โพสต์เดียวฮือฮา แชร์เทคนิคใช้ถัง 20 ลิตร เก็บเงิน 2 ปี เปิดนับทำผู้ชมอึ้ง อยากรู้ทำงานอะไร?

ชาวเน็ตไต้หวันแชร์เทคนิคการออมเงินเฉพาะตัว โดยบอกว่าการใช้ถังขนาด 20 ลิตรเป็นกระปุกออมสิน ช่วยให้เก็บเงินได้หลายล้าน ภายในเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น

หลายคนมีนิสัยออมเงินในแต่ละวัน เช่น ลงทุน ฝากเงินในธนาคาร หรือหยอดเหรียญในกระปุกออมสิน ประสิทธิผลของการออมเงินแต่ละวิธีนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละคน

ล่าสุดมีชาวเน็ตไต้หวันแชร์เทคนิคที่ทดลองด้วยตัวเอง โดยบอกว่าการใช้ถังขนาด 20 ลิตรเป็นกระปุกออมสิน โดย "หยอดเพียงแบงค์พันเท่านั้น" เมื่อผ่านมาเกือบ 2 ปี ตัดสินใจเปิดถังออกมานับ พบว่ามันช่วยให้มีเงินเก็บมากกว่า 4.9 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 5.4 บาท) 

โดยเรื่องดังกล่าวถูกโพสต์ลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก 爆廢公社二館 เมื่อเช้าวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยเจ้าของโพสต์บอกว่า ในตอนแรกสงสัยว่างขนาด 20 ลิตร จะสามารถบรรจุแบงค์พันดอลลาร์ไต้หวันได้มากเท่าไหร่ จึงทดลองหยอดแทนกระปุกออมสินมาเกือบสองปี และในที่สุดก็เต็มถัง พบว่ามีเงินสดอยู่ทั้งหมด 4.9 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 5.4 บาท)

ทันที่ที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา ชาวเน็ตหลายคนแสดงความประหลาดใจกับสิ่งนี้ และทิ้งคอมเมนต์เอาไว้ว่า

"การออมเงินได้เกือบ 7,000 ต่อวัน เกินจริงเกินไป"

"ออมเงินสองปีแทบจะซื้อบ้านได้ทั้งหลัง"

"หมายความว่าคุณเก็บเงินได้ถึง 200,000 ในหนึ่งเดือน แปบว่ารายได้ต่อเดือนของคุณคงจะสูงมาก"

"น่าประทับใจจริงๆ ที่สามารถออมเงินได้ 2 ปี แต่ความจริงฝากธนาคารหรือลงทุนเพิ่มก็จะดี"

"ต่อไปคุณคิดจะทดลองเก็บเงินในแทงค์น้ำไหม?"

 “นี่คือ ไร้สาระจริงๆ...”

“ฉันไม่สามารถมีเงินจำนวนนี้ได้ ถึงแม้ว่าฉันจะยอมอดน้ำอดอาหารก็ตาม”

“อยากถามว่า... มีตำแหน่งงานว่างมั้ย อยากสมัคร”

"ลูกพี่คะ ช่วยบอกฉันทีว่าฉันจะเริ่มออมเงิน 200,000 ต่อเดือนได้อย่างไร" 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจำนวนเงินเก็บจะทำให้คนอื่นตื่นตาตื่นใจ แต่เจ้าตัวกลับยังไม่ค่อยพอใจกับเงินจำนวนนี้ ถอนหายใจแล้วบ่นว่า "โอ้ย น้อยกว่าที่คาดไว้มาก" โดยบอกว่าถ้าพยายามยัดแบงก์ลงถังให้แน่นที่สุด ก็น่าจะเก็บเงินได้มากถึง 5.5-6 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ยอดที่เปิดออกมานับตอนนี้ถือว่าน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก แต่ก็ตัดสินใจจะเอาไปฝากธนาคารโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้เมื่อต้องเผชิญคำถามเกี่ยวกับกองธนบัตรจำนวนมากนี้ ผู้โพสต์ยังอธิบายด้วยว่า "ฉันทำงานที่ถูกกฎหมาย (ขายของจ่ายภาษีโดยสุจริต) และไม่ได้ฉ้อโกง หรือกระทำผิดกฎหมาย เพราะหากเป็นเงินที่ผิดกฎหมายและไร้ยางอาย ก็จะทำให้ญาติพี่น้องลำบากใจไปด้วย แต่วิธีการเก็บเงินแบบนี้ไม่แนะนำอย่างยิ่ง เว้นแต่บ้านของคุณจะปลอดภัย 100%”