรู้สึกว่ามันค่อนข้างเป๊ะ มันอาจจะเครียดนิดนึง คืออยู่ได้ แต่ถ้าอยู่ยาวๆ อาจจะขอ ไป-กลับ 

ลูกไม่ติดพี่แป้งเลย มีช่วงหนึ่งไปต่างประเทศ แต่เราติดลูกมาก?

แป้ง : เราติดลูก เวลาเราไปเมืองนอกโทรหาลูกตลอด เวลาเขาเห็น เขาไม่สนใจ เขาจะเล่น

นอยด์ไหม?

แป้ง : สงสัยเราคงไปบ่อยจริงๆ คงต้องให้เวลากับเขาเยอะขึ้น 

เห็นว่ามีอย่างหนึ่งที่ไม่ให้ลูกทำเลยคืองานในวงการบันเทิง?

แป้ง : คือไม่ใช่ไม่อยากให้เขาทำนะ มันมีช่วงเวลาของมัน แล้วก็พูดจริงๆ เราก็เข้าวงการเร็ว มันมีช่วงที่เราเสียนิสัยก็มีเราอยากให้เขารับรู้ถึงความเป็นคนธรรมดาก่อน การใช้ชีวิตหาเงินไม่ได้ง่ายๆ อยากให้เขามีความสามารถ ร้องเพลงได้ เต้นเป็น เพราะว่าแม่ชอบ แม่อยากดู แต่อยากให้เขาเอาเรื่องวิชาการป๋นหลักมากกว่า แต่ก็ไม่ได้กำหนด แต่ถ้าเลือกได้ อยากให้เขาใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา 

แล้วถ้าวันนึงน้องบอกว่าอยากเป็น?

แป้ง : ก็ต้องดูก่อนว่าเขามีความสามารถทางด้านไหน ถ้าเขาเล่นละครเก่งก็ต้องเก่งจริงนะ หรือร้องเพลงได้ก็ต้องเพราะจริงนะ ไม่ได้เป็นแม่ที่แบบลูกร้องไม่ได้ แล้วบอกว่าร้องเพราะมากลูก ผลักดัน ต้องดูตามพื้นฐานความเป็นจริงว่ามันไปได้ไหม ถ้าลูกเราเก่ง เราก็ผลักดัน 

แล้วคุณพ่อล่ะ?

แป้ง : เขาอยากให้เป็นหมอ ถ้าลํกเป็นหมอได้เขาจะแฮปปี้มาก 

แล้วลึกๆ อยากให้ลูกเป็นอะไร?

แป้ง : เป็นอะไรก็ได้ อยากให้เขาเป็นเด็กมีความสุข 

เห็นว่าตอนคลอดมีวิกฤติเหมือนกัน?

แป้ง : ใช่ ลูกเกิดมาตัวค่อนข้างเล็ก 2.2 โล ถือว่าเล็กมาก เราไม่เคยผ่านการมีลูกมาก่อน เราไม่รู้ว่าเด็กตอนเพิ่งเกิดจะนอนเยอะ นอนน้อย ตื่นหรือเล่นยังไง เราก็มีความพะวง แล้วตอนเขาเกิดมาเขามีความเหี่ยวๆ นิดนึงเพราะเขาเกิดก่อนกำหนด แล้วเขาไม่โตในท้อง 

แป้งไม่ได้คลอดที่เมืองไทย ไปคลอดที่สิงคโปร์?

แป้ง : ใช่ ตอนนั้นมันเป็นช่วงโควิด เราคบกัน 2-3 ปีโดยที่ไม่เคยเจอครอบครัวเขา เราอยากไปเห็นว่าคุณพ่อ คุณแม่เป็นยังไง อย่างน้อยตอนเขาเกิดมา เขาจะได้เห็นคุณปู่ คุณย่า แล้วเราไม่ได้เดินทางหลายปี เปลี่ยนบ้างก็ดี เลยไปคลอดที่สิงคโปร์ 

แตกต่างจากบ้านเราไหม?

แป้ง : จริงๆ หมอที่นู้นอธิบายน้อย มีเวลาให้เราสั้น วัฒนธรรมการคลอดก็แปลก เราหาหมอที่นี่ แต่หมอจะไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาล หมอจะอยู่ตามห้าง คลินิกหมออยู่ห้าง ถ้าจะคลอดต้องไปคลอดที่โรงพยาบาล มันไม่วันสต็อปเซอร์วิชหมอคนนี้ออฟฟิศอยู่ที่นี่ ถ้าต้องใช้ห้องที่โรงพยาบาลก็ต้องไปใช้ที่โรงพยาบาลนี้ มันค่อนข้างลำบากเหมือนกัน 

คุณแป้งคลอดก่อนกำหนด?

แป้ง : จริงๆ ต้องบังคับให้คลอดก่อน เพราะว่าน้องตัวไม่ค่อยโตในวีคหลังๆ คุณหมอเลยแนะนำให้ออกมาโตข้างนอกดีกว่า 

เครียดไหม?

แป้ง : ร้องไห้ทุกวันเลย เพราะเราสังเกตและรู้ว่ามันมีอะไรไม่ปกติ แบบทำไมลูกเราตื่นน้อยกว่าชาวบ้าน ดูไม่อะเลิทเขานอนเยอะ ตื่นน้อย แล้วตอนให้นมมีอยู่ช่วงหนึ่งไม่ดูด ทำไมมันผิดปกติ หลังจากนั้นเริ่มไม่ถ่าย ปกติเด็กต้องถ่ายทุกวันใช่ไหม นี่เริ่ม 5 วัน เริ่มเครียด เราก็พาไปหาหมอ ตัวก็เหลือง แต่เราคิดว่าเขาตัวคล้ำ ไม่รู้ว่าตัวเหลืองคืออะไรหมอเลยจับตรวจเลือด น้องมีภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งเราไปอ่านดูฮอร์โมนตัวนี้มันสำคัญมากๆ ถ้าไม่มีตัวนี้สมองจะไม่พัฒนา ถ้าใครรู้หลัง 2 เดือน เด็กมีสิทธิ์เป็นเอ๋อ เลอารู้ตอนเดือนนึง เราร้องไห้ ซึ่งหมอที่นู้นไม่เหมือนเมืองไทย ไปหาต้องนัดล่วงหน้า แล้วระหว่างที่เรารอโดยไม่รู้อะไร แล้วเราเป็นคนนอยจะเสิชอ่านแต่ในกูเกิ้ล จะมีแบบนี้ อันนี้ทำไม่ได้ ก็ยิ่งนอยไปใหญ่ 

ปรึกษาสามีบ้างไหม?

แป้ง : ปรึกษา แต่สามีก็จะมองโลกในแง่บวก ไม่เป็นหรอก นู้นนี่นั่น พอเขาโตเริ่มบินได้ก็เอาเขากลับมาเมืองไทย พอมาหาหมอที่เมืองไทยเขาบอกไม่ต้องห่วง ตอนนั้นทำใจแล้วนะว่าลูกเราจะโตมาไม่ปกติ แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ลูกเรา 

ผ่านวิกฤตช่วงนั้นมายังไง?

แป้ง : อยู่กับมัน อดทน ตอนแรกไม่คิดว่ามันมีผล คิดว่าแข็งแรง อยู่ที่ไหน เพื่อนโทรศัพท์คุยกันก็ได้ แต่เอาจริงๆ พอกลับมาเมืองไทยเรารู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย คุณแม่บอกโรงพยาบาลนี้ไหม ไปถามหมอโรงพยาบาลนี้ไหม ทุกคนช่วยกันดู ภาวะแบบนี้เป็นยังไง คือตลกมาก แป้งทำคลิปเกี่ยวกับภาวะน้อง พอออกไปมีเพื่อนที่ลูกเขาก็เป็นเหมือนกัน คือเมืองไทยเขารู้เร็วกว่าเรา รู้ตั้งแต่คลอด เพราะฉะนั้นสามารถให้ฮอร์โมนทดแทนได้ตั้งแต่ตอนรู้ แต่ของเลอาอาจจะรู้ช้านิดนึง แต่ไม่เป็นไรยังทันอยู่ 

ผ่านวิกฤติตรงนั้นมาแล้ว ขั้นตอนการรักษา ดูแล?

แป้ง : ต้องให้ฮอร์โมนทดแทน ทุกเช้าเขาจะต้องกินฮอร์โมนทุกวัน ถามว่าต้องกินนานไหม ก็กินไปตลอด ปัจจุบันก็ยังกินอยู่ ถ้าโชคดีตอน 3 ขวบ อยู่ดีๆ ต่อมไทรอยด์เขาเกิดผลิตขึ้นมาได้ก็ถือว่าโชคดี หยุดยาได้ แต่ตอนนี้หยุดไม่ได้เพราะว่า 1-3 ปี เป็นช่วงที่สมองกำลังพัฒนา 

ชาวเน็ตมาคอมเมนต์ไม่ดี?

แป้ง : มันมีรูปที่น้องใส่เสื้อแล้วไหล่หลุดนิดนึงแล้วเขาก็ยิ้ม อาจจะดูเย้ายวนใจ เขาพิมพ์ว่า แรดจังเลย แป้งเปิดเข้าไปดู เขาเที่ยวเมืองนอก ดูธรรมะ ธรรมโม ตอนแรกจะฟ้องแล้ว แต่เราดันใจเร็ว สตอรี่ไปแบบโกรธ เขาคงรู้ตัวทันแล้วลบไอจีเขาไป 

เจอแบบนี้เครียดไปกี่วัน?

แป้ง : ไม่ได้เครียดแต่โมโห พอเราเป็นแม่ เราไม่รู้หรอกนะว่าจะรักอะไรได้มากกว่าตัวเอง เพราะว่าทั้งชีวิตนี้ฉันรักแต่ตัวเอง พอมีลูกนี่คือสิ่งมีค่าที่สุดของฉัน 

จ่อจะฟ้อง แล้วเกิดอะไรขึ้น?

แป้ง : ใช่ ปรึกษาทนายแล้วด้วย มันต้องแจ้งความแล้วมันต้องเอาชื่อจริง นามสกุลจริง อย่างที่บอกตอนแรกเราสตอรี่ไปก่อนแล้วเขาไหวตัวทัน เขาลบไอจีออกไปก่อน 

สามีว่ายังไงบ้าง?

แป้ง : เขาจะซอฟๆ หน่อย ยูไม่ต้องฟ้องหรอก พิมพ์ไปให้เขาออกมาขอโทษ 

วันนี้ถ้าเขาดูอยู่อยากบอกอะไรเขาบ้าง?

แป้ง : ควรออกมาขอโทษนะคะ แล้วเท่าที่เห็นเป็นผู้หลัก ผู้ใหญ่แล้ว ก็จะรู้ว่าอะไรควร ไม่ควร 

ชีวิตแป้งตั้งแต่มีลูกเปลี่ยนไปเยอะมาก นิ่งขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ที่สำคัญสวยขึ้นด้วย?

แป้ง : ยิ่งเรามีอายุมากขึ้น เรารู้สึกว่าการที่คุณสามีกลับมาบ้านแล้วเจออะไรที่สวยๆ งามๆ ก็คือสิ่งที่ดี และที่สำคัญพอเรามีลูกแล้ว เราต้องดูแลตัวเอง เพื่อที่จะอยู่กับลูกได้นานมากขึ้นด้วย 

ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บ Show รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อัลบั้มภาพ 27 ภาพ

อัลบั้มภาพ 27 ภาพ ของ หัวอกแม่ "แป้ง อรจิรา" เล่าวิกฤตลูกสาวมีภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook