หน้าแตกจับยาไอซ์เก๊ 5.4กก.-หนุ่มวินวิ่งยาบ้าแสนเม็ด

ผบช.น.แถลงจับยาบ้า1แสนเม็ดหนุ่มวินจยย.รับจากจุดขยะ ภาค4ขอนแก่นจับแก๊งกาฬสินธุ์12คน ศูนย์ปราบฯภาคเหนือหน้าแตก 5.4 กก.แถลงจับกลายเป็นของปลอม

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้(15 ม.ค.) พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. แถลงผลตำรวจสายตรวจป้องกันปราบปราม สน.สายไหม จับกุมนายธวัชชัย สว่างเนตร อายุ 33 ปี ขับมอเตอร์ไซด์วินรับจ้าง ค้ายาบ้า โดยขณะตั้งจุดตรวจค้นบริเวณแยกกรมควบคุมการปฏิบัติการทางอากาศ(คปอ.) ถนนพหลโยธินขาเข้า เวลา 22.00 น.วันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา

นายธวัชชัยขี่รถจักรยายนต์ยามาฮ่า รุ่นนูโว สีฟ้า ทะเบียน วยก.366 กทม. ขับผ่านมาจึงเรียกตรวจค้นพบพิรุธต้องสงสัยตรงกับรับแจ้งจากสายลับ เมื่อตรวจค้นพบยาบ้าเม็ดสีส้มจำนวน 1 แสนเม็ด ใส่ในถุงพลาสติกสีขาวมัดไว้กับเบาะรถจักรยายนต์ยนต์หลังคนขับ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) ไว้ครอบครองโดยผิดกฎหมาย

ผู้ต้องหารับสารภาพทำมาแล้ว 2 ครั้งได้ค่าจ้างครั้งละ 2-3 พันบาทหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวมีลูกทั้งหมด 3 คน โดยมีเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นนายหน้าโทรมาบอกว่าให้ไปเอายาบ้าจากถังขยะที่ต่างๆ ซึ่งมีคนนำมาทิ้งไว้แล้วเอาไปส่งตามจุดต่างๆ ในย่านสายไหมและใกล้เคียงโดยใช้วิธีวางทิ้งในถังขยะเช่นเดียวกันจนถูกจับกุมในที่สุด

ขอนแก่นปิดหมู่บ้านค้นจับแก๊งายาบ้าจากกาฬสินธุ์

เมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน(15 ม.ค.) พล.ต.ต.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.สส.ภ.4 และ พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก.สส.1บก.สส.ภ.4 พ.ต.ท.ดิเรก ยศนันท์ รอง ผกก.ฯ รรท.ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.4 และ พ.ต.ท.จีระวัฒน์ โพธินา สว.กก.สส.2 บก.สส.ภ.4 ร่วมกันแถลงการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 12 คน

ประกอบด้วย นายวทัญญู หรือ"เป" ศรีโนนโคตร อายุ 44 ปี อยู่เลขที่ 171 หมู่ 12 บ้านคำใหญ่ ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก กาฬสินธุ์ นายบุญมี หรือ "มี" ขันธุ์วงค์ อายุ 36ปี อยู่เลขที่ 50 หมู่ 8 บ้านคำใหญ่ ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก กาฬสินธุ์ นายไพรวัลย์ หรือ"อ๊อด" เบญจมาศ อายุ 27 ปี อยู่เลขที่240 ม.2 ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก กาฬสินธุ์ นางสาวเพชร หรือ "กุ้ง" โสภา อายุ 31 ปี อยู่เลขที่ 165 หมู่ 6 ต.กุดปลาดุก อ.ชื่นชม มหาสารคาม

นายพลอยชมพู หรือ"พลอย" แก้วคำเก็บ อายุ 36 ปี อยู่เลขที่ 86 หมู่ 2 บ้านคำใหญ่ ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก กาฬสินธุ์ นายรัตนสิทธิชัย หรือ"รัตน์" ภูสดสูง อายุ 45 ปี อยู่เลขที่ 79 หมู่5 ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี กาฬสินธุ์ อดีตนายกเทศบาลตำบลหนองกุงศรี นายวิชาญ หรือ"ชาญ" ภูบานเช้า อายุ 27 ปี อยู่เลขที่104 หมู่ 2 ต.หลำหนองแสน อ.หนองกุงศรี กาฬสินธุ์ ลูกจ้างอบต.ห้วยเม็ก นายเจริญ กำแซง อายุ 25 ปี อยู่เลขที่ 155 หมู่ 12 ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก กาฬสินธุ์ นายแก่น โพธิ์ศรี อายุ 55 ปี อยู่เลขที่ 148 หมู่ 2 ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก กาฬสินธุ์ นายวีระศักดิ์ ศรีโนนโคตร อายุ 26 ปี อยู่เลขที่ 191 หมู่ 2 ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก กาฬสินธุ์ นายทน อุทัยแสง อายุ 60 ปี อยู่เลขที่ 264 หมู่ 98 ต.นาตาล อ.ท่าคันโท กาฬสินธุ์ และนางบุญเรือง อุทัยแสง อายุ 57 ปี อยู่เลขที่ 264 หมู่ 98 ต.นาตาล อ.ท่าคันโท กาฬสินธุ์

พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,836 เม็ด เงินสด จำนวนประมาณ 95,000 บาท โทรศัพท์มือถือจำนวน 9 เครื่อง รถจักรยานยนต์ จำนวน 8 คัน และรถยนต์กระบะจำนวน 2 คัน

พ.ต.ท.ดิเรก กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่านายวทัญญู หรือเป ศรีโนนโคตร มีพฤติการณ์ในการจำหน่ายยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นใน ต.คำใหญ่ และ อ.ห้วยเม็ก จว.กาฬสินธุ์ จึงได้วางแผนจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อ ยาบ้าจากนายวทัญญู จำนวน 40 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมพร้อมควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผลตาม นายวทัญญู รับสารภาพ

สภ.สุไหงโก-ลก ค้นบ้านเอเย่นต์ยาเผ่น-ขออายัด5ล้าน

เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท. อเนก สระทองอยู่ สว.สส. พ.ต.ต.สุรเชษฐ นพมาศ สวป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สุไหง-โก-ลก จ.นราธิวาส ได้นำกำลังจู่โจมบุกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 76 ถนนเจริญเขต ซอย 22 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นบ้านของ นายมะอารงค์ มะนอ อายุ 44 ปี ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อใหม่ ชื่อ นาย วรวุฒิ มะนอ ซึ่งมีประวัติเป็นเอเย่นต์ ยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่แถบชายแดน สุไหงโก-ลก มีเครือข่ายเชื่อมโยงกับเอเย่นต์ยาเสพติด ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา และมีพฤติกรรม ชอบแต่งตัวคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบ และมักชอบเดินตามและคลุกคลีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการเข้าตรวจค้นบ้าน นายวรวุฒิ ไม่อยู่บ้าน เจ้าหน้าที่พบเพียงนาง ประดับนาคน้อย อายุ 41 ปี เป็นภรรยาของนาย วรวุฒิ อยู่บ้าน กับเด็กๆ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงบัตรเจ้าหน้าที่ ปปส.พร้อมแจ้งหมายการเข้าตรวจค้นให้นางประดับทราบ แล้วจึงทำการตรวจค้นในบ้าน โดยมีนางประดับ ร่วมตรวจค้นไปด้วยกัน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ อาไอซ์ และยาอี จำนวนหนึ่งอยู่ภายในบ้าน จึง เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และได้ประสานเจ้าหน้าที่ EOD นำเครื่อง GT 200 บรรจุกการ์ด ตรวจหาสารยาเสพติดเข้าแสกนตรวจค้นภายในบ้าน ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พยามเดินตรวจอยู่หลายรอบเพื่อความแน่ใจ แต่ทุกครั้งที่เดินผ่านเครื่อง GT 200 ได้ชี้ยืนยันไปที่รถยนต์นั่งส่วนตัวของนาย วรวุฒิ ยี่ห้อ ฮ้อนด้า ซิตี้ สีดำ ทะเบียน ศอ-4645 กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวในเบื้องต้นยังไม่พบ จึงได้ เชิญตัวนาง นางประดับ ในฐานะเจ้าของบ้าน ไปให้ปากคำ พร้อมทำการตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าว ไปทำการตรวจค้นอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถานีตำรวจภูธร สุไหงโก-ลก และได้ให้นางประดับพยายามติดต่อให้นาย วรวุฒิ หรือนายมะอารงค์ มะนอ เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก ต่อไป

นอกจากนี้หากนายวรวุฒิ หรือ นาย มะอารงค์ ไม่มาพบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการออกหมายจับต่อไป และเตรียมทำการยึดทรัพย์สินภายในบ้านพร้อมรถยนต์และ จยย. มูลค่ารวมกว่า 5,000,000 บาท ( ห้าล้านบาท) ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่า ทรัพย์สินดังกล่าว ได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติด.

หน่วยปราบยาเสพติดภาคเหนือหน้าแตก! จับยาไอซ์ปลอม5.4ก.ก.

ศูนย์อำนวยการประสานงานและแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ(ศอ.ปชน.) รัฐบาลชุดนี้จัดตั้งขึ้นสกัดยาเสพติดในพื้นที่ 14 อำเภอชายแดนของ 3 จังหวัดภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ เชียงราย และ แม่ฮ่องสอน ในรอบ 1ปีที่ผ่านมา ศอ.ปชน.ส่งหน่วยทหารออกจับขบวนการค้ายาเสพติดตามตะเข็บชายแดน เพื่อป้องกันการลำเลียงยาเข้ามา และมีการแถลงจับแบบวันต่อวัน

โดยเฉพาะการแถลงข่าวใหญ่ จับกุมยาไอซ์ล็อตใหญ่น้ำหนัก 5.4 กิโลกรัม ถ้าจำหน่ายในเมืองไทยคิดเป็นมูลค่ากว่า 27 ล้านบาท ปรากฎว่าผลการพิสูจน์ภายหลังกลายเป็นของปลอมทั้งล็อต

เหตุเกิดเมื่อประมาณ 01.30 น. วันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา ทหารพรานชุดปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ส่วนแยก 1 กองทัพ ภาคที่ 3 จ.เชียงใหม่ สกัดจับผู้ต้องหา 3 ราย คือ ส.อ.สุคนธ์ กองเมือง อายุ 48 ปี อดีตทหารพรานกรม 36 อ.แม่อาย นายคำมูล ยอมคำ อายุ 52 ปี และนายสว่าง หิมะเวช อายุ 54 ปี ทั้ง 3 คน เป็นราษฎร อ.ฝาง เชียงใหม่ พร้อมยาไอซ์ 5.4 กิโลกรัม ขณะลักลอบใช้รถกระบะสองคันขนมาจากกลุ่มว้า บริเวณชายแดนไทย-พม่า ถูกจับกุมได้บริเวณถนนสายเลี่ยงเมืองเส้นทางท่าตอน - ฝาง - ดอยวาวี

หลังจับกุมตัวและขยายผลไปจนถึงผู้ว่าจ้างจนครบแก๊ง เจ้าหน้าที่นำตัวพร้อมของกลางมาเปิดแถลงข่าวใหญ่โตที่กองกำลังผาเมือง จ.เชียงใหม่ ช่วงสายวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยนายคำมูลหนึ่งในผู้ต้องหามีสีหน้าอมยิ้มระหว่างนำมาแถลงข่าว ซึ่งต่อมา ผลตรวจยืนยันชัดว่าของกลางที่นำมาแถลงข่าวนั้นเป็นของปลอม

พ.ต.ท.วสันต์ ขุนคำ สารวัตรเวร สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เจ้าของคดี กล่าวว่า หลังชุดจับกุมส่งมอบของกลางและผู้ต้องหามาให้ตนซึ่งเป็น พนักงานสอบสวนส่งดำเนินคดี ขั้นตอนหลังจากนั้นตนได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน และมีการนำยาไอซ์ที่จับกุมมาส่งตรวจวิเคราะห์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ การแพทย์เชียงใหม่ เพื่อประกอบสำนวนการส่งฟ้อง แต่ผลตรวจที่ออกมาพบว่ายาไอซ์ดังกล่าวเป็นของปลอม เพราะไม่มีสารเสพติดชนิดเมดแอมเฟตตามีน ประกอบอยู่เลย แม้เจือจางก็ไม่มี ผลตรวจยืนยันที่ออกมาดังกล่าว ส่งผลให้อัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดเพราะดำเนินคดีเอาผิดไม่ได้

ด้านนายพรเทพ เอี่ยมประไพ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)ภาค 5 กล่าวว่า ในวันที่จับกุมนั้นมีการตรวจสอบ ยาไอซ์ที่ตรวจยึดมาในเบื้องต้น โดยใช้ชุดตรวจทดสอบพื้นฐานพบว่าออกฤทธิ์ช้า น่าจะมีเมดแอมเฟตตามีนคลอไรด์เจือจาง แต่รูปลักษณ์ภายนอกมีลักษณะ เป็นเกล็ดสีขาวคล้ายกับยาไอซ์จริง เมื่อจับดูพบว่ามีความชื้นเหมือนไอซ์บริสุทธิ์ทั่วไปแต่ไม่ได้ทดลองเสพ แต่ขณะนี้ทราบว่าพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวยาไป ตรวจพิสูจน์เพื่อยืนยันผลและให้ทราบแน่ว่าเป็นสารเสพติดประเภทใด เพราะผู้เสพอาจเสียชีวิตได้หากเป็นตัวยาที่อันตราย