ไทยส่งคณะเจรจายูเออีร่างสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดน

ไทยส่งคณะเจรจาสหรัฐอาหรับฯ ร่วมร่างสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน สุเทพ ระบุพักความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาแค่นี้ก่อน

(13 ม.ค.) นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศ เปิดเผยระหว่างเดินทางไปนครอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี เพื่อเจรจาการทำสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างสองประเทศว่า เป็นการเริ่มต้นเจรจาในรอบแรก บรรยากาศเป็นไปด้วยดี มีความเข้าอกเข้าใจระหว่างกัน และเป็นไปอย่างฉันท์มิตร เพราะทางยูเออีมีความประสงค์ที่จะทำสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฝ่ายไทย

นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า มีแนวโน้มว่าทั้งสองฝ่ายน่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงในเรื่องดังกล่าวได้ในระยะเวลาที่ไม่นานนัก เนื่องจากมีความเห็นตรงกันว่าการส่งผู้ร้ายข้ามแดนควรจะยึดหลักการขององค์การสหประชาชาติเป็นหลัก ซึ่งการเจรจารอบแรกนี้ยังไม่ได้มีการเจรจากรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากการเจรจาในเรื่องดังกล่าวควรจะเป็นหลังจากที่ทั้งสองประเทศได้ลงนามในสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกันเสร็จสิ้นแล้ว

พนิช เผยส่งคณะไปเจรจาร่วมยกร่างสนธิสัญญาไทย-ยูเออี

นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาลงนามทำสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี ว่า ได้เจรจากันระหว่างวันที่ 10-13 มกราคม และจะมีการเจรจากันอีก 2-3 ครั้ง ซึ่งน่าจะใช้เวลามากกว่า 1-2 เดือน ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้อย่างแน่นอน ยืนยันการเจรจาทำสนธิสัญญาดังกล่าวไม่ได้ทำขึ้นเพื่อไล่ล่าพ.ต.ท.ทักษิณ

ส่วนอนาคตหากมีการขอส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว จะซ้ำรอยกัมพูชาหรือไม่นั้น นายพนิช กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมของประเทศนั้น ๆ โดยเฉพาะการพิจารณาของอัยการและศาล อย่างไรก็ตามการสำหรับการเจรจาเรื่องการทำสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ระหว่างทั้งสองประเทศมีคณะผู้แทนจากอัยการ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานศาลยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม เดินทางไปร่วมด้วย

สุเทพ ระบุพักความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาแค่นี้ก่อน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการฟื้นความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาว่า ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ก็พักเอาไว้ตรงนี้ก่อน

เมื่อถามว่ารัฐบาลรู้สึกแปลกใจหรือไม่กับการที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาระบุว่ารัฐบาลไทยชุดนี้จะมีอายุอีกไม่นาน ก็ต้องไปแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ฝากเรียนสมเด็จฮุนเซนว่ารัฐบาลนี้อยู่นาน

อัยการสูงสุด พร้อมส่งตัวแทนร่วมวางแนวร่างสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดน

ด้าน นายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะประธานติดตามตัวนักการเมืองที่หลบหนีหมายจับไปอยู่ต่างประเทศเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมารับโทษตามคำพิพากษาของศาลในประเทศไทย กล่าวถึงข่าวการเจรจาระหว่างทางการไทย และทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ หรือยูเออี ลงนามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ซึ่งเคยพำนักอยู่เมืองดูไบว่า แนวทางการร่างสนธิสัญญานั้น นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ได้ร่วมหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเห็นพ้องว่าสมควรทางการไทยจะเจรจากับ UAE เพื่อร่างสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนในการติดตามตัวผู้กระทำผิดกลับมาดำเนินคดีในไทย โดยการเจรจาลงนามสนธิสัญญากับ UAE เป็นการดำเนินแนวทางเดียวกันกับการเจรจาการร่างสนธิสัญญา ฯ กับทางการฮ่องกง ซึ่งทางการไทยได้ดำเนินไปแล้ว

โดยการร่างสนธิสัญญาฯ กับฮ่องกงก็ยังไม่เสร็จสิ้น อยู่ระหว่างการหารือกัน เพื่อบรรลุข้อตกลงที่จะเขียนในเนื้อหาร่างสนธิสัญญา ขณะที่ ในส่วนของ UAE อยู่ระหว่างการนัดเจรจากัน โดยอัยการสูงสุด เตรียมจะตั้งคณะทำงานเพื่อเป็นตัวแทนอัยการ ร่วมเจรจากับกระทรวงการต่างประเทศและทางการ UAE ทั้งนี้ การทำสนธิสัญญาฯ ดังกล่าวไม่ใช่เหตุผลเพื่อการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น แต่เป็นการดำเนินการเพื่อการพิจารณาขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนรายอื่นๆ ในอนาคตด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ จากUAE เมื่อปี 2552 ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศเคยแจ้งข้อมูลต่อสำนักงานอัยการสูงสุดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีที่พำนักอยู่ที่เมืองดูไบ ใน UAE ซึ่งนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุดขณะนั้น ได้ทำหนังสือผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ให้ส่งหนังสือผ่านวิถีทางการทูต ถึงทางการ UAE เมื่อเดือน เม.ย.52 เพื่อขอให้จับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ ไว้เป็นการชั่วคราวก่อนเพื่อทางการไทย จะได้ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศขอให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน โดยวิธีการต่างตอบแทนเพื่อนำตัวกลับมารับโทษในไทย

เนื่องจากทางการไทย-ทางการ UAE ยังไม่เคยลงนามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่จะมีผลผูกพันการดำเนินการต่อกัน ขณะที่ปี 2552 ทางการ UAE ได้ ประสานทางการไทยผ่านกระทรวงการต่างประเทศจับกุมและส่งตัวนายไมเคิล ไบรอัน สมิธ นักธุรกิจชาวอังกฤษ ผู้ต้องหากระทำความผิดฉ้อโกงบริษัทในนครดูไบ ที่หลบหนีมาพักอยู่ในประเทศไทย เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดี