จีนสั่งห้ามฉายอวตารหวั่นยั่วยุก่อความไม่สงบ
คณะกรรมการเซนเซอร์ของจีน ให้เหตุผลว่าพล็อตเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจเป็นนำไปสู่การก่อความไม่สงบขึ้นภายในประเทศ
หนังสือพิมพ์ แอปเปิลเดลี ของฮ่องกง รายงานว่า ไชน่า ฟิล์ม กรุ๊ป ซึ่งเป็น คณะกรรมการเซนเซอร์ของจีน มีคำสั่งให้โรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ยุติการฉาย "อวตาร" ภาพยนตร์สุดยอดสเปเชี่ยล เอฟเฟ็คเหนือจินตนาการ ที่คว้า 2 รางวัลใหญ่จากเวทีลูกโลกทองคำ และกำลังทำรายได้ถล่มทะลายทั่วโลก รวมทั้งในจีนที่ฉาย 8 วันแรก ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม ทำเงินไปแล้วถึง 300 ล้านหยวนหรือ กว่า 1,500 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่าพล็อตเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจเป็นนำไปสู่การก่อความไม่สงบขึ้นภายในประเทศ
แอปเปิล เดลี่ รายงานว่าความวิตกของทางการจีน น่าจะเกิดจากการที่ พล็อตของภาพยนตร์เรื่องนี้มีความคล้ายคลึงกันระหว่างชะตากรรมของชาวนาวีบนดาว แพนดอร่า กับชาวจีนที่ต้องดิ้นรนต่อสู้กับพวกนายทุนจากการถูกไล่ที่ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของนักวิจารณ์ภาพยนตร์หลายคนที่มองว่า เรื่องราวการต่อสู้ของชาวนาวีในการปกป้องดินแดนและวัฒนธรรมจากการรุกรานจากภายนอก เหมือนกับชาวจีนที่ต้องดิ้นรนต่อสู้กับรัฐบาล และพวกนายทุนในการปกป้องที่ดินของพวกเขา
แต่ ไชน่า ฟิล์ม กรุ๊ป สั่งห้ามฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในระบบธรรมดา และให้นำภาพยนตร์ชีวประวัติของขงจื้อ นักปราชญ์ชื่อดัง เรื่อง Confucius ที่นำแสดงโดยโจวหวินฟะมาฉายแทน แต่ยังคงให้ฉายในระบบ 3 มิติได้ เนื่องจากโรงภาพยนตร์ในระบบ 3 มิติในจีนยังมีน้อย เพื่อไม่ให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าถึงประชาชนอย่างกว้างขวาง
หนังสือพิมพ์ แอปเปิลเดลี รายงานด้วยว่า ทางการจีนมีเหตุผล 2 ข้อในการห้ามฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ ทำเงินมากเกินไป และแย่งส่วนแบ่งจากตลาดหนังภายในประเทศ และเหตุผลอีกข้อคือ อาจกระตุ้นให้ผู้ชมคิดถึงเรื่องการบังคับย้ายถิ่นที่อยู่ และอาจเป็นชนวนให้เกิดความรุนแรงได้
รายงานระบุว่า นับตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดฉายไปเมื่อวันที่ 4 มกราคม ทำรายได้จากการฉายวันแรกไปถึง 56 ล้านหยวน หรือราว 280 ล้านบาทและจนถึงตอนนี้ยังมีผู้คนจำนวนมากต้องฝ่าอากาศหนาวทารุณที่สุดในรอบหลายปีมาเข้าคิวยาวเพื่อรอซื้อตั๋วชม และคนที่ซื้อตั๋วรอชมในระบบ 3 มิติต้องรอนานหลายสัปดาห์