ขัตติยะ เล็งส่งทนายขอศาลเลิกหมายจับ!
"เสธ.แดง" เตรียมส่งทนายขอศาลไต่สวนฉุกเฉิน ยกเลิกหมายจับ อัด ตร.ทำผิดขั้นตอน ยันไม่เกี่ยวข้องยิง ทบ. เผยถูกยัดของกลางยันบ้านไม่มีระเบิด "สพ.ทบ." ตรวจร่องรอยพบแรงอัด กระจกแตก - ร้าว เชื่อเป็นระเบิด แต่ไม่ฟันธง เอ็ม -79 เพราะไม่มีเศษวัสดุยืนยัน ส่วน "อนุพงษ์" เผย ไม่เคยพูดเป็น เอ็ม -79 ชี้สื่อ เปิดปม
(22ม.ค.) พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หรือ เสธ.แดง เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เดินสายหาสมาชิกพรรคขัตติยธรรมอยู่ไม่ได้หลบหนี แต่หากมีการอนุมัติออกหมายจับ ก็จะส่งทนายไปร้องต่อศาลให้ไต่สวนฉุกเฉินในการยกเลิกหมายจับ เนื่องจากตามกฎหมายระบุว่า การจะขออนุมัติออกหมายจับจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้าทำในที่สาธารณะ
และในวันนั้นตนก็ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุของการจับอาวุธสงคราม และรถยนต์ก็อยู่ในบ้านพัก ไม่ได้อยู่ในที่สาธารณะ การกระทำดังกล่าวถือว่าผิดขั้นตอน เพราะในความเป็นจริงน่าจะต้องออกหมายเรียกก่อน ซึ่งหากออกหมายเรียกสองครั้งแล้วยังไม่ไปพบพนักงานสอบสวนจึงจะขออนุมัติออกหมายจับ อีกทั้งตนเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยิง บก.ทบ. แต่เป็นการโมเม และอคติของคนบางคน อย่างไรก็ตาม อาวุธที่ยึดจากบ้านมีเพียง ปืนพกขนาด .32 มม.เท่านั้นที่เป็นของตัวเอง แต่มีทะเบียนถูกต้อง ส่วนระเบิด ไม่ใช่ของตนเอง น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจยัดของ
พล.ต.ขัตติยะ บอกว่า สำหรับ จ่าดำ ซึ่งถูกรวบตัวพร้อมอาวุธสงครามจำนวนมากนั้น ไม่เคยเกี่ยวข้องกัน ไม่ได้เจอกันมา 4-5 ปี เคยทำงานสมัยที่ตามนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน โดยตนได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ในชุดเฉพาะกิจปราบปรามแรงงานผิดกฎหมาย โดย ม.พัน 3 ส่ง จ่าดำ ไปร่วมคณะทำงานด้วย จากนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน
ส่วนไอ้เณร ที่ถูกรวบตัว จับใส่กุญแจมือนั้น กลายเป็นภาพที่ทำลายขวัญกำลังใจของทหารด้วยกัน เพราะในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีตำรวจเข้าไปค่ายทหารบุกเข้าไปจับกุมทหารที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ใส่กุญแจมือ เหตุการณ์ทั้งหมด เกิดจากอคติของ ผู้นำทหาร ที่พอมีการยิง บก.ทบ. ก็เข้าใจว่าเป็นฝีมือ เสธ.แดง เป็นอาการของพวกแต๋วแตก กลัวตาย เลยเอาตำรวจเข้ามาจัดการทหาร เสื่อมเสียศักดิ์ศรีกองทัพ ซึ่งเริ่มจากการที่ผู้นำทหารคนนี้เข้าไปร่วมปฏิวัติ ไปร่วมกับระบบอำมาตย์ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง นายกฯสมัคร ในการสั่งการให้ปราบม็อบ แต่ ดันไปจัดกำลังอารักขาพันธมิตรฯ
มีรายงานว่า ในการตรวจสอบในที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่กรมสรรพาวุธทหารบก บริเวณผนังห้องออกกำลังกายของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ชั้น 6 ที่อยู่ในชั้นเดียวกับห้องทำงานของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พบว่า ผนังซีเมนต์ เป็นหลุมลึก และ มีรอยระเบิดกระจายรอบๆ และกระจกยังมีรอยแตก และ ร้าว ยังไม่ได้มีการเปลี่ยน ในขั้นต้นสันนิษฐานว่าเป็น อาวุธประเภทระเบิด แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นอาวุธประเภทไหน ในที่เกิดเหตุวันนั้น เจ้าหน้าที่เก็บได้เพียงเศษโลหะเล็กๆ 2-3 ชิ้น ที่ยังไม่ได้บ่งชี้ได้ว่าเป็นส่วนของระเบิด หรือ วัสดุอะไร อย่างไรก็ตาม พล.อ.อนุพงษ์ ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ส่งหลักฐาน ทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน และ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้บอกว่า อาวุธที่ยิงเข้ามาคือ M-79 แต่เป็นการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนว่าเป็นอาวุธดังกล่าว