"สอดอ style" หัวจะปวด ขอเล่าความจริงชัดๆ หลังเป็นข่าวโดนตำรวจลง เหตุรวยผิดปกติ

หัวจะปวด! "สอดอ style" งานเข้าอีกแล้ว เป็นข่าวโดนตำรวจลงเพราะรวมผิดปกติ ล่าสุดเจ้าตัวโพสต์ขอเล่าความจริงชัดๆ ลั่นเป็นคนรวยแบบตรงๆ รวยแบบซื่อๆ รวยไม่ปลอม

กรณีเพจดัง หมายจับกับบรรจง ได้โพสต์ข้อความที่ระบุว่า “ด่วน!ตำรวจสอบสวนกลางบุกค้นบริษัท สอดอ style ยูทูบเบอร์ดัง”

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตรวจค้นบริษัท Youtuber ชื่อดังไม่ส่งงบดุลบริษัท ต้องสงสัยตกแต่งบัญชีรายได้ ร่วมกันตรวจค้น 4 บริษัท ดังนี้

1. บริษัท สอดอ สไตล์ จำกัด
2. บริษัท ไดนี่ กรุ๊ป จำกัด
3. บริษัท คาราเมล บิสคิท จำกัด
4. บริษัท แฮปปี้ทรีเฟรนด์ จำกัด

พฤติการณ์ กก.3 บก.ปอศ. ได้รับเรื่องร้องเรียน ให้ตรวจสอบบุคคลและบริษัท เนื่องจากมีทรัพย์สินและพฤติกรรมใช้ชีวิตประจำวันอย่างฟุ่มเฟือย ซึ่งบุคคลดังกล่าวมีการโพสไลฟ์สด ว่าตนเสียเงินจากการเล่นพนันออนไลน์ จำนวน 35 ล้านบาท ในช่วงปีที่ผ่านมาตามสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นข่าว ผู้ร้องจึงขอให้มีการตรวจสอบแหล่งที่มาของทรัพย์สินดังกล่าว เนื่องจากมีประชาชนบางส่วนรับชมรายการผ่านช่องทาง Youtube และ Facebook ของ Youtuber ดังกล่าว ที่รับชม ถูกเชื้อเชิญให้ซื้อสินค้าต่างๆ โดยข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าบุคคลผู้มีพฤติกรรมดังกล่าวเป็น Youtuber ชื่อดัง มีผู้ติดตามหลายล้านคนในสื่อสังคมออนไลน์ โดยบุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าของกิจการหลายบริษัท

โดยพบว่าไม่ได้ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงมีการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าบริษัท ที่ Youtuber ชื่อดังนั้นเป็นเจ้าของกิจการ มีการยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินกว่าความเป็นจริงโดยไม่สอดคล้องกับทรัพย์สิน และพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยตามที่ปรากฎบนสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงการใช้เงินเล่นการพนันตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 ถึงปัจจุบัน รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท จึงน่าเชื่อว่ามีความผิดปกติทางบัญชี และอาจเกี่ยวเนื่องไปจนถึงการเสียภาษีประจำปี

หลังเข้าตรวจค้นพบว่า บริษัทของ Youtuber ชื่อดังและแฟนหนุ่มที่เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นนั้น มีความผิดอื่นๆ ตาม พ.ร.บ.กำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. 2499 และ พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 ในข้อหา ดังนี้

1. ไม่ได้จัดเก็บเอกสารทางบัญชีไว้ที่สถานประกอบการ ซึ่งไม่ปฏิบัติตามมาตรา 13 โทษตาม มาตรา 31 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
2. ไม่ได้จัดทำใบหุ้นมอบให้กับผู้ถือหุ้น อันเป็นความผิดตามาตรา 8 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
3. ไม่ได้จัดทำสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น อันเป็นความผิดตามมาตรา 10 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
4. มีการย้ายเปลี่ยนแปลงสำนักงานและเพิ่มสาขาที่ใช้ในการประกอบกิจการ ซึ่งไม่ส่งคำบอกการเปลี่ยนย้ายสำนักงานแก่นายทะเบียนเพื่อจดทะเบียน อันเป็นความผิดตามมาตรา 14 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

โดยทั้ง 2 บริษัท มีโทษปรับทั้งส่วนนิติบุคคล และกรรมการที่มีอำนาจลงนามในฐานะบุคคล รวมโทษปรับสูงสุดที่ 275,000 บาท
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบเอกสารทางบัญชีของบริษัทที่อาจเข้าข่ายความผิดในเรื่อง การรายงานเท็จ แก้ไข ละเว้นการลงรายการในบัญชีหรือ งบการเงิน หรือแก้ไขเอกสารที่ต้องใช้ประกอบ การลงบัญชีเพื่อให้ผิดความเป็นจริง อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งผู้จัดทำบัญชี ผู้ทำบัญชี และผู้สอบบัญชี

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาข้างต้น และอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเรื่องเอกสารทางบัญชีของบริษัทเพิ่มเติม

ล่าสุด ยูทูบเบอร์ดัง “สอดอ style หรือ เส้นด้าย พิมพ์ลดา” ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงเรื่องดังกล่าว หลังเพิ่งเห็นข่าวตัวเองถูกตำรวจสอบสวนกลางบุกค้นบริษัท โดยระบุว่า

หัวจะปวดด… เพิ่งเห็นข่าวตัวเอง “ค้น บ สอดอstyle” จริงๆ ตร. มาตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. แล้ววววววววววว #ไม่มีนักข่าว (ยัง งงๆ อยู่ ตร. ลงเหมือนอิชั้นทำเว็บ ฟอกเงิน โกงแชร์) และอิชั้นก็ให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างดี ให้ดูหมด เอกสารต่างๆ ก็ยื่น DECLARE ไปได้หมด ทุกอย่างก็จบลงด้วยดี

ตำรวจท่านก็ทำตามหน้าที่ จริงๆ กรมพัฒนฯร้องเรียน การใช้ชีวิตไม่สอดคล้องกับงบบริษัท จึงเรียนให้การให้ทราบว่า #ธุรกิจแบบเราเป็นธุรกิจแบบใหม่เพิ่งมีมาไม่กี่ปี ท่านอาจจะตามไม่ทัน บาง content ที่ทำมันคืองาน บางส่วน บางช่วง บางตอน มันคือ งาน และก็ทางเรา DECLARE ไปเรียบร้อย อาจจะเห็นจากข่าวที่โด่งดัง #ฉันเล่นพนันเสียหลายสิบล้าน มันก็น่าตรวจสอบว่าเอาเงินจากไหนมาเล่น

แต่ฉันก็ ”เป็นคนรวยแบบตรงๆ รวยแบบซื่อๆ รวยไม่ปลอม รวยแบบทำงานแทบตายตอนทำงานหนักไม่มีใครเห็น555” ก็เปิดเผยทุกเรื่องให้แฟนคลับ รู้ เห็น ทราบและเตือนกันเป็นอุทาหรณ์ ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่ิงเป็นราวใหญ่โต ก็เลยถูกต้องสงสัยว่า #รับฟอกเงิน #ทำธุรกิจสีเทา #เอี่ยวเว็บพนัน #ทำสิ่งผิดกฎหมาย

…..แต่ถามได้ไหม… อิชั้นไม่เคยรับรีวิวการพนันแม้แต่ครั้งเดียว อิชั้นคนที่เล่นเสียเอง ออกมาด่าการพนัน ออกมาเตือนคนอย่าเล่นๆๆนะ มันไม่ดี มันชิบหาย ไม่มีมีแต่การเชื้อชวน

ถ้าคนที่ทำสิ่งผิดกฏหมายจริงๆใครมันจะกล้าพูด กล้าเปิดหน้า กล้าออกสื่อแบบดิฉันบ้างคะ พูดไปก็เข้าตัว #คนทำจริงเค้าไม่พูดหรอกนะคะแต่ที่เห็นทุกวันนี้ขนาดรู้ก็ไม่จับ งงงงงงงงงง

เพราะอิชั้นคิดว่า อิชั้นไม่ได้ทำสิ่งผิดกฏหมาย เป็นคนทำมาหากินสุจริต ถ้าจะผิดก็ผิดเรื่องเล่นพนันแค่นั้น แล้วก็ออกมาพูดเอง (ถ้าจะจับต้องจับทั้งประเทศ) คนที่เล่นพนันเสียกล้าออกมาเตือนคนให้อุทาหรณ์คน มันก็คือคนที่เคยเล่น เคยมีประสบการณ์อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นมันจะเล่า จะบอกได้อย่างไร

พูดไปก็ถูกจับ เพราะมันผิดกฎหมายในประเทศไทย และที่ดิฉันตัดสินใจกล้าบอกเพราะดิฉันคิดว่า #เราเจตนาดี #เห็นใจคนที่กำลังตกนรกออยู่แบบเรา ได้ฉุกคิดว่าอย่างน้อย “คนที่ประสบความสำเร็จแบบอิชั้น ใช้ชีวิตที่ดีมาโดยตลอดแบบอิชั้น ยังชิบหายเบอร์นี้ได้ เค้าจะไปเหลืออะไร!?”

เห็นข่าวแล้วหัวจะปวดดด!! เลยอยากชี้แจ้งทุกคนให้ทราบว่า ทางตำรวจ CIB เข้ามาตรวจค้น ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 66 ไม่ใช่วันนี้ตามที่เป็นข่าว ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่าน ทางเราให้ความร่วมมือกับทางตำรวจแต่โดยดีมาตลอด และเข้าไปชี้แจงตามนัดทุกครั้งเพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจของเรา

จนสุดท้ายเมื่อวานก็ได้มีการเข้าไปชำระค่าปรับให้ส่วนที่ผิดพลาดทั้งหมดแล้ว บางข้อหายังเป็นการปรับครั้งแรกในประเทศไทยเลย ซึ่งที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ยังบอกเองว่าไม่เคยมีเคสแบบนี้ ซึ่งเคสนี้เป็นเคสแรก

และวันนี้ก็ได้มีคุยกับทางทีมตำรวจ CIB แล้ว ว่าทางตำรวจไม่ได้รายงานตามที่ข่าวพาดหัวออกไปเลย อยากให้พี่ๆสื่อทั้งหลายอย่าเขียนข่าวให้เกิดความเสียหาย หรือให้คนมาคอมเม้นให้เกิดความเกลียดชังกันเลย หวังว่าหน่วยงานจะ #ตรวจสอบทุกคน #ทุกธุรกิจที่เห็นต้องสงสัยอย่างทั่วถึง ให้สังคมเราเป็นไปในทางที่ถูกต้องนะคะ ขอบคุณและสวัสดีค่ะ”