แพรรี่ ฟาดเดือดคนต่อต้าน "พระเขื่อน" บัณเฑาะก์บวชไม่ได้ ตอบแซ่บสมมงมิสเปรียญ 9
แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร โพสต์เฟซบุ๊กภาพข่าวจากสำนักข่าวหนึ่ง โดยมีการพาดหัวข่าวระบุว่า ชาวพุทธในเน็ตต่อต้านพระเขื่อน ชี้พระเขื่อนเป็นบัณเฑาะก์ บวชไม่ได้ แต่หากบวชแล้วต้องให้สึกเสีย ชี้สอบวินัยพระอุปัชฌาย์ที่บวชให้ด่วนๆ
โดยแพรรี่ ระบุข้อความว่า "มึงจะไปต่อต้านเขาทำไมคะ ในเมื่อเขาบวชภายใต้กฎเกณฑ์ที่พระวินัยให้การรับรอง เขาไม่ได้บวชภายใต้ความเห็นชอบจากชาวเน็ตอย่างมึงนะคะ สงสัยอะไรก็ศึกษาเลยค่ะดิฉันเคยพูดไปหลายทีแล้วว่า เรื่องบัณเฑาะก์เนี่ย ท่านมีอธิบายไว้ชัดเลยในคัมภีร์สมันตปาสาทิกา (คัมภีร์อธิบายพระวินัย) ในคัมภีร์สมันตปาสาทิกา ระบุไว้ชัดว่า ในบัณเฑาะก์ 5 ประเภทนั้น บัณเฑาะก์ที่ห้ามการอุปสมบทอย่างเด็ดขาด มีแค่ ๒ ประเภทเท่านั้น คือ 1 บุคคลที่ถูกตอนอวัยวะเพศไปแล้ว (ปัจจุบันอาจหมายถึงคนที่แปลงเพศด้วย)
กับ 2 บุคคลผู้มีความบกพร่องทางอวัยวะเพศ (ระบุไม่ได้ว่าเป็นเพศไหน) ถ้าถึงขั้นนี้ยังไม่กระจ่างก็ให้ไปดูในฎีกาวิมติวิโนทนี (คัมภีร์อธิบายความสมันตปาสาทิกาอีกชั้นหนึ่ง) ซึ่งพระฎีกาจารย์ท่านก็เขียนไว้ชัดเช่นกันว่า ที่บอกว่า 2 ประเภทนี้ ไม่ห้ามการบรรพชา นั่นก็คือหมายถึง อนุญาตการอุปสมบทศาสนาพุทธในเมืองไทยเป็นเถรวาทนะคะ ดังนั้นหากมีข้อสงสัยใดๆ ในพระธรรมวินัย ข้อสงสัยนั้นๆ ย่อมต้องตรวจสอบด้วยข้ออรรถข้อธรรม ซึ่งมีการอธิบายไว้ชัดในคัมภีร์ชั้นต่างๆที่สำคัญเลย ดิฉันอยากจะบอกให้ทราบว่า การบวชจริงๆ นั้น เป็นแต่เพียงขั้นตอนของการรับรองค่ะ มีพระอุปัชฌาย์เป็นผู้นำพาและรับผิดชอบในตัวกุลบุตรต่อหมู่สงฆ์ มีหมู่สงฆ์เป็นสักขีพยานในการรับรู้ถึงการมีอยู่ของภิกษุใหม่
การบวชไม่ใช่เรื่องของชาวเน็ตนะคะ พักก่อน ศาสนาให้พื้นที่กับผู้คนในการฝึกหัดขัดเกลาอุปนิสัยค่ะ บัณฑิตไม่ติเตียนใครอย่างปราศจากปัญญานะคะ ภิกษุดีเลวไม่ได้วัดกันที่ว่าก่อนบวชมีพฤติกรรมอย่างไรค่ะ แต่วัดกันที่ว่าบวชแล้วครองตนอย่างไรต่างหาก
ปาราชิกข้อแรกมาจากพระผู้ชายนะคะ ไม่ได้มาจากพระบัณเฑาะก์ ฝากไว้ให้คิด แต่ถ้าจะไม่คิดก็แล้วแต่ จบ"
พร้อมกันนี้ยังมีความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า บวชแล้วไม่ดีจะตำหนิติเตียนไม่ว่ากันเลยค่ะ แต่จะไปด่าเขา กีดกันเขา อคติต่อเขา (เพียงเพราะเรื่องเพศสภาพ) ทั้งๆ ที่เขามีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะบวช และเขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรเสียหาย แบบนี้ทำไม่ได้ค่ะ เป็นชาวพุทธแบบนี้ไม่น่ารักนะคะ, อยากจะเตือนนะคะว่า เวลามองอะไรอย่าเผลอมองแบบเหมารวม เหมือนมองพระ ควรมองที่พฤติกรรมส่วนตัวของรูปนั้นๆ พระผู้ชายบวชเข้าไปแล้ว ทำตัวเสื่อมเสีย มีไหมคะ มีค่ะ เยอะด้วย พระที่เป็นบัณเฑาะก์บวชเข้าไปแล้ว ทำตัวเสื่อมเสีย มีไหมคะ มีค่ะ เยอะด้วยเช่นกัน แต่ถามว่า พระเหล่านั้นที่ทำตัวไม่เหมาะสม มีความหมายเท่ากับพระทุกรูปหรือเปล่า ก็ต้องตอบว่าไม่ใช่
ถามว่าพระที่ปฏิบัติดีมีไหม ก็ต้องตอบว่า มีค่ะ ดังนั้นดูพระ ให้แยกดูไปนะคะ ดูที่พฤติกรรม ไม่ใช่ดูที่เพศสภาพ พระบวชเข้าไปแล้วมีเพศเดียวค่ะ นั่นคือเพศบรรพชิต ถ้าเมื่อไหร่ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของความเป็นบรรพชิต ไม่ว่า พระรูปนั้นจะเป็นใคร ก็ควรแก่การตำหนิค่ะ
ขณะเดียวกันก็มีชาวเน็ตเข้าไปคอมเมนต์ในโพสต์แพรรี่ด้วยว่า "กะเทย บวชไม่ได้ครับ ชายแท้เท่านั้นบวชได้ เวลาจะบวช พระอุปัชฌาย์ จะถามก่อนว่า ปุริโสสิ แปลว่า เป็นบุรุษรึป่าว หรือก็คือถามว่า เป็นผู้ชายรึป่าว ถ้าใช่ถึงจะบวชได้ จริงครับที่ว่าบวชนั้นไม่เกี่ยวกับว่าชาวเน็ตอนุญาตรึไหม แต่มันเกี่ยวกับธรรมวินัย กฎเกณฑ์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านวางเอาไว้ และท่านวางไว้แบบนี้คับ ชายแท้เท่านั้นบวชได้"
โดยแพรรี่ เข้ามาตอบอย่างเดือดด้วยว่า "ก็ยังมี kวย อยู่ค่ะ จะให้ตอบว่าเป็นผู้หญิงหรอคะ"