แม้ว ปลุกม็อบต่อรองขอคืน4หมื่นล.คดียึดทรัพย์

แม้ว ปลุกม็อบต่อรองขอคืน4หมื่นล.คดียึดทรัพย์

แม้ว ปลุกม็อบต่อรองขอคืน4หมื่นล.คดียึดทรัพย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ว พล่าน วิ่งล็อบบี้ใช้เครือข่าย 111 เจรจาผู้มีอำนาจ ต่อรองคดียึดทรัพย์ขอเงิน 4 หมื่นล้านคืน อ้างได้มาก่อนเป็นนายกฯ

รายงานข่าวจากคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และแหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้หารือกับครอบครัว แกนนำใกล้ชิด และกลุ่มบ้านเลขที่ 111 ถึงแนวทางการสู้คดี โดยมีการประเมินไว้ คือ เตรียมเคลื่อนไหวหาทางออก

หลังประเมินว่าคดีดังกล่าวอาจมีแนวโน้มที่จะโดนยึดทรัพย์ เนื่องจากมองว่าเป็นคดีการเมือง และการชี้แจงในขั้น คตส.มีการหักล้างมาโดยตลอด ซึ่งในการต่อสู้คดีที่ผ่านมานั้น พ.ต.ท.ทักษิณพยายามยืนยันมาตลอดว่าเป็นทรัพย์สินเดิมที่ได้มาก่อนเป็นนายก รัฐมนตรีในปี 2544 และทรัพย์สินส่วนหนึ่งมีการโอนให้ลูกและครอบครัวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อจดทะเบียนหย่ากับคุณหญิงพจมาน ทำให้ทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่เป็นของคุณหญิงพจมานถูกกันออกไป ประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณห่วงคือ เรื่องที่มาที่ไปของเงิน โดยเฉพาะกรณีโดนกล่าวหาซุกหุ้นแอมเพิลริช ที่ไม่สามารถหักล้างประเด็นนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ได้วางแนวทางต่อสู้ในทางการเมืองไว้ 3 ทาง คือ

1.มีการเตรียมพร้อมเคลื่อนไหวการเมือง ระดมมวลชนเสื้อแดงชุมนุมใหญ่ เพื่อกดดันฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งกรณีการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อเดินคู่ขนานกันไป การเคลื่อนไหวสองด้านนี้ต้องรอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง 2.มีความพยายามล็อบบี้ฝ่ายต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการต่อสู้คดียึดทรัพย์ โดยมีการยื่นเงื่อนไขโค้งสุดท้ายเรื่องทรัพย์สิน จะขอเงินที่เป็นเงินต้นที่มีมาก่อนรับตำแหน่งนายกฯ คืน เนื่องจากเป็นของครอบครัวกว่า 4 หมื่นล้านบาท หรือกว่า 60% ส่วนที่เหลือเป็นเงินที่งอกมาหลังขายหุ้นชินคอร์ปให้เทมาเส็ก 3.ใช้เครือข่ายกลุ่ม 111 ไปเจรจากับผู้มีอำนาจ ทั้งในเรื่องคดีและทรัพย์สิน โดย พ.ต.ท.ทักษิณประเมินว่า หลังคดีจบก็น่าจะเดินทางกลับประเทศไทยได้ในช่วงกลางเดือนกันยายน แต่อาจเป็นการเดินทางกลับมาภายใต้สถานการณ์พิเศษ

ขณะที่แหล่งข่าวจากทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่า เมื่อดูจากประเด็นการหย่าร้างและประเด็นการโอนหุ้นให้ลูกและครอบครัวแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณมีเงินเหลืออยู่แค่ 500-1,000 ล้านบาทเท่านั้น หากจะมีการพิจารณายึดทรัพย์ก็ควรยึดจากจำนวนเงินที่ พ.ต.ท.ทักษิณเหลืออยู่นี้แทน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook