หนุ่มโหดทุบหลานสาวเมีย 12 ขวบ จนตาย เอาศพยัดถังโบกปูน อ้างเด็กขโมยของบ่อย

หนุ่มโหดเอาไม้เบสบอลทุบหลานสาวเมีย 12 ขวบ ที่รับมาเลี้ยงเป็นลูก จนตายในบ้านย่านบางเขน นำศพยัดถังน้ำแข็งโบกปูนทับ  

ร.ต.อ.ธนศักดิ์ พ้องเสียง รอง สว.(สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุฆาตกรรม ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนพหลโยธิน ซอย 48 แยก 19 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม กำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ภูมิพล และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นบ้านทาวเฮ้าส์ 2 ชั้น ประกอบกิจการรับจ้างแพ็คสินค้าใส่กล่องเพื่อส่งมอบให้บริษัทขนส่ง จากการตรวจสอบบริเวณครัวหลังบ้านชั้นล่าง พบถังพลาสติก ขนาด 200 ลิตร สีน้ำเงิน วางอยู่ใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างจาน เมื่อนำถังดังกล่าวออกมาเปิดดูพบมีการถมด้วยดินอยู่ชั้นบนสุด และมีการโบกปูนทับในชั้นรองลงมา เมื่อควักดินและทุบทำลายปูนออก พบศพเด็กอายุเพียง 12 ปี หลานสาวเจ้าของบ้าน ถูกฆ่านำศพยัดถังในสภาพเปลือยกาย มีถุงขยะสีดำและผ้าขนหนูสีชมพูห่อหุ้มร่างเอาไว้ นอกจากนี้ ยังบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งตามใบหน้าและร่างกายหลายแห่ง แพทย์สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 48 ชั่วโมง

จากการสอบสวน น.ส. เบลล์ อายุ 24 ปี ผู้แจ้งเหตุ ให้การว่า ด.ญ.อริศสา ผู้ตายเป็นบุตรสาวของญาติห่างๆ กับตน แต่ไม่ได้เรียนหนังสือ และไม่ได้พักอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่แท้จริง ตั้งแต่ประมาณ 5 ขวบจนถึงปัจจุบัน ผู้ตายมี น.ส.มิ้นท์ อายุ 30 ปี ลูกพี่ลูกน้องของตน และ นายยุทธนา หรือ “แจ๊บ” อายุ 29 ปี สามีของ น.ส.มิ้นท์ เป็นผู้รับอุปการะในฐานะพ่อและแม่รับเลี้ยง แต่ที่ผ่านมาทราบว่า ด.ญ.วัย 12 ปี ผู้เสียชีวิต มีอุปนิสัยค่อนข้างก้าวร้าว และชอบลักขโมยข้าวของภายในบ้าน จน น.ส.มิ้นท์ และ นายยุทธนา ต้องว่ากล่าวตักเตือนและทำโทษด้วยการตีอยู่หลายครั้ง แต่ยิ่งตี ด.ญ.วัย 12 ปี ก็ยิ่งต่อต้าน ทำให้พ่อและแม่ที่รับเลี้ยงเกิดความเครียดจนต้องนำเรื่องมาปรึกษาตน ซึ่งก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร

กระทั่งเมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา น.ส.มิ้นท์ และ นายยุทธนา พากันขับรถเก๋งเดินทางไปหาตน ที่บ้านพักย่านรามอินทรา ก่อนที่ นายยุทธนา จะยอมรับสารภาพว่า ใช้ไม้เบสบอล ตี ด.ญ.วัย 12 ปี จนเสียชีวิตแล้ว ตั้งแต่ช่วงตี 1 ของวันที่ 2 ก.ค. สาเหตุเกิดจากจับได้ว่าผู้ตาย ขโมยอาหารเสริมซึ่งเป็นสินค้า ที่ต้องแพ็กนำส่งให้ลูกค้าไปรับประทาน โดยหลังจากที่พลั้งมือตีลูกที่ตัวเองรับมาเลี้ยงจนตาย นายยุทธนา ได้วางแผนจะทำลายศพด้วยการหั่นแต่ไม่กล้า จากนั้นช่วงหัวค่ำวันเดียวกัน จึงไปซื้อถังพลาสติกขนาดใหญ่มาใส่ศพโบกปูนและถมดินทับ ก่อนที่จะตัดสินใจมารับสารภาพกับตน ให้ช่วยแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยหลังจากที่ตนแจ้งความแล้ว นายยุทธนา ก็ได้เดินทางไปหาเพื่อนแถวแฟลตดินแดงแล้วไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ส่วน น.ส.มิ้นท์ ผู้เป็นภรรยา ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนนำตัวไปสอบปากคำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้ประสานให้ฝ่ายสืบสวนติดตามตัวนายยุทธนา มาดำเนินคดี ส่วน น.ส.มิ้นท์ นั้น ต้องรอผลสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็นมากน้อยเพียงใด หากพบว่ามีพฤติกรรมร่วมกันกระทำความผิดก็จะแจ้งข้อหาดำเนินการในฐานะผู้ร่วมกันฆ่าฯ และร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพด้วย ส่วนผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชันสูตรที่นิติเวชรพ.ภูมิพล อย่างละเอียดก่อนมอบให้ญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป