คนดังของโลกวอนบริจาคเงินช่วยเฮติ

คนดังของโลกวอนบริจาคเงินช่วยเฮติ

คนดังของโลกวอนบริจาคเงินช่วยเฮติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักการเมืองและผู้มีชื่อเสียงต่างพากันออกมาวิงวอนขอเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติ ขณะที่สถานการณ์สับสนวุ่น วายยิ่งขึ้น ประชาชนออกปล้นสะดมภ์ตามถนนด้วยความหิวโหย ขณะจนท.เร่งค้นหาผู้รอดชีวิตและกำจัดศพที่เริ่มส่งกลิ่นเหม็นทั่วเมืองหลวง เลขาฯยูเอ็นจะเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเฮติ

(16ม.ค.) อดีตประธานาธิบดีคนดังของสหรัฐ บิล คลินตัน และในฐานะเป็นทูตพิเศษยูเอ็นประจำเฮติ ได้ออกมาวิงวอนขอเงินบริจาคผ่านทางโทรทัศน์เช่นเดียวกับ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐมิเชล โอบามา ขณะที่นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ของอังกฤษก็ออกมาวิงวอนขอให้ชาวอังกฤษและชาวโลกช่วยเหลือชาวเฮติ

ความช่วยเหลือจากบรรดาคนดังในสหรัฐ ยังคงหลั่งไหลไปช่วยเหลือชาวเฮติ อย่างดาราสาวเจ้าบทบาท ซานดร้า บูลล็อค ประกาศบริจาคเงินส่วนตัว 1 ล้านดอลลาร์ให้ผู้ประสบภัยในเฮติโดยเงินจำนวนนี้จะถูกส่งให้กับกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนที่กำลังปฏิบัติการฉุกเฉินอยู่ในกรุงปอร์โตแปรงซ์

ทางด้านมาดอนน่า ก็ประกาศบริจาค 250,000 ดอลลาร์ โดยจะส่งมอบให้กับกลุ่ม พาร์ทเนอร์ส อิน เฮลท์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ในเฮติ หลังจากที่ กลุ่ม Not On Our Watch ที่ก่อตั้งโดยจอร์จ คลูนีย์ ,แบรด พิตต์และคนอื่น ๆ บริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ให้ไปก่อนหน้านี้ มาดอนนา บอกด้วยว่าจะช่วยระดมเงินจากเพื่อนพ้องและ แฟนเพลงทั่วโลกมาช่วยสมทบอีก

ขณะที่มูลนิธิ ไทเกอร์ วู้ดส์ ของนักกอล์ฟคนดังที่กำลังตกเป็นข่าวอื้อฉาว ระบุว่าทางมูลนิธีมีแผนช่วยเหลือเฮติฟื้นฟูความเสียหาย ด้วยการสนับสนุนองค์กรต่าง ๆ แต่ยังไม่ยืนยันข่าวที่ รัสเซลล์ ซิมมอนส์ เจ้าพ่อวงการแร็ปเขียนในทวิตเตอร์ว่า วู้ดส์จะบริจาคเงินเพื่อช่วยเฮติฟื้นฟูประเทศ 3 ล้านดอลลาร์

ทางด้านประชาชนผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในกรุงปอร์โตแปรงซ์ของเฮติ ต่างตกอยู่ในความหวาดผวากันหนักขึ้น หลังที่มีกลุ่มคนพกมีดออกมาปล้นสะดมภ์ตามท้องถนน ขณะที่ความโกรธแค้นและความไม่พอใจของประชาชนยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เพราะยังไม่ได้รับความช่วยเหลือทั้งน้ำและอาหารหลังผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวมานาน 3 วัน และยังต้องอยู่ท่ามกลางซากศพที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งไปทั่วเมือง

เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นที่ทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยบอกว่า ความโกรธแค้นของประชาชนกำลังรุนแรงขึ้น เพราะการส่งความช่วยเหลือยังเป็นไปอย่างล่าช้า พร้อมทั้งเตือนให้ขบวนรถขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้เพิ่มเจ้าหน้าที่คุ้มกันเพราะอาจถูกปล้น

ทหารสหรัฐ 1 หมื่นนายได้เริ่มเดินทางมาถึงเฮติเพื่อเข้าควบคุมสนามบินในกรุงปอร์โตแปรงซ์ที่มีสิ่งของบรรเทาทุกข์กีดขวางอยู่หลายตัน ทำให้เครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้ และเริ่มแจกจ่ายข้าวของให้กับผู้ประสบภัยเป็นการด่วนเพื่อพยายามป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น ทางด้านเจ้าหน้าที่โครงการอาหารโลกได้เร่งแจกจ่ายอาหารให้กับผู้ประสบภัยคาดว่าจะสามารถแจกจ่ายให้ได้ถึง 1 ล้านคนใน 15 วัน

ประธานาธิบดี เรเน เปรวาล ของเฮติได้แสดงความชื่นชมกับความช่วยเหลือจากนานาชาติที่หลั่งไหลไปช่วย แต่บอกว่าตอนนี้เกิดปัญ หาเรื่องการประสานงานทำให้ความช่วยเหลือยิ่งล่าช้า จึงขอให้เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกทำงานภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลเฮติ เพื่อให้การแจกจ่ายสิ่งของมีประสิทธิภาพที่สุด

ขณะที่ประเทศต่างๆได้รายงานตัวเลขพลเมืองที่เสียชีวิตที่เสียชีวิตและสูญหายหลายร้อยคนรวมถึงยูเอ็นที่มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 37 ราย สูญหาย 330 ราย ส่วนสหรัฐยังติดต่อพลเมืองกว่า 44,000 คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ไม่ได้ เช่นเดียวกับแคนาดาที่ยังติดต่อพลเมืองของคน 1,400 คนไม่ได้เช่นกัน

ด้านนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็นจะเดินทางไปที่กรุงปอร์โตแปรงซ์ของเฮติเป็นเวลา 1 วันในวันอาทิตย์นี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ยูเอ็นและแสดงถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชาวเฮติที่กำลังประสบกับภัยพิบัติครั้งร้ายแรง พร้อมกันนี้ยูเอ็นยังได้ร้องขอความช่วยเหลือ 562 ล้านดอลลาร์หรือราว 19,000 ล้านจากประเทศผู้บริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย

รัฐมนตรีสาธารณสุขเฮติ นาย อเล็กซ์ ลาร์เซนบอกว่า แผ่นดินไหวขนาด 7 ริคเตอร์ที่ถล่มกรุงปอร์โตแปรงซ์เมื่อวันอังคารทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 5 หมื่นราย บาดเจ็บกว่า 250,000 คน ทำให้ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยอีกกว่า 1 ล้าน 5 แสนคน

แผ่นดินไหวครั้งนี้ยังทำให้อาคารสำนักงานใหญ่ของยูเอ็นในเฮติพังถล่มลงมาด้วย ทำให้มีเจ้าหน้าที่ 37 คนจากทั้งหมด 12,000 คนเสียชีวิตและยังสูญหายอยู่อีก 330 คน ในจำนวนผู้สูญหายยังรวมถึงนาย เฮดี อันนาบี ชาวตูนิเซียหัวหน้าฝ่ายพลเรือนของยูเอ็นในเฮติ และนายลูอิซ คาร์ลอส เดอ คอสตา รองหัวหน้าชาวบราซิลด้วย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากนานาชาติและของเฮติกำลังเร่งค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังในกรุงปอร์โตแปรงซ์ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักแผ่นดินไหวขนาด 7 ริคเตอร์เมื่อวันอังคาร ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ผู้เคราะห์ร้ายที่ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอาจเริ่มเสียชีวิตแล้วหากพวกเขาไม่ได้ดื่มน้ำเลยนาน 3-4 วัน นั่นหมายความว่าตอนนี้โอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตกำลังหมดไป แต่เมื่อวานนี้ผู้สื่อข่าวทีวีชาวออสเตรเลียได้ช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 16 เดือนออกมาจากซากบ้านของเธอหลังจากติดอยู่นาน 68 ชั่วโมง

ทีมกู้ภัยได้ใช้เครื่องกลหนักในการเก็บกู้ศพออกจากซากปรักหักพัง และตอนนี้มีศพจำนวนมากกองพะเนินอยู่ตามท้องถนน มีรายงานว่ากลิ่นศพเริ่มอบอวลไปทั่วทั้งกรุงปอร์โตแปรงซ์ ท่ามกลางสภาพอากาศที่เริ่มร้อนขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องรีบกำจัดศพด้วยการใช้รถขยะเผาศพคราวละจำนวนมาก

ขณะที่ทางการเฮติยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายได้ ประธานาธิบดีเรเน เปรวาลของเฮติคาดว่าจะมีมากถึง 5 หมื่นราย จนถึงตอนนี้ได้มีการฝังศพเหยื่อไปแล้ว 7 พันราย

เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์จากนานาชาติยังคงพยายามรีบลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือไปให้ผู้รอดชีวิต แต่ความช่วยเหลือจากทั่วโลกยังส่งไปถึงเฮติด้วยความล่าช้า เพราะทั้งสนามบินและท่าเรือในกรุงปอร์โตแปรงซ์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกว่าความวุ่นวายจะรุนแรงมากขึ้นจากความโกรธแค้นของผู้ประสบภัยที่เริ่มสิ้นหวังมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะความช่วยเหลือและการกู้ภัยยังเป็นไปอย่างล่าช้า มีรายงานว่าประชาชนเริ่มตีกันจากการแย่งกันเข้าไปคุ้ยหาอาหารจากซากปรักหักพังเพื่อประทังชีวิต ขณะที่การปล้นสะดมภ์เริ่มแผ่ขยายวงกว้างขึ้นและมีการปล้นฆ่าเพื่อแย่งชิงอาหารและทรัพย์สิน

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook