นักเรียนหญิง ม.5 ถูกเพื่อนร่วมห้อง เอาคัตเตอร์กรีดหน้าเหวอะ เผยปมทะเลาะทั้งที่เคยสนิทกัน

นักเรียนหญิง ม.5 ถูกเพื่อนร่วมห้อง เอาคัตเตอร์กรีดหน้าเหวอะ เผยปมทะเลาะทั้งที่เคยสนิทกัน

นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กันจอมพลัง นำตัวนักเรียนหญิงอายุ 16 ปี และผู้ปกครอง เข้าประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สถานศึกษา และส่วนราชการที่เกี่ยว ที่ห้องประชุม สภ.ขุนทะเล ต. ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ เมื่อเวลา 10:00 น. วันที่ 28 มิ.ย.66 เพื่อช่วยติดตามคดีให้กับเด็กหญิงรายนี้ หลังมีผู้ปกครองของเด็กหญิงวัย 16 ปี ขอความช่วยเหลือผ่านเพจกันจอมพลัง กรณีทะเลาะกับเพื่อนแล้วเพื่อนเอาคัดเตอร์กรีดหน้าตั้งแต่เบ้าตายาวถึงลำคอ กรีดแขน และ แทงลำตัว โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่งตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา ก่อนที่ครูจะนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาล

สำหรับผู้บาดเจ็บ คือ น.ส.ณิชาพัชตร์ อายุ 16 ปี เรียนชั้น ม.5/3  ส่วนคนที่กรีดหน้าเพื่อน คือ น.ส.สฐิตา อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนของ น.ส. ณิชาพัชตร์ และเรียนหนังสือห้องเดียวกัน โดยในวันนี้ มีนายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ. ศิริชัย สุขสาตต์ รองผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ปิยวัฒน์ บัวขาว ผกก.สภ. ขุนทะเล นายเชิดชาย ช่วงเสน ผอ.ยุติธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี นส.ชลลดา ชนะศรีรัตนกุล พมจ.สุราษฎร์ธานี และผอ.เขต พท.มัธยมศึกษา สุราษฎร์-ชุมพร และนายประยงค์ อินนุพัฒน์ ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุ เข้าประชุมร่วมกันกับกันจอมพลัง เพื่อหาทางออกร่วมกัน ในการให้ความช่วยเหลือ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ทาง กัน จอมพลัง กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากฝั่งผู้บาดเจ็บ ตนเองจึงได้รับปากที่จะให้ความช่วยเหลือโดยในวันนี้ได้นำตัวน้องผู้เสียหาย พร้อมกับ พ่อและแม่ เข้าหารือกับทางผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางช่วยเหลือ และเยียวยา ซึ่งการลงมาในวันนี้ไม่ได้มาเพื่อทุบใคร แต่อยากให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนให้กับทุกโรงเรียนในเรื่องการมีอาวุธมาในโรงเรียน พร้อมฝากถึงผู้ปกครองเมื่อลูกกระทำผิดจะกลายเป็นพ่อแม่รังแกฉันควร สอนลูกในทางที่ถูกต้อง และเตือนถึงน้องที่กระทำเพื่อนบาดเจ็บอย่าได้ไปโพสต์โซเชียลในลักษณะซ้ำเติมผู้บาดเจ็บ ซึ่งการเจรจาในวันนี้ก็มีทางออกที่ดีจากทุกภาคส่วน ทั้งเรื่องการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ การหาที่เรียนใหม่ให้กับเด็กที่บาดเจ็บเป็นต้น ซึ่งตอนนี้ทางพ่อแม่น้องที่กรีดหน้าเพื่อนได้ติดต่อมายังตนเองแล้ว ซึ่งก็รู้สึกกับเสียกับสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมที่จะชดเชยและเยียวยาผู้บาดเจ็บ โดยหลังจากนี้จะเป็นตัวกลางในการเจรจาของผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย

ด้านนางสาวเกษมณี แม่ของผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ที่ผ่านมาทางครอบครัวของน้องผู้เสียหายรู้สึกไม่สบายใจ และเกรงว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรมทางคดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็รับปากจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งก็ทำให้ทางครอบครัวผู้เสียหายสบายใจขึ้น ในส่วนของคู่กรณีนั้น ทางตนเองก็ได้รับประสานเบื้องต้นบอกว่าจะช่วยเหลือภายในสามวัน หลังจากเกิดเหตุ แต่ถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออะไร ส่วนลูกสาวตอนนี้ยังต้องล้างแผลทุกวันยังไม่สามารถไปคลีนิกศัลยกรรมภายนอกได้ และไม่กล้าที่จะกลับไปเรียนที่โรงเรียน ซึ่งจะหาโรงเรียนใหม่ให้ลูกเรียน ส่วนเรื่องคดียืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้านนายประยงค์ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุทางโรงเรียนเองไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิดข่าวแต่อย่างใด เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั่งแต่เริ่มเกิดเหตุทางครูที่ปรึกษาที่มาพบเหตุการณ์และตกใจกับเหตุการณ์ ที่เห็นนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บมีเลือดออกจำนวนมาก จึงได้เร่งนำตัวส่ง รพ. ค่ายวิภาวดี ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงเรียนมากที่สุดก่อนที่จะส่งรักษาต่อที่ รพ. สุราษฎร์ธานี ซึ่งตนเองก็ได้ตามไปดูแลนักเรียนที่บาดเจ็บจนมีอาการปลอดภัย และได้ประสานให้ครูอีกท่านหนึ่ง ไปดูแลนักเรียนที่ก่อเหตุที่หอพักที่ผู้ก่อเหตุพักอยู่ ซึ่งทางโรงเรียนเองก็ให้การดูแลทั้งสองฝั่งและประสานกับผู้ปกครองโดยตลอด ในส่วนของการเยียวยานั้น ทางสมาคมผู้ปกครองได้หารือกับทางโรงเรียนเพื่อหาแนวทางช่วยเหลืออยู่ในขณะนี้ คงต้องรอขอสรุปอีกครั้ง

ส่วนสาเหตุทราบว่าเดิมทีทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ในวิชานาฎศิลป์ ทำให้ต้องจัดกลุ่มอยู่และเกิดปัญหาในการจัดกลุ่ม จนทั้งคู่ได้มีการผิดใจกัน เกิดการโต้เถียงกันในแชต จนกลายเป็นความขัดแย้งกันจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ด้านความคืบหน้าของคดีนั้น ทาง พ.ต.อ.ปิยวัฒน์ ผกก.สภ.ขุนทะเล ให้ข้อมูลว่า หลังเกิดเหตุ ทาง พ.ต.ท. ประสิทธิ์แก้วกิ้ม สว.( สอบสวน ) สภ.ขุนทะเล ได้รับแจ้ง และรับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว ได้ประสานทาง รพ.สุราษฎร์ธานี เพื่อขอใบความเห็นการตรวจสอบบาดแผลของแพทย์ และประสานกับทางเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เพื่อสอบปากคำกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย รวมถึงพยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายต่อไป