"แจ๊บ" ไม่ยอมทำแผน วงจรปิดจับภาพ มิ้นต์สุดใจเย็น นั่งสูบบุหรี่ช่วยผัวอำพรางศพ

ความคืบหน้าล่าสุด หลังจากที่ตำรวจจับกุมนาย แจ๊บ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุทำร้ายร่างกาย เด็กหญิงอายุ 12 ขวบ จนเสียชีวิต อำพรางศพโดยการยัดร่างลงถังน้ำแข็ง และโบกทับด้วยปูน ช่วงเช้าตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาออกจากห้องคุมขัง มาพิมพ์ลายนิ้วมือ และเค้นสอบปากคำ เพิ่มเติมอีกครั้ง ก่อนที่จะมีการนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ปรากฏว่า หลังจากที่ตำรวจสอบปากคำแล้วเสร็จ ในช่วงเวลา 14:00 น. นายแจ๊บ ขอใช้สิทธิตามกฎหมาย ไม่ประสงค์ที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ด้าน พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ผู้ต้องหาไม่ยินยอมที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ทำได้ แต่ทางตำรวจมีหลักฐานเพียงพอแล้ว โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ที่เห็นว่านายแจ๊บ เป็นคนลงมือทำร้ายเด็กหญิงจนเสียชีวิตเพียงคนเดียว

ส่วนที่มีการกล่าวหาว่า มิ้นต์ ร่วมก่อเหตุนั้น จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ยังไม่พบว่า มิ้นต์ เป็นคนลงมือใช้หม้อตีน้อง แต่พบว่ามิ้นต์ มีพฤติกรรมร่วมกันกับแจ๊บในการอำพราง ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ฐานร่วมกันอำพราง

นอกจากนี้ตำรวจยังได้ถังน้ำแข็ง ผ้าห่ม และหลักฐานอื่น ๆ ที่พบในที่เกิดเหตุ นำส่งกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อทำการตรวจหาลายนิ้วมือแฝง DNA เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในสำนวน เทียบเคียงมัดตัวผู้ก่อเหตุ

ขณะที่เรื่องของปมการติดพนันออนไลน์ของนางสาวมิ้น และเรื่องที่มีการกล่าวว่า เด็กขโมยเงินหลักแสน ไปเล่นพนันออนไลน์ ตำรวจจะมีการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากนี้ตำรวจจะเร่งรวบรวมหลักฐาน เพื่อเตรียมส่งตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังศาลอาญารัชดา ในวันพรุ่งนี้เวลา 10:00 น. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน ว่าจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ สำรวจร้านโชห่วย บริเวณซอยพหลโยธิน 48 แยก 21 ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเกิดเหตุไปเพียง 1 ซอย และเป็นร้านที่นายแจ๊บ ไปซื้อดินปลูกต้นไม้ นำไปอำพรางร่างของเด็กหญิงอายุ 12 ขวบ สอบถามเจ้าร้าน เผยว่า ไม่รู้จักกับนายแจ๊บ และไม่รู้ว่านายแจ๊บมาซื้อดินปลูกต้นไม้วันไหน ตกใจตอนที่มีสื่อมวลชนเข้ามาที่ร้าน ถึงรู้ว่าตัวเองขายดินให้ เพราะการซื้อขายดิน ได้ขายให้เหมือนลูกค้าทั่วไป ใครมาซื้อก็ขายโดยที่ไม่รู้ว่านำไปทำอะไร ราคาดิน 1 ถุงราคา 20 บาท 3 ถุง 50 บาท และถ้าซื้อ 100 บาท จะได้ 7 ถุง และตอนนี้ก็ยังจำไม่ได้ ว่าลูกค้าคนดังกล่าวซื้อไปกี่ถุง เพราะจำหน้าไม่ได้ ลูกค้าส่วนใหญ่จะใส่แมสปิดบังใบหน้าอยู่แล้ว

และที่ร้านก็ติดกล้องวงจรปิดแค่ตัวเดียว คือบริเวณโต๊ะเก็บเงิน จึงไม่มีหลักฐานเอามายืนยัน รวมถึงตั้งแต่เกิดเหตุก็ยังไม่มีตำรวจติดต่อมาแต่อย่างใด แต่ถ้าตำรวจมาสอบปากคำก็ยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง

ขณะที่ทางตำรวจ พบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด หลังเด็กหญิง 12 ขวบ เสียชีวิต ช่วงเวลา 08.30 น. ของวันที่ 2 ก.ค. นายแจ๊บ กำลังขนอุปกรณ์เพื่อใช้ในการอำพรางศพ โดยมีนางสาว มิ้นต์ ซึ่งเป็นภรรยาของนายแจ๊บ นั่งสูบบุหรี่รออยู่ที่บ้าน

ต่อมาเห็นนายแจ๊บ ได้ยกถังน้ำแข็งสีน้ำเงิน เข้ามาในบ้าน และเดินตรงเข้าไปในห้องครัว จากนั้นนางสาวมิ้นต์ มีการพูดคุยอะไรบางอย่างกับสามี ก่อนจะเดินมาช่วยยกถุงสีขาว คาดว่าน่าจะเป็นถุงบรรจุดินปลูกต้นไม้ เดินตามนายแจ๊บเข้าไปในห้องครัว และเห็นภาพนายแจ๊บ กำลังปูผ้าพร้อมกับลากสาวยางฉีดน้ำ เดินวนเวียนอยู่ในห้องครัว ขณะที่นางสาวมิ้นต์ ได้ยกถุงสีขาว เข้าไปหลังบ้านหลายครั้ง เช่นเดียวกับนายแจ๊บ ก็เดินออกมาช่วยยกถุงสีขาวเข้าไปครัว ก่อนที่ทั้ง 2 คน จะเดินออกมาพูดคุย เหมือนปรึกษาอะไรบางอย่าง ท่าทีคล้ายกับปรึกษาถึงวิธีจัดการทำลายศพ

ซึ่งจากภาพจะเห็นว่า นางสาวมิ้นต์ ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัว หรือไม่ได้ถูกสามีข่มขู่แต่อย่างใด ก่อนจะนั่งสูบบุหรี่ นำกรรไกรช่วยตัดเชือกถุงสีขาว ลักษณะคล้ายถุงปูนสำเร็จ ที่วางอยู่บนพื้น ก่อนจะยกถุงเดินเข้าไปในห้องครัว จากนั้นนางสาวมิ้นต์กลับมานั่ง บริเวณจุดแพกสินค้าออนไลน์ และนายแจ๊บ เดินออกมาหา นั่งปรึกษาอะไรกันบางอย่างกันอีกรอบ

โดยนายแจ๊บ ได้หยิบน้ำกระท่อมขึ้นมาดื่มไปพลางๆ แล้วนายแจ๊บ ก็เดินกลับเข้าไปในห้องครัวหลังบ้านอีกรอบ และมิ้นต์ก็ได้เดินตามเข้าไปเช่นกัน ก่อนที่นายแจ๊บ จะหยิบกะละมังสีชมพู ใบใหญ่ให้กับมิ้นต์ถือ และวางลงกับพื้น คาดว่าน่าจะเป็นอุปกรณ์ ที่มิ้นต์ใช้ผสมปูน ใช้ในการโบกทับที่ศพ ซึ่งทั้ง 2 คนช่วยกันผสมปูน

ขณะเดียวกัน ยังปรากฏภาพวงจรปิด ที่ร้านขายถังน้ำแข็งที่ตลาดไท ในจังหวัดปทุมธานี ช่วงเวลา 07.19 น. ของวันที่ 2 ก.ค. จะเห็นรถเก๋งสีบรอนซ์ทอง ขับเข้ามาจอดที่ลานจอด จากนั้นนายแจ๊บเปิดประตูลงมา แล้วเลือกดูถังที่วางอยู่หน้าร้าน ก่อนจะเดินไปคุยกับคนขายอยู่ซักครู่ จากนั้นก็เดินมาหานางสาวมิ้นต์ ที่นั่งอยู่ในรถ แล้วพูดคุยกัน ก่อนจะเดินออกมาเลือกดูถังหน้าร้านอีกครั้ง แล้วเดินเข้าไปในร้าน

ส่วนมุมกล้องในร้าน จะเห็นว่าพอนายแจ๊บเดินเข้ามาภายในร้าน เดินเลือกดูถังใส่น้ำแข็งที่วางอยู่เรียงราย โดยมีคนขายแนะนำ และนางสาวมิ้นต์ ได้เดินตามเข้ามาสมทบ โดยใช้เวลาในการเลือกซื้อถังน้ำแข็งประมาณ 3 นาที แล้วก็เดินไปบริเวณหลังร้าน แต่ไม่มีวงจรปิด

จากนั้นวงจรปิดหน้าร้าน เวลา 07.24 น. จะเห็นนางสาวมิ้นต์เดินออกมาก่อน แล้วนายแจ๊บก็แบกถังน้ำแข็งขนาด 120 ลิตร ออกมาจากร้านเดินไปข้างรถ แล้ววางถังลง แล้วเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารด้านหลัง ยกถังน้ำแข็งใส่รถปิดประตู ส่วนนางสาวมิ้นต์ก็ขึ้นไปนั่งในรถ แล้วนายแจ๊บก็ขึ้นรถขับออกไป

จากการสอบถามคนขายถัง บอกว่า นายแจ๊บ กับนางสาวมิ้นต์ ไม่ได้มีค่าที่พิรุธหรือลนลาน บอกเพียงว่า มาติดต่อขอซื้อถัง ซึ่งปกติร้านของตัวเองจะเปิดเวลา 8.00 น. แต่ในวันที่นายแจ๊บมาซื้อถัง มีวินมอเตอร์ไซค์ ที่รู้จักโทรมาบอกว่าให้รีบมาเปิดร้าน เพราะมีคนต้องการซื้อถังน้ำแข็งและเดินทางมาไกลต้องรีบกลับ จึงมาเปิดร้านก่อนเวลาให้