งงกันหมด เศรษฐินีมอบมรดกให้พยาบาล แต่อีกฝ่ายเผ่นหนี หมอเฉลยเพราะอะไร

งงกันหมด เศรษฐินีมอบมรดกให้พยาบาล แต่อีกฝ่ายเผ่นหนี หมอเฉลยเพราะอะไร

งงกันหมด เศรษฐินีมอบมรดกให้พยาบาล แต่อีกฝ่ายเผ่นหนี หมอเฉลยเพราะอะไร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หมอโพสต์เล่าเหตุการณ์ หญิงวัยกลางคนผู้มั่งคั่งถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน ในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต ตัดสินใจมอบมรดกให้พยาบาลที่ดูแลเธอ แต่พยาบาลทิ้งไปเพราะเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งทำเอาคุณหมอถึงถอนหายใจด้วยความปลงในสัจธรรมชีวิต

ชิ จิงจง สูติแพทย์และนรีแพทย์ แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน ได้โพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงเฟซบุ๊ก ระบุว่า "เงินอยู่ในธนาคาร มนุษย์อยู่ในสวรรค์" พร้อมบอกว่าการทำงานในห้องฉุกเฉินทำให้เห็นชีวิตทุกรูปแบบ

ดร.ชิ แชร์กรณีหนึ่งเมื่อหญิงวัยกลางคนผู้มั่งคั่งถูกส่งตัวมาห้องฉุกเฉินเมื่อต้นปีนี้ เธอใกล้มาถึงวาระสุดท้ายของชีวิต โดยหญิงรายนี้เป็นเจ้าของทรัพย์สินมากมาย แต่เธอไม่มีญาติ คนที่ดูแลเธอคือพยาบาล

ดังนั้นเธอจึงต้องการบริจาคเงินให้กับสถานพยาบาลเพื่อขอบคุณสำหรับการดูแล แต่บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานในห้องฉุกเฉินปฏิเสธที่จะรับมัน ดังนั้นเธอจึงต้องซื้อเครื่องดื่มหรืออาหารสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนักเหล่านี้

ดร.ชิ เปิดเผยว่า ในท้ายที่สุดเศรษฐินีรายนี้ตัดสินใจจะมรดกทั้งหมดให้กับนางพยาบาล แต่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการหาทนายความมาที่แผนกฉุกเฉินเพื่อจัดการขั้นตอนเหล่านี้

เมื่อร่างกายที่อ่อนแอของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 โดยบังเอิญ พยาบาลซึ่งถูกกำหนดให้รับมรดกรู้เรื่องเข้า ก็รีบละทิ้งเธอ เพราะเกรงว่าจะติดเชื้อไปด้วย อันที่จริงสิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นปีนี้ โควิด-19 ได้อ่อนกำลังลงแล้ว และแทบจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อคนที่มีสุขภาพแข็งแรง

"หาเงินมาเท่าไหร่ ก็เอาไปไม่ได้เมื่อตายไป อยากฝากไว้ อาจไม่มีใครยินดีไปกับคุณจนวินาทีสุดท้าย ทำบุญเพื่อส่วนรวมไว้เยอะๆ ดีกว่า แบ่งความสุขเสียงหัวเราะให้กับคนไม่มี ตอนที่จากไป จะมีประโยชน์อะไรกับการเก็บเงินไว้ในธนาคาร?" ดร.ชิ กล่าวทิ้งท้าย

โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นเประเด็นถกเถียงให้กับชาวเน็ต ต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นไปตางๆ นานา อาทิ "ใช้เงินให้หมดเมื่อคุณใช้มันได้", "คุณสามารถเห็นชีวิตทุกประเภท ในห้องไอซียู" , "สิ่งที่หมอแบ่งปันมีประโยชน์มาก ขอบคุณค่ะ" และ "มีเมตตาเสมอและทำสาธารณประโยชน์ให้มากขึ้น หาเงินและมีความสุขได้ ช่วยเหลือผู้คนได้มากขึ้น”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook