พ่ออัดคลิปส่งให้ครู ตีลูกสาว 44 ครั้ง ลงโทษสอบได้ที่ 5 เสียงร้องไห้จ้า เห็นแผลยิ่งปวดใจ
มีรายงานผู้ต้องสงสัยคดีความรุนแรงในครอบครัว ในเขตซินเตี้ยน เมืองนิวไทเป ไต้หวัน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ถูกพ่อใช้ไม้ตี 44 ครั้ง เพราะสอบได้อันดับที่ 5
ตามรายงานพบว่า คุณพ่อมีความคาดหวังต่อคะแนนของลูกสาวสูงมาก โดยทำข้อตกลงกับลูกสาวก่อนสอบว่าควรทำคะแนนทั้ง 5 วิชาให้ได้มากกว่า 95 คะแนน เมื่อทำไม่ได้ตามที่ตกลงกันไว้ คุณพ่อจึง "บังคับใช้กฎหมายครอบครัว" พร้อมโพสต์คลิปวิดีโอลงโทษทางอินเทอร์เน็ต แล้วยังส่งไปให้คุณครูผยแพร่ให้ชาวโลกได้รับรู้ด้วย
หลังจากคุณครูได้ดูคลิปวิดีโอแล้ว ก็รีบแจ้งกับทางครูใหญ่ทันที ก่อนที่ทางโรงเรียนจะรายงานไปยังศูนย์ความรุนแรงในครอบครัว และขอให้นักสังคมสงเคราะห์ช่วยจัดการ การเห็นขาของเด็กเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ทำให้คุณครูรู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก พร้อมทั้งยืนยันว่าเด็กนักเรียนคนนี้มีผลการเรียนอยู่ในกลุ่มที่ดีที่สุดเสมอ
ขณะที่ชาวเน็ตที่ได้ดูคลิปวิดีโอต่างรู้สึกโกรธ ในคลิปจะเห็นว่าเด็กหญิงได้รับคำสั่งจากพ่อให้คุกเข่าต่อหน้ากล้องโดยถือใบที่เขียนข้อตกลงไว้ในมือ ในขณะที่พ่อใช้ไม้ตีขาของเธอซ้ำๆ เพื่อลงโทษที่เธอสอบได้ที่ 5 แม้ว่าเด็กหญิงจะทนไม่ไหวถึงกับร้องไห้ขอความเมตตา แต่พ่อยังคงตีเธอต่อไป 44 ครั้งติดต่อกัน ส่งผลให้ต้นขาของเธอมีรอยแผลเป็น
ด้านครูใหญ่ของโรงเรียน กล่าวว่า ครูประจำชั้นได้รับคลิปลงโทษจากผู้ปกครอง และแจ้งให้โรงเรียนทราบทันที ทางโรงเรียนจึงแจ้งไปยังหน่วยรักษาความปลอดภัยของโรงเรียน และแจ้งสำนักกิจการสังคม รวมทั้งศูนย์ความรุนแรงในครอบครัว เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยจัดการ ทั้งนี้ เด็กหญิงอยู่ในอาการสงบแล้วเมื่อมาถึงโรงเรียนในวันรุ่งขึ้น แต่รอยฟกช้ำที่ขาทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ
ครูใหญ่เน้นย้ำว่าแม้จุดเริ่มต้นของพ่อจะเป็นความตั้งใจดี และได้ทำข้อตกลงร่วมกับลูกสาวแล้วก็ตาม แต่การลงโทษทางร่างกายไม่สอดคล้องกับรูปแบบการเลี้ยงดูสมัยใหม่อีกต่อไป ดังนั้น จึงแนะนำให้พ่อสื่อสารและสร้างวินัยในเชิงบวกให้กับลูกสาว
สำนักงานการศึกษาแห่งเมืองนิวไทเป ได้เข้ามาแทรกแซงและขอให้ผู้ปกครองของนักเรียนลบคลิปที่โพสต์ จากนั้นจึงเริ่มกระบวนการให้คำปรึกษา ดูแลสภาพร่างกายและจิตใจของเด็กทันที และแม้ขณะนี้เป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อน แต่ยังคงมีการช่วยเหลือเพื่อการฟื้นตัวด้านจิตใจของนักเรียน และสื่อสารกับผู้ปกครองอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับระเบียบวินัยเชิงบวก หากจำเป็นก็จะทำการเยี่ยมบ้านนักเรียนด้วย