แฉอีกคลิปดีลลับเจ้าท่า เอื้อดูดหินทรายน้ำโขง โวเป็นเด็กนักการเมืองดัง ไม่มีใครกล้าแตะ

แฉเพิ่มอีกคลิปดีลลับ อ้างเป็นผู้อำนวยการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครพนม ช่วยเอื้อประโยชน์ผู้ประกอบการท่าทราย เลี่ยงกฎหมายดูดหินทรายน้ำโขง โวเป็นเด็กนักการเมืองชื่อดัง แม้กระทั่งทหารเรือยังไม่กล้าแตะ อ้างมีอำนาจดูแลเอื้อประโยชน์ผู้ประกอบการหินทรายถึงฤดูกาลหน้า หลังผู้ว่า รอง กอ.รมน. ปรับย้าย หลังเดือนตุลาคม ด้าน กรมเจ้าท่า ส่งเจ้าหน้าที่สอบเงียบภายใน ขณะตัวแทนสภาอุตสาหกรรม ยืนยันมีผู้ปรกอบการบางรายใช้ช่องโหว่กฎหมาย เอื้อประโยชน์ธุรกิจ ทำรัฐเสียหาย

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณีมีข่าว ความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์ ของผู้อำนวยการ สำนักงานกรมเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครพนม เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการดูดหินทรายน้ำโขง โดยอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมาย หลังมีชาวบ้านร้องเรียนเบาะแสการกระทำผิดกฎหมาย ทางด้าน นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม จึงได้นำหน่วยงานความมั่นคง และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ บังคับใช้กฎหมาย เพื่อป้องกันผู้ประกอบการแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ เลี่ยงภาษีเข้ารัฐ และป้องกันการเรียกรับผลประโยชน์ของหน่วยงานเกี่ยวข้อง จนกระทั่งต่อมามีการแฉคลิปเสียงหลุดดีลลับ ของบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้อำนวยการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครพนม ไปหารือกับผู้ประกอบการดูดหินทรายในพื้นที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พร้อมนำออกมาเผยแพร่ในสื่อโซเชียลไปแล้ว จนกลายเป็นข่าวดังทั่วประเทศ เชื่อว่าเป็นฝีมือผู้ประกอบการที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากหน่วยงานเจ้าท่า ทำให้ผู้ประกอบการเอกชน ทนพฤติกรรมไม่ไหว ในการอาศัยช่องว่างกฎหมายเรียกรับส่วย จึงต้องนำคลิปหลุดดีลลับออกมาแฉผ่านสื่อ

ล่าสุดพบว่า ยังมีกระแสดรามาในสื่อโซเชียล มีการนำคลิปเสียงดีลลับบุคคลที่อ้างว่าเป็น ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครพนม ที่แอบไปพูดคุยเอื้อประโยชน์แก่ผู้ประกอบการดูดหินทรายน้ำโขง ออกมาเผยแพร่ต่อเนื่องเป็นตอนที่ 2 พร้อมระบุเนื้อหาสำคัญคือ มีการกล่าวอ้างว่าจะช่วยเหลือเอื้อประโยชน์กับผู้ประกอบการดูดหินทราย พร้อมคุยโวว่าเป็นเด็กนักการเมืองชื่อดัง สามารถต่อสายพูดคุยกับอดีตผู้บัญชาการทหารเรือ ทำให้การเรือในพื้นที่ไม่กล้าแตะ นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยเสวนากันด้วยความสนุกสนาน และเชื่อว่าในการโยกย้ายข้าราชการช่วงเดือนตุลาคม จะมีผลทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมปรับย้าย รวมถึง รองผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.นครพนม หรือ กอ.รมน. จะต้องมีการปรับย้ายด้วย จะเป็นช่องว่าในการอำนวยความสะดวก เกี่ยวกับการเสนอพิจารณาอนุญาตดูดหินทรายในฤดูกาลใหม่ คือ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 โดยจะต้องวางแนวทางร่วมกัน ที่จะเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการดูดหินทรายน้ำโขง

ขณะเดียวภายหลังเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม ได้ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งหน่วยงานทหาร หน่วยงานความมั่นคง เพื่อป้องกันปราบปรามเอาผิดกับบุคคลเกี่ยวข้องหากพบข้อมูลกระทำการผิดกฎหมาย รวมถึงการเรียกรับส่วย จากช่องโหว่ทางกฎหมาย ล่าสุดพบว่า มีเจ้าหน้าที่จากกรมเจ้าท่า ส่วนกลาง ลงพื้นที่มาสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่เป็นการดำเนินการภายใน และไม่ขอให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ส่วน ผู้อำนวยการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครพนม ยังไม่ออกมาชี้แจ้งข้อเท็จจริง ทั้งที่ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสอบถามข้อมูล อีกทั้งยังมีการหลบสื่อ

ด้าน นายอานุภาพ แสนคำ รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม ฝ่ายการค้าชายแดน เปิดเผยว่า สำหรับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม ถือเป็นหน่วยงานเอกชน ที่พยายามขับเคลื่อนดูแล ผู้ประกอบการด้านต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าของ จ.นครพนม โดยเฉพาะธุรกิจดูดหินทรายแม่น้ำโขง ถือว่า เป็นธุรกิจที่มีผลต่อเศรษฐกิจการค้าในพื้นที่ รวมถึงโครงการก่อสร้าง ขณะเดียวกันสภาอุตสาหกรรม จ.นครพนม ปัจจุบันมีหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในการประสานงานกับผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความเข้าใจกับมาตรฐานแนวทางปฏิบัติร่วมกัน เพราะธุรกิจประกอบการท่าทรายจะต้องมีหน่วยงานพิจารณาอนุญาต รวมถึง 17 หน่วยงาน แต่สภาอุตสาหกรรม จ.นครพนม ยังไม่มีหน้าที่ร่วมพิจารณา ทำหน้าที่เพียงเป็นพี่เลี้ยง ยอมรับว่าปัจจุบันยังมีปัญหาคือ การนำเข้าหินทรายน้ำโขงจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะยังไม่มีข้อตกลงระหว่างหน่วยงาน หรือการชี้ชัดเรื่องแนวเขตน่านน้ำระหว่างไทยลาว เป็นช่องว่างให้ผู้ประกอบการบางราย ใช้ช่องว่างของกฎหมาย เอื้อประโยชน์ในการประกอบธุรกิจ ทำให้เกิดปัญหาข้อพิพาทตามมา ทั้งหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงผู้ประกอบการด้วยกัน เรื่องมาตรฐานแนวทางการปฏิบัติ อย่างไรก็ตามในอนาคตหรือฤดูกาลพิจารณาอนุญาตการดูดหินทรายน้ำโขง หากสภาอุตสาหกรรมสามารถเข้าไปมีส่วนร่วม ในการพิจารณาอนุญาตการประกอบกิจการได้ เชื่อว่าจะเป็นเรื่องดี ที่จะเกิดความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติมากขึ้น