พบศพเจ้าหน้าที่จีน8รายใต้ซากแผ่นดินไหวเฮติ
ผู้นำเฮติขอบคุณนานาชาติระดมช่วย คาดมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 2 แสนคน บัน คี มุน-ฮิลลารี เยี่ยมเหยื่อแผ่นดินไหวเฮติ นักข่าวออสซี่ กลายเป็นฮีโร่ ช่วยทารกติดซากตึกนาน 3 วันรอดปาฏิหาริย์ สหรัฐยกพลขึ้นบกหมื่นคนเร่งช่วยผู้ประสบภัย มาดอนนา-นางแบบดังสบทบเงินช่วย นักมายากลชื่อก้องประกาศแสดงกล 3 วัน 3 คืน ระดมเงินช่วย
ในขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังทำงานแข่งกับเวลาในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติ ในทะเลแคริบเบียน ทวีปอเมริกาเหนือ ล่าสุด นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีกำหนดเดินทางเยือนเฮติในวันที่ 17 มกราคมนี้ เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับชาวเฮติที่ประสบความทุกข์ยากแสนสาหัส ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตประเมินไว้ราว 5 หมื่นคน บาดเจ็บกว่า 2.5 แสนคน และไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 1.5 ล้านคน
นายบันกล่าวว่า การเดินทางไปยังกรุงปอร์โตแปรงซ์ เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวเฮติ และเจ้าหน้าที่ยูเอ็น ซึ่งประสบความสูญเสียอย่างหนักทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ และเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพ ที่ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 37 คน จากทั้งหมด 1.2 หมื่นคน ที่ประจำการอยู่ในเฮติ นอกจากนี้ยังสูญหายอีกกว่า 330 คน โดยในจำนวนนี้รวมถึงนายเฮดี อันนาบิ ชาวตูนีเซีย หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน และผู้ช่วยที่ยังสูญหายอยู่
การเดินทางเยือนของนายบันมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่นายจอห์น โฮล์มส์ รองเลขาธิการสหประชาชาติ ฝ่ายกิจการมนุษยธรรม และบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน ได้ออกมาเรียกร้องขอเงินบริจาคจากทั่วโลกให้ได้ 562 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.8 หมื่นล้านบาท) ให้ได้ภายใน 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหวที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรกมากถึง 3 ล้านคน และจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือเร่งด่วน และความช่วยเหลือระยะยาวตลอดช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยในจำนวนนี้ 246 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะเป็นงบด้านอาหาร
พบศพเจ้าหน้าที่จีน8รายใต้ซากแผ่นดินไหวเฮติ
กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์กระทรวงฯ วันนี้ว่า พบศพเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพชาวจีนทั้งหมด 8 ศพที่ถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง จากเหตุแผ่นดินไหวในเฮติ ที่ทำให้อาคารสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติพังถล่มลงมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยทีมกู้ภัยจีนได้ร่วมมือกับทีมกู้ภัยชาติอื่นๆ ในการค้นหา และได้พบศพเจ้าหน้าที่จีนกลุ่มนี้เมื่อวันเสาร์ ซึ่งศพเหล่านี้จะได้รับการส่งกลับประเทศจีนเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ขณะเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันอังคาร ตำรวจชาวจีนทั้ง 8 รายที่เสียชีวิตอยู่ระหว่างการประชุมร่วมทูตยูเอ็น เฮดิ แอนนาบี ซึ่งมีภารกิจรักษาสันติภาพในเฮติ โดยในวันถัดมาจีนได้ส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำไปยังเฮติ พร้อมด้วยทีมกู้ภัย 60 นายและสิ่งของบรรเทาทุกข์ จีนมีเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพในเฮติราว 125 คน
ด้านผู้อำนวยการฝ่ายอเมริกาเหนือ กระทรวงต่างประเทศคิวบาประกาศว่า คิวบาพร้อมจะให้ความร่วมมือกับสหรัฐและนานาชาติ ในการปฏิบัติภารกิจกู้ภัยช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหวในเฮติ โดยจะอนุญาตให้ทีมกู้ภัยสหรัฐบินผ่านน่านฟ้าของคิวบาเพื่อไปปฏิบัติภารกิจกู้ภัยในเฮติ ซึ่งจะทำให้ประหยัดเวลาการเดินทางถึง 90 นาที นอกจากนี้ คิวบายังได้เสนอให้นานาชาติใช้สาธารณูปโภคทางการแพทย์ของคิวบาในการรักษาผู้บาดเจ็บหลายพันคนจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ และได้ส่งแพทย์ราว 60 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไปยังกรุงปอร์โตแปงค์ของเฮติแล้ว ครั้งหลังสุด ที่คิวบาอนุญาตให้เครื่องบินสหรัฐบินผ่านน่านฟ้า คือหลังเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายนปี 2544
เทพไทเผยกต.เตรียมประชุมช่วยเฮติเพิ่ม
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพาดพิงถึงการอนุมัติงบประมาณในการช่วยเหลือประเทศเฮติที่ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหว ที่กระทรวงการต่างประเทศได้อนุมัติงบฯช่วยเหลือไป 20,000 ดอลล่าสหรัฐซึ่งถูกวิจารณ์ว่าน้อยเกินไปนั้น ขอยืนยันว่า เป็นแค่การช่วยเหลือตามระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศเบื้องต้นตามขอบเขตอำนาจ
วันอังคารที่ 19 ม.ค.นายกฯได้สั่งการเรียกประชุมคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในต่างประเทศ ที่มีกระทรวงการต่างประเทศเป็นแม่งาน ซึ่งถูกแต่งตั้งขึ้นก่อนหน้านี้ เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือประเทศเฮติต่อไป ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่ระบุว่า ไทยน่าจะบริจาคข้าวสารในฐานะประเทศเกษตรกรรม ซึ่งตรงกับแนวคิดของนายกฯที่ตั้งไว้ และเชื่อว่าจะเป็นการส่งเสริมระบายสินค้าเกษตรของไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วย และจะส่งผลให้มีราคาสูงขึ้นตามมา แต่ทั้งนี้ต้องมีการประชุมคณะกรรมการนี้ก่อน รวมถึงการจะเปิดโอกาสให้คนไทยได้บริจาคสิ่งของเพื่อส่งไปช่วยเหลือประชาชนชาวเฮติได้ตามความต้องการอีก
ฮิลลารีเยือน-ทหารมะกันขึ้นฝั่งหมื่นคน
ขณะเดียวกัน นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ผู้ประกาศให้ความช่วยเหลือครั้งใหญ่แก่เฮติ ได้เดินทางถึงพื้นที่ประสบภัยในวันเสาร์ เพื่อหารือกับประธานาธิบดีเรเน พรีวาลแห่งเฮติ ตลอดจนเจ้าหน้าที่รัฐบาล เจ้าหน้าที่สหรัฐ และเจ้าหน้าที่ยูเอ็น เกี่ยวกับภารกิจช่วยเหลือกู้ภัยในช่วงที่ความช่วยเหลือจากนานาประเทศกำลังเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้กองทัพสหรัฐ กำลังเตรียมนำทหารราว 1 หมื่นคน ขึ้นฝั่งเฮติในวันจันทร์นี้เพื่อให้ความช่วยเหลือ และป้องกันเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นจากฝีมือของผู้รอดชีวิตที่ดิ้นรนเอาชีวิตรอด เช่นการปล้นสะดมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ขณะที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือในการฟื้นฟูเฮติระยะยาว
ผู้นำเฮติขอบคุณนานาชาติช่วยเหลือ
ประธานาธิบดีเรเน เปรวาล แห่งเฮติ ที่ต้องใช้สำนักงานตำรวจที่ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ เป็นที่พักพิงและศูนย์บัญชาการแทนเนื่องจากทำเนียบประธานาธิบดีพังพินาศไปกับเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ กล่าวชื่นชมนานาชาติที่ส่งมอบความช่วยเหลือจำนวนมากมาให้แก่ผู้ประสบภัยชาวเฮติ โดยเครื่องบินบรรเทาทุกข์จำนวน 74 ลำจากประเทศต่างๆ รวมถึงสหรัฐ ฝรั่งเศส และเวเนซุเอลา เดินทางถึงกรุงปอร์โตแปรงซ์แล้ว
ผู้นำเฮติกล่าวว่า ปัญหาของปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยยังคงติดขัดอยู่ที่การประสานงาน ซึ่งในส่วนของรัฐบาลเฮติทำได้คือ การขอให้เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์จากชาติต่างๆ ทำงานร่วมกับคณะกรรมาธิการที่ทางการเฮติตั้งขึ้น เพื่อความมั่นใจว่าการนำความช่วยเหลือที่ประชาคมระหว่างประเทศส่งมาให้ผู้ประสบภัยนั้นจะดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ รัฐบาลเฮติยังได้ให้อำนาจควบคุมเหนือสนามบินหลักในกรุงปอร์โตแปรงซ์แก่กองกำลังทหารสหรัฐ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างคล่องตัวรวดเร็วยิ่งขึ้น
คาดผู้เสียชีวิตสูงถึง 2 แสน
ด้านเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์กล่าวเตือนว่า หากไม่สามารถนำความช่วยเหลือไปให้ถึงมือผู้ประสบภัยชาวเฮติที่มีอยู่จำนวนมากโดยเร็วแล้ว กรุงปอร์โตแปรงซ์ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ อาจจะตกอยู่ในความไม่สงบได้
นายพอล อันตวน เบียง-ไอเม รัฐมนตรีมหาดไทยเฮติ กล่าวว่า ขณะนี้ศพผู้เสียชีวิตที่รวบรวมได้มีอยู่ราว 5 หมื่นศพ คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจมีมากถึง 1 แสน-2 แสนราย ส่วนจำนวนผู้บาดเจ็บอยู่ที่ราว 2.5 แสนคน ไร้ที่อยู่อาศัยอีกเกือบ 1.5 ล้านคน ขณะที่นายอารามิค หลุยส์ รัฐมนตรีต่างประเทศดูแลกิจการความปลอดภัยสาธารณะ กล่าวว่า มีการฝังศพหมู่ผู้เสียชีวิตไปแล้วราว 4 หมื่นศพ ทั้งนี้ หากตัวเลขผู้เสียชีวิตที่มีการคาดการณ์กันไว้ดังกล่าวถูกต้อง เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้จะกลายเป็น 1 ใน 10 ของธรณีพิบัติครั้งเลวร้ายที่สุดของโลกที่มีการบันทึกไว้
นักข่าวออสซี่ฮีโร่ช่วยทารกติดซากตึก 3 วัน
นายไมค์ อาเมอร์ นักข่าวสถานีโทรทัศน์ของออสเตรเลีย ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ช่วยชีวิตผู้ติดอยู่ใต้ซากอาคารถล่มในเฮติ โดยระหว่างสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิตในกรุงปอร์โตแปรงซ์ นายอาเมอร์ได้ยินเสียงเด็กร้องดังออกมาจากใต้ซากบ้าน 2 ชั้นที่พังถล่มลงมา จึงรีบรื้อซากปรักหักพังและช่วยเด็กหญิงวินนี่วัย 16 เดือนออกมาได้สำเร็จ โดยเด็กมีอาการกระหายน้ำเป็นอย่างมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหนึ่งกล่าวว่า หนูน้อยมีจิตวิญญาณในการเอาชีวิตรอดที่ดีมาก จึงสามารถทนอดน้ำได้ถึง 3 วัน จนกระทั่งได้รับการช่วยให้รอดชีวิต
ส่วนทีมกู้ภัยของชิลี แถลงว่าสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตขึ้นมาจากซากอาคารโรงแรมมอนแทนา โรงแรมใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงได้แล้ว 23 คน แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นคนประเทศใดบ้าง โดยปกติโรงแรมอายุ 98 ปีแห่งนี้มักเป็นที่พักของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ชาวต่างชาติ ส่วนทีมกู้ภัยของฝรั่งเศส และสหรัฐ ก็สามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้หลายสิบคนแล้วเช่นกัน ท่ามกลางความวิตกว่า เวลาที่ผ่านไปนานกว่า 72 ชั่วโมง อาจทำให้โอกาสพบผู้รอดชีวิตเพิ่มริบหรี่ลงไปทุกที
ช่วยหญิงท้องออกจากซากตึกได้แล้ว
ขณะเดียวกันหญิงตั้งครรภ์วัย 43 ปีชาวเฮติ ได้รับการช่วยเหลือจากกองกำลังรักษาสันติภาพของบราซิลในกรุงปอร์โตแปรงซ์ หลังจากติดอยู่ใต้ซากอาคารโรงพยาบาลเด็กที่พังถล่มลงมาเพราะแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริคเตอร์ นานเกือบ 70 ชั่วโมง โดยภาพนี้ ถูกบันทึกโดยผู้สื่อข่าวหญิงของ ทีวี โกลบัล ที่เข้าไปถ่ายทำสถานการณ์ ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ โดยมีทหารของสหประชาชาติคอยอารักขา ซึ่งเธอได้ขอให้ทหารหยุดเดิน ตอนที่เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังร้องขอความช่วยเหลืออยู่บนกองซากอาคาร และมีคนกว่า 10 คน กำลังมุงดูอยู่รอบช่องเล็ก ๆ และบอกว่า มีเสียงคนร้องมาจากใต้ซากหิน
ภายหลังพบว่า หญิงที่ร้องขอความช่วยเหลือชื่อ จีน บาทิสเต้ เป็นพยาบาลที่ทำงานอยู่ภายในโรงพยาบาล ที่เดิมเป็นอาคารขนาด 5 ชั้น ทหารและหน่วยดับเพลิงของบราซิลต้องใช้เวลาเกือบ 3 ชั่งโมง ในการนำร่างของหญิงผู้นี้ออกมา และนำตัวส่งโรงพยาบาลทหารของบราซิล เพื่อรักษาอาการขาดน้ำและบาดเจ็บอื่น ๆ มีรายงานด้วยว่า สามีของหญิงผู้นี้ก็ทำงานอยู่ในอาคารตอนเกิดเหตุ และเขาก็ปลอดภัยด้วยเช่นกัน ส่วนหญิงผู้นี้และลูกในครรภ์ของเธอ ต่างกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
ต้องการอาหาร-น้ำ-แพทย์มากที่สุด
คณะกรรมการกาชาดสากล (ไอซีอาร์ซี) แถลงว่า ในภารกิจการช่วยเหลือเฮติขณะนี้ ต้องการอาหาร น้ำ และความช่วยเหลือทางการแพทย์มากที่สุด โดยขณะนี้ผู้ประสบภัยต้องนอนกลางแจ้งมาเป็นคืนที่สามแล้ว ขณะที่คนเจ็บก็มีมากเกินความสามารถของแพทย์ ในขณะที่เวลาที่ผ่านไปนานก็ทำให้ผู้รอดชีวิตที่ขาดน้ำและอาหารเป็นเวลานานกว่า 3-4 วันยิ่งลดลงไปอีก อีกทั้งการขาดแคลนไฟฟ้า และน้ำมันสำหรับรถยนต์การแพทย์ก็ยิ่งทำให้ความช่วยเหลือยิ่งแย่ลงไปอีก
ระดมเทคโนโลยีช่วยเหยื่อเฮติ
หลังจากที่ข่าวกระจายไปทั่วโลกเรื่องการร้องขอความช่วยเหลือ บรรดาบริษัทห้างร้านต่างหันมาใช้เทคโนโลยี เช่น แผนที่ออนไลน์ การบริจาคเงินทางโทรศัพท์มือถือ และเว็บไซต์ต่างๆ เป็นเครื่องมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติ
เว็บไซต์กูเกิล ที่บริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33 ล้านบาท) สำหรับภารกิจกู้ภัย และบรรเทาทุกข์ ได้เสนอให้ใช้แผนที่ออนไลน์ และเครื่องมือภาพถ่ายดาวเทียมแก่เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ เพื่อให้สามารถประเมินความเสียหาย และประสานงานบรรเทาทุกข์ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กูเกิลยังสร้างเว็บเพจที่เชื่อมโยงผู้คนกับองค์กรการกุศลต่างๆ เช่น สภากาชาดอเมริกัน และองค์กรแพทย์ไร้พรมแดนอีกด้วย
ส่วนบริษัทแอปเปิลได้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานไอทูนส์ โปรแกรมเล่นเพลงของแอปเปิล ร่วมบริจาคเงินจากบัญชีร้านเพลงออนไลน์ให้สภากาชาดโดยตรงตั้งแต่ 5-200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 165-6,600 บาท) ขณะเดียวกันเงินบริจาคหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็หลั่งไหลไปยังสภากาชาด และองค์กรเยเล ที่ก่อตั้งโดย ไวเคลฟ ฌอง นักร้องฮิพฮอพ ชาวเฮติ และองค์กรการกุศลอื่นๆ หลังจากบริษัทโทรศัพท์มือถือในสหรัฐช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถบริจาคเงินช่วยผู้ประสบภัยได้ง่ายผ่านการส่งข้อความสั้น โดยกลุ่มเยเล และ เฮล์พ เฮติ ยังกลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ซึ่งผู้ใช้ทวิตเตอร์ ต่างวิงวอนให้ผู้อื่นร่วมบริจาคเงินผ่านการส่งข้อความ
ส่วนบริษัทไมโครซอฟท์ บริจาคเงินช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหวมูลค่า 1.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 41 ล้านบาท) และจับมือกับเน็ตโฮป เพื่อประสานงานกับองค์การด้านมนุษยธรรมเช่นเดียวกับซิสโก และอินเทล ที่เชื่อมโยงอินเทอร์เน็ตในการช่วยเหลือ
โดมินิกันรับช่วยเหลือกผู้อพยพและผู้บาดเจ็บเฮติ
วิกฤติที่เกิดขึ้นในเฮติ กำลังส่งสัญญาณข้ามไปถึงเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐโดมินิกันแล้วจากการที่เหยื่อแผ่นดินไหวหลายร้อยคน พากันข้ามชายแดนไปขอความช่วยเหลือ และการรักษาทางการแพทย์ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองจิมานี่ ที่อยู่ชายแดน ต้องรองรับเหยื่อแผ่นดินไหวมากกว่า 300 คน ที่ท่วมท้นตึกผู้ป่วยที่มีเพียง 30 เตียงเท่านั้น ทำให้หลายคนต้องแบ่งที่กันนอนบนพื้นและโถงทางเดินของโรงพยาบาล
แพทย์ของโรงพยาบาลต้องรับมือกับผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาล จำเป็นต้องบอกให้นำผู้บาดเจ็บบางคนไปที่อื่นบ้าง แต่รถพยาบาลก็ยังคงนำผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างไม่ขาดสาย นายแพทย์ทีโอฟิลโล่ฟิคาร์โด กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นสถานการณ์ขั้นวิกฤติ มีผู้ป่วยเต็มไปหมดทุกพื้นที่ ไม่มีแม้แต่ทางที่จะเดิน
การคมนาคมสื่อสาร ระหว่างแพทย์ของโรงพยาบาล ที่มีจำนวน 60 คน และผู้ป่วยเป็นไปอย่างจำกัด และจำเป็นต้องใช้ล่าม ทหารต้องเข้าอารักขาบริเวณชายแดนระหว่างสองประเทศ และพยายามทำอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ในขณะที่ชาวเฮติผู้หิวโหยและไร้ที่อยู่อาศัย เดินทางข้ามไปยังเมืองชายแดน ในขณะที่ยังไม่ทราบตัวเลขที่แท้จริงของผู้เสียชีวิตนั้น รถบรรทุกศพหลายคน ยังคงนำศพไปทิ้งในหลุมขนาดใหญ่นอกเมืองอย่างไม่ขาดสาย โฆษกหญิงของสหประชาชาติ ได้ประกาศให้เหตุแผ่นดินไหวที่วัดความรุนแรงได้ 7.0 ริคเตอร์นี้ เป็นหายนะภัยที่เลวร้ายที่สุดอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อนเพราะทั้งหน่วยงานรัฐบาลและของสหประชาชาติ ก็ถูกทำลายไปด้วย
เดวิด เบลน แสดงมายากลมาราธอน ช่วยเฮติ
ในส่วนของความช่วยเหลือจากคนดังในวงการบันเทิง ล่าสุด เดวิด เบลน นักมายากลชื่อดัง ได้จัดการแสดงมายากลมาราธอนเป็นเวลา 72 ชั่วโมง ที่ย่านไทม์สแควร์ของสหรัฐ เพื่อหาเงินช่วยผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวที่เฮติ โดยจะจัดต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน ให้ผู้ชมทุกคนได้ชม เพื่อแลกกับเงินบริจาคให้แก่กาชาดสากล เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติ นอกจากนั้นผู้ที่ประสงค์จะช่วยเหลือยังบริจาคเงินได้โดยผ่านเว็บไซต์ของตัวเองได้ด้วย
นายเบลนกล่าวว่า เคยไปแสดงกลที่เฮตินานถึง 10 วัน ทั้งที่แต่แรกคิดเพียงจะแค่ไปชมไสยศาสตร์มนต์ดำ หรือวูดู ที่เฮติ เท่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในเฮติขณะนี้ ทำให้นอนไม่หลับ คิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะช่วยชาวเฮติได้อย่างไร จึงได้จับมือกับกาชาดสากลจัดการแสดงมายากลครั้งนี้ขึ้น
ขณะเดียวกัน มาดอนนา นักร้องชื่อดังประกาศบริจาคเงิน 2.5 แสนดอลลาร์สหรัฐ และ จิเซล บุนด์เช่น ซูเปอร์โมเดลคนดังให้เงินอีก 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหวด้วย