ฟันธงจ่าย1.2แสนช่วยเหลือเหยื่อตาบอดผ่าตัดต้อกระจก
คณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จ.ขอนแก่น มีมติช่วยเหลือผู้ป่วยตาบอดจากการผ่าตัดตาต้อกระจากรายละ 1.2 แสนบาท ด้าน สปสช.ขอนแก่น พร้อมประสานเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือโดยเร็ว พร้อมประสาน รพ.เร่งรักษาต่อเนื่อง-ใส่ลูกตาเทียม
จากกรณีที่โรงพยาบาลขอนแก่นให้การผ่าตัดผู้ป่วยตาต้อกระจก ระหว่างวันที่ 14-16 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นพบว่าผู้ป่วยติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นตาบอดจำนวน 11 คน โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง จำนวน 4 คน และผู้ป่วยสิทธิสวัสดิการข้าราชการจำนวน 4 คน ซึ่งทางโรงพยาบาลขอนแก่นได้แสดงความรับผิดชอบทั้งในส่วนของการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง การให้เงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้น รวมทั้งทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อหาโอกาสในการพัฒนาตามหลักเกณฑ์มาตรฐานสากลการดูแลผู้ป่วยทั้งกระบวนการ
ล่าสุด (13 ม.ค.) คณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จ.ขอนแก่น ซึ่งมี รศ.นพ.วัชรพงศ์ พุทธิสวัสดิ์ ผอ.ศูนย์วิจัยพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธาน โดยได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาให้เงินช่วยเหลือเบื้องต้นกับผู้ป่วยที่มีสิทธิตามบัตรทองตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 และมีมติให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับผู้ป่วยตาต้อกระจกที่สูญเสียการมองเห็น 6 ราย ซึ่งเข้าเกณฑ์ ส่วนกรณีที่พิการหรือสูญเสียอวัยวะได้รับเงินช่วยเหลือ 120,000 บาท และอีกรายเข้าเกณฑ์กรณีบาดเจ็บและเจ็บป่วยต่อเนื่องได้รับเงินช่วยเหลือ 50,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 777,000 บาท
นพ.พิเชฎฐ ลีละพันธ์เมธา ผอ.สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 7 ขอนแก่น (สปสช.) กล่าวว่า ทาง สปสช.จะเร่งโอนเงินช่วยเหลือให้กับผู้ป่วยให้เร็วที่สุด เพื่อช่วยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วย พร้อมทั้งประสานงานกับโรงพยาบาลขอนแก่นในส่วนของการรักษาต่อเนื่องและการใส่ลูกตาเทียม ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้สามารถเบิกจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด
ทั้งนี้ สำหรับการขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นตามมาตรา 41 ผู้ที่มีสิทธิยื่นคำร้องขอได้ คือ ผู้ป่วย ทายาทผู้ป่วย ผู้อุปการะ หรือโรงพยาบาลที่ให้บริการ และต้องยื่นคำร้องภายใน 1 ปี นับจากวันที่ทราบความเสียหาย